บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดสองไร่ใน กรุงเทพฯนี่เอง ซึ่งเคยลง “บ้านและสวน” ไปเมื่อประมาณยี่สิบห้าปีก่อน ตัวบ้านกินพื้นที่หนึ่งในสี่ของที่ดิน ส่วนที่เหลือเป็นสวนสวย แต่ตอนนี้มีการปรับปรุงใหม่ โดยคุณอำนาจได้ต่อเติมห้องเพิ่ม เพื่อรองรับการใช้งานได้เหมาะสมยิ่งขึ้น
บ้านนี้อาจต่างจากบ้านทั่วไปตรงที่ออกแบบ ประตูรั้วให้เป็นส่วนเดียวกับโรงจอดรถ ซึ่งเชื่อมต่อกับครัว อีกด้านเป็นทางเข้าห้องรับแขก มีสวนขนาดย่อมแทรกอยู่ จนอาจเรียกว่าเป็นด้านหลังบ้านก็ไม่ผิดนัก โดยส่วนที่ตั้งใจให้เป็นหน้าบ้านกลับหันไปยังสวนหลังบ้าน ซึ่งมีขนาดกว้างใหญ่ไม่น้อย พื้นที่ที่ต่อเติมใหม่เดิมเคยเป็นเฉลียงหน้าบ้าน เมื่อแล้วเสร็จก็ปรากฏเป็นบ้านสไตล์ คลาสสิก ที่ดูงดงาม ทว่าเบื้องหลังการก่อสร้างก็มีอุปสรรคเช่นกัน
“ส่วนเดิมที่เคยเป็นเฉลียงนี้มีฐานรากเป็น โครงสร้างของบ้านที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ห้องใหม่ที่สร้างจึงต้องวางห่างจากตัวบ้านเดิมประมาณ 4 เมตร ซึ่งห้องใหม่ไม่มีปัญหา ปัญหาอยู่ที่ส่วนเชื่อมต่อระหว่างห้องที่ต้องยื่นคานรับพื้นจากส่วนใหม่กลับ มายังส่วนเดิม เพื่อทำให้พื้นที่ทั้งสองส่วนต่อกันอย่างสนิทพอดี แล้วยังมีเรื่องของหลังคาที่มีระดับความสูงต่างกันและหันจั่วคนละด้าน เราจึงต้องแก้ปัญหาส่วนนี้ด้วยครับ”
ส่วนต่อเติมใหม่ออกแบบเป็นห้องชั้นเดียว ทำเพดานค่อนข้างสูง มีระเบียงด้านหน้าหันไปทางสวน ดูจากภายนอกอาจมีช่องแสงหรือหน้าต่างไม่มากนัก แต่เมื่อเข้าไปภายในห้องกลับดูโปร่งและรู้สึกสบาย อาจเพราะใช้สีขาวเป็นหลัก ทำให้บ้านดูสว่าง
“สาเหตุที่ต้องสร้างส่วนนี้เพิ่มก็เพราะว่า ที่บ้านผมจะมีการแสดงคอนเสิร์ตเปียโนเพลงคลาสสิกเป็นประจำเดือนละครั้ง จัดในห้องรับแขกส่วนเดิมของบ้าน ซึ่งสามารถเปิดผนังเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร จุได้ประมาณ 40 คน ก็อยากให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น นอกจากนี้ผมยังขายบ้านที่จังหวัดเลยไป ก็มีเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่ต้องนำกลับมา แล้วหาที่วางไม่ได้ ที่สำคัญมากๆก็คือ ผมมีภาพสีน้ำมันขนาดใหญ่เป็นภาพของผู้คนที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม ตั้งแต่แม่บ้าน คนขับรถ น้องๆที่เล่นดนตรีด้วยกัน เพื่อนสนิทคนใกล้ชิดเกือบสิบภาพ บ้านเดิมก็ไม่มีที่แขวนและผนังก็สูงไม่เพียงพอ จึงต้องทำห้องใหม่ครับ”
การออกแบบห้องใหม่นี้มีการวางแผนมาอย่างดี โดยไม่ได้ลดคุณค่าความงามของสวนซึ่งอยู่คู่บ้านมายาวนานถึงยี่สิบห้าปี เพราะต้นไม้ใหญ่หรือแม้กระทั่งไม้พุ่มกอเล็กกอน้อยยังคงเขียวชอุ่มอยู่เสมอ โดยเฉพาะองค์ประกอบของสวนอย่างสะพานสีฟ้าและศาลายังคงเป็นจุดดึงดูดสายตาได้ ไม่เสื่อมคลาย มีการนำพรรณไม้ใหม่ๆมาเสริมแต่งแทนต้นที่ตายไป ห้องใหม่จึงมีมุมมองเห็นสวนสวย มีส่วนนั่งเล่นใหม่หน้าลานบ้านที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้มีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น
หากชีวิตของเรารายล้อมด้วยสิ่งที่ชอบและใช่ ย่อมก่อให้เกิดความสุนทรีย์ที่สร้างความรื่นรมย์ได้เสมอ เหมือนดังเช่นเจ้าของบ้านหลังนี้ที่เปี่ยมด้วยสุนทรียะทั้งในด้านการออกแบบ และวิถีชีวิตของตัวเอง
เรื่องโดย : Atta Otto
ภาพโดย : สังวาล พระเทพ, สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
เจ้าของ : คุณอำนาจ คีตพรรณา สถาปนิกและนักจัดสวน