เพราะเกิดและเติบโตที่จังหวัด หนองคาย จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ คุณขาบ-สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ฝีมือดีหลงรักทุกอย่างเกี่ยวกับอาหารอย่างถอนตัวไม่ขึ้น คุณขาบเล่าว่าที่หนองคายนั้นเป็นสังคมของคนอินโดจีน มีทั้งชาวลาวและเวียดนาม ซึ่งมีวิถีการรับประทานอาหารในแนวธรรมชาติและเพื่อสุขภาพเป็นหลัก โดยเฉพาะการบริโภคผักสดในทุกมื้ออาหารก็เป็นส่วนบ่มเพาะให้เขารักที่จะทำ อาหารต่างๆ จนเมื่อเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ยังวนเวียนอยู่ใน ห้องครัว ในแวดวงการทำอาหารและยึดเป็นอาชีพหลักได้เป็นอย่างดี
เมื่อมีความเชี่ยวชาญและเป็นที่ยอมรับในวง กว้าง คุณขาบตัดสินใจก่อตั้ง ขาบ สตูดิโอ ขึ้นในบ้านทาวน์เฮ้าส์ย่านลาดพร้าว ที่นั่นเขาลงมือตกแต่งบ้านด้วยตัวเองโดยเน้นสีสันสดใส
“บ้านหลังนั้นจะเน้นงานฟู้ดสไตลิสต์อย่าง เดียว แต่ด้วยหน้าที่การงานที่เติบโตขึ้น มีงานต่างๆหลากหลายมากขึ้น ทั้งการจัดอาหาร การตกแต่งร้านอาหาร ทำแบรนด์อาหาร รวมถึงการออกแบบแพ็กเกจสำหรับอาหาร ประกอบกับข้าวของที่ใช้ในการทำงานมีจำนวนมากขึ้น ทำให้บ้านหลังเก่าเริ่มคับแคบ ไม่เพียงพอสำหรับงานที่เปลี่ยนและเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเวลามีปาร์ตี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก พอเพื่อนๆมากันเยอะก็ต้องแบ่งขึ้นไปใช้พื้นที่บนชั้นสอง ซึ่งมันดูแยกจากกันมาก พอหลายอย่างไม่สะดวกมากขึ้น ที่สุดจึงต้องหาที่ใหม่ที่สามารถรองรับสิ่งต่างๆที่กล่าวมานี้ให้ได้ครบ”
เมื่อมองหาที่ใหม่ก็ยังคงมาจบที่บ้าน ทาวน์เฮ้าส์เช่นเคย คุณขาบได้เข้ามาเห็นตั้งแต่เริ่มก่อสร้างด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถต่อเติม พื้นที่ให้กลมกลืนกับพื้นที่ส่วนเดิมได้ โดยใช้เวลาแทบทุกวันเข้ามาดูแลการก่อสร้างและตกแต่ง
“ทาวน์เฮ้าส์นี้ที่มีหน้ากว้างถึง 10 เมตร กว้างขวางพอที่จะทำอะไรต่อมิอะไรได้อย่างที่ต้องการ โดยเฉพาะชั้นล่างสุดผมต้องใช้งานหลายๆด้าน หลักใหญ่ต้องเป็นครัว ผมได้ไอเดียจากนักจัดรายการอาหารชื่อดังของสหรัฐอเมริกาท่านหนึ่ง เธอทำเป็นครัว 2 ส่วน ส่วนหนึ่งใช้ทั้งจัดเตรียมและทำอาหารจริง อีกส่วนเป็นครัวสำหรับทำโชว์ อย่างงานฟู้ดสไตลิสต์หรือการสาธิต ผมยังมองต่อไปอีกว่าจะทำรายการโทรทัศน์ เพราะฉะนั้นครัวโชว์จะอยู่ด้านหน้าสุดของบ้าน ซึ่งเป็นส่วนต่อเติมออกมาแทนที่สนามเดิม ส่วนครัวทำจริงวางไว้ทางด้านหลังซึ่งต่อเติมใหม่เช่นกัน ภายในบ้านจึงมีพื้นที่ว่างตรงกลางที่ค่อนข้างกว้าง เวลามีปาร์ตี้ก็จัดเป็นโต๊ะยาวสำหรับ 20-30 คนได้สบายครับ”
เมื่อต้องย้ายเข้าบ้านหลังใหม่และได้เริ่ม ต้นงานใหม่ คุณขาบจึงคิดว่าอยากให้มีบรรยากาศต่างจากที่เก่า ทั้งหลังจึงเน้นการใช้สีขาวที่ดูสะอาดตาและน่าใช้งาน
“ที่เลือกใช้สีขาวก็เกี่ยวข้องกับเรื่องงาน ด้วย ต้องทำเรื่องราวของอาหารเพิ่มขึ้น อาหารจะจัดอย่างไรก็ตาม หากได้วางบนภาชนะสีขาวมันจะสวย และแสดงออกถึงตัวอาหารได้อย่างน่ารับประทานที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ ตู้ครัว พื้น ผนัง เพดาน หรือจานชาม ผมก็เลือกใช้สีขาวทั้งหมด เติมความอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้โอ๊กสีธรรมชาติ และดึงสีเขียวของใบไม้มาเติมความมีชีวิตชีวาให้บ้าน การตกแต่งจะต่างจากบ้านหลังเก่าที่ใช้สีส้มสด ของในบ้านส่วนใหญ่เป็นของใหม่หมด มีจานชามจากบ้านเก่าแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่สมบัติเก่าที่นำมาไว้ที่บ้านนี้ก็คือหนังสือทุกเล่มที่มีอยู่ครับ
“ผมคิดว่าเป็นเรื่องของช่วงวัยของเรานะครับ พอผ่านพ้นวัยหนึ่ง ความต้องการบรรยากาศในบ้านก็เปลี่ยนไป บ้านหลังนี้เหมือนกับบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่มั่นคงขึ้น เราต้องการสมาธิและพื้นที่ทำงานมากกว่า แล้วสีขาวก็เป็นสีกลางที่เข้าได้กับทุกสิ่ง”
ถึงตรงนี้ก็สัมผัสได้ว่า ตัวคุณขาบ ห้องครัว และอาหาร ล้วนเป็นเรื่องเดียวกันเสมอมาและเสมอไปดังที่เขาบอกสั้นๆว่า
“ห้องครัวคือลมหายใจของผมครับ”
เรื่องโดย : atta otto
ภาพโดย : ศุภกร ศรีสกุล
