ความยากง่ายในการ จัดสวนเอง และดูแลสวนไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปแบบหรือการเลือกใช้พรรณไม้เท่านั้น
จัดสวนเอง ยังมีรายละเอียดอื่นๆที่สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดหรือปรับเปลี่ยนสวนของเราให้สวยงามควบคู่ไปกับการดูแลที่ง่ายขึ้น 10 ข้อนี้จึงเป็นข้อคิดที่สามารถนำไปปรับใช้กับการ จัดสวน ในที่คุณสามารถดูแลเองได้
1. รู้จักฮาร์ดสเคป ตัวช่วยชั้นดี
การนำฮาร์ดสเคปเข้ามาใช้กับองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลาน ทางเดิน เดคไม้ ล้วนมีส่วนช่วยลดพื้นที่การปลูกต้นไม้ลงทำให้เราสามารถลดภาระการดูแลสวนตามไปด้วย ทั้งยังช่วยให้การจัดการต่างๆในสวนทำได้ง่ายและทั่วถึงขึ้น ข้อดีอีกอย่างนึงคือ สวนดูเรียบร้อย ไม่รกตา สำหรับฮาร์ดสเคปสามารถเลือกใช้ได้หลายชนิดตามรูปแบบของสวนและความพึงพอใจของเจ้าของ ได้แก่ อิฐมอญ หินธรรมชาติ คอบเบิลสโตน สำหรับปูทางเดินหรือทำลานในสวน
ไอเดียทางเดินในสวนหลากสไตล์ เดินสบายและสวยน่ามอง
2. จัดสวนเท่าที่ดูแลไหว
สวนขนาดใหญ่หรือเล็กไม่ได้เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าสวนนี้ดูแลยากหรือง่าย ยกตัวอย่างสวนพื้นที่ใหญ่แต่มีรายละเอียดน้อย ประกอบไปด้วยสนามหญ้าโล่งๆ มีต้นไม้ปลูกอยู่เป็นระเบียบ ย่อมจะดูแลง่ายกว่าสวนที่มีพื้นที่เล็กๆแต่อัดแน่นไปด้วยองค์ประกอบหลากหลาย ทั้งพรรณไม้ บ่อน้ำ ของตกแต่งที่วางรวมกันจนรกตา ดังนั้นความพอดีจึงเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนจะซื้อต้นไม้สักต้นหรือเพิ่มองค์ประกอบลงไปสักชิ้นลองฉุกคิดดูก่อนว่าจะทำให้สวนของเราเป็นอย่างไร และถามตัวเองว่าหากจัดสวนไปแล้วเราสามารถดูแลไหวหรือไม่ ทางที่ดีลองเริ่มจากปลูกต้นไม้น้อยๆไม่กี่ต้นแล้วค่อยเพิ่มไปทีละนิดจะดีกว่า
3. สไตล์สวนก็สำคัญ
การกำหนดรูปแบบสวนตั้งแต่ต้นจะเป็นตัวกำหนดชนิดพรรณไม้ พื้นที่ใช้สอย ตลอดจนวัสดุต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นตัวบ่งบอกความยากง่ายในการดูแลสวน ยกตัวอย่างสวนสไตล์โมเดิร์นที่มีฮารด์สเคปจำนวนมากย่อมต้องดูแลง่ายกว่าสวนแบบทรอปิคัล แต่สำหรับบางท่านที่ขัดใจหรือไม่ชอบสวนแบบโมเดิร์นแต่ก็อยากได้สวนที่ดูแลง่ายด้วย เราก็สามารถนำสวนแต่ละแบบมาผสมผสานจัดรวมกันให้เป็นสวนที่เราชอบได้โดยยังคงดูแลง่ายด้วย ยกตัวอย่างคนที่ชอบแคดตัสและไม้อวบน้ำก็อาจจะจัดสวนออกมาเป็นสวนทะเลทรายก็ดูแลง่ายดี หรือหากชอบสวนอังกฤษก็ลองเลือกองค์ประกอบหรือพร็อปส์ต่างๆในสไตล์นั้น เน้นฮาร์ดสเคปเยอะขึ้น ต้นไม้น้อยลงให้กลายเป็นสวนแบบอิงลิชโมเดิร์นหรือโมเดิร์นวินเทจก็ได้
4. เลือกพรรณไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย
สำหรับสวนที่ต้องการดูแลรักษาต่ำควรเลือกปลูกต้นไม้ที่ทนทาน ไม่มีโรคและแมลงรบกวนมากนัก ต้องการน้ำน้อย เติบโตช้า ใบไม่ร่วงหล่นมากจนเป็นภาระ ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรเลือกไม้ยืนต้นชนิดที่ไม่ผลัดใบหรอผลัดใบน้อย เช่น ชงโค พิกุล ตีนเป็ดน้ำ ตีนเป็ดฝรั่ง น้ำเต้าต้น หลิว ไทรย้อยใบแหลม บุนนาค เป็นต้น หรือเลือกต้นไม้ชนิดที่มีใบขนาดใหญ่ก็เก็บง่ายและสะดวกดี เช่น ปาล์มชนิดต่างๆ สาเก ขณะที่ไม้ใบเล็กละเอียดก็สามารถปล่อยให้ใบที่ร่วงหล่นกลมกลืนไปกับพื้นที่สวนได้โดยไม่ต้องเก็บกวาด เช่น ตันหยง นนทรี มะขาม หางนกยูงฝรั่ง แต่หากชอบไม้บางชนิดที่ผลัดใบก็ควรระวังไม่ปลูกใกล้ตัวบ้านหรือทางระบายน้ำ สำหรับกลุ่มไม้พุ่มและไม้คลุมดินที่ปลูกง่าย เลี้ยงทน และน่าใช้งาน ได้แก่ พุดศุภโชค คริสติน่า ไทรประดับเข็ม พุดพิชญา โมก แก้ว คล้า เฟิน เป็นต้น
5. หลีกเลี่ยงหญ้าหากคุณไม่มีเวลา
สนามหญ้าเขียวๆย่อมดูนุ่มนวลสบายตา แต่อย่าลืมว่าหญ้าเป็นพืชที่โตเร็วมาก เผลอแป๊ปเดียวหญ้าขึ้นรกให้เป็นภาระต้องตัดบ่อยๆ โดยปกติแล้วเราต้องตัดหญ้าประมาณ 2-3 สัปดาห์ครั้ง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนหญ้าจะเติบโตเร็วเป็นพิเศษ หากคุณไม่ได้ออกไปทพกิจกรรมในสนามหญ้าบ่อยๆ ไม่สามารถจ้างคนมาตัดหญ้าได้ หรือสนามหญ้ามีพื้นที่ใหญ่เกินกว่าจะตัดเองไหว หญ้าอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก อาจใช้ไม้คลุมดินชนิดอื่นทดแทน เช่น หนวดปลาดุกแคระ ถั่วบราซิล สตรอว์เบอร์รี่ประดับ เกล็ดปลาช่อน เดซี่ออสเตรเลีย ไม้เหล่านี้ปลูกคลุมดินได้สวยงาม หรือปลูกแทรกกับแผ่นทางเดิน พื้นกรวด หรือพื้นแข็งก็ดูนุ่มนวลไปอีกแบบ แต่สุดท้ายแล้วหากคุณชอบหญ้าจริงๆลองเลือกตำแหน่งและปริมาณที่เราดูและไหวเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับตัวเรามากนัก
