ความทรงจำในอดีตยังทรงคุณค่าเสมอ นอกจากภาพถ่ายที่พาเราย้อนเรื่องราวต่างๆ ให้หวนกลับมารำลึกอีกครั้ง “บ้าน” ก็นับเป็นที่บันทึกความทรงจำต่างๆ ได้เป็นอย่างดี กลิ่นอายแห่งความอบอุ่น ความสุขที่สามารถสัมผัสได้ ยังทิ้งร่องรอยเหล่านั้นไว้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย
การตกแต่งบ้านให้มีรูปแบบดิบ เท่ กับสถาปัตยกรรมรูปแบบ LOFT ถือเป็นแนวคิดในปัจจุบันที่สามารถนำความรู้สึกร่วมสมัยผสานรูปแบบย้อนยุคได้อย่างมีสไตล์ ผ่านการรีโนเวทใหม่ที่ง่ายต่อการตกแต่งและยังประหยัดมากขึ้นด้วย แต่กับอาคารที่มีอายุมากเกินไป การนำวัสดุเช่นเหล็กและปูนมาใช้เป็นจำนวนมากอาจส่งผลต่อโครงสร้างที่รับน้ำหนักไม่ไหว วันนี้เราจึงอยากพาไปดูไอเดียของคุณวรายุทธ ห่อแก้ว ที่นำดีไซน์ลอฟท์มาดัดแปลงให้มีรูปแบบได้น่าสนใจ รวมถึงยังเหมาะกับโครงสร้างของอาคารช่วยฟื้นฟูให้บ้านกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้งในรูปแบบโฮสเทลที่ทรงคุณค่ามีเสน่ห์ชวนหลงใหลกว่าเดิม
รูปแบบดิบเท่ เปลือยให้เห็นเสน่ห์แห่งความงามของวัสดุในสไตล์ลอฟท์ กลายเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ คุณวรายุทธ ห่อแก้ว เกิดแรงบันดาลใจในการรีโนเวทอาคารเก่าให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งในรูปแบบโฮสเทลภายใต้ชื่อ Unit 33 ที่มาพร้อมดีไซน์สุดล้ำและโดดเด่นด้วยความดิบเท่อันร่วมสมัย ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กับหาดกะตะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ใครที่ผ่านไปผ่านมาก็จะต้องสะดุดตากับโฮสเทลแห่งนี้ เพราะได้รับการรีโนเวทใหม่ทั้งหมดจากอาคารเก่าหลังเดิมให้มาในลุคแบบลอฟท์สไตล์ พร้อมกับการนำเอกลักษณ์ไลฟ์สไตล์ของวิถี Biker เข้ามาผสมผสานร่วมกับการตกแต่งได้อย่างกลมกลืน โดยเริ่มตั้งแต่การรื้อผนังทั้งภายนอกและภายในออกทั้งหมด พร้อมใส่กลิ่นอายความเป็นลอฟท์ด้วยรูปแบบของงานเหล็กและงานอิฐ ตามด้วยการตกแต่งด้วยมอเตอร์ไซด์และงาน DIY รูปภาพแบบเท่ๆ
แต่ก่อนที่คุณวรายุทธ ห่อแก้วจะรีโนเวทต้องคำนึงถึงโครงสร้างบ้านเป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นอาคารเก่ามีอายุมากถึง 30 ปี การตกแต่งอาคารด้วยสไตล์ลอฟท์ในแบบเดิมที่เน้นการใช้วัสดุเหล็กเป็นโครงสร้างหลัก หรือการตกแต่งผนังด้วยการก่ออิฐเปลือยแบบเก่า อาจยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้างของอาคารมากเกินไป จึงทำให้คุณวรายุทธ มองหาวัสดุชนิดใหม่ที่มีน้ำหนักเบากว่า และสามารถนำมาใช้ทดแทนวัสดุเดิมได้อย่างลงตัว ซึ่งคุณวรายุทธ ได้กล่าวถึงแนวคิดในการรีโนเวทอาคารเก่าหลังนี้ว่า“ห้องพัก Unit 33 นี้รีโนเวทขึ้นจากอาคารเก่า ตกแต่งในสไตล์ลอฟท์ เป็นสไตล์แบบ Biker โดยส่วนตัวชอบสไตล์นี้ จึงลองคิดดูว่าลอฟท์นี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง อันหนึ่งก็คือเหล็กไอบีมตัวใหญ่ๆ และก็ผนังอิฐเปลือย แต่ตัวที่จะนำมาใช้ในการรีโนเวทอาคารที่มีอายุค่อนข้างจะเยอะประมาณ 30 ปี เราจึงมองหาตัวที่สามารถนำมาทดแทนได้ จนไปเจอกับวัสดุของ เฌอร่า ที่เลือกมาทดแทนเหล็กหรือว่าอิฐก็ใช้เป็นไฟเบอร์ซีเมนต์ที่สามารถติดตั้งง่าย และน้ำหนักก็ไม่เยอะเหมือนเหล็กและอิฐ”
โดยส่วนด้านหน้าของอาคาร คุณวรายุทธ เลือกใช้ Shera Board (เฌอร่า บอร์ด) ที่เป็นแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ซึ่งมีคุณสมบัติน้ำหนักเบา มีความแข็งแรงสูง สามารถทนน้ำและความชื้นได้ดี นำมาตกแต่งเป็น façade หรือส่วนด้านหน้าของอาคารเพื่อทดแทนการใช้แผงเหล็กขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมาก จากนั้นก็ทำการตกแต่งสีให้มีความสวยงามใกล้เคียงกับวัสดุเหล็กจริงมากที่สุด
ที่เห็นโครงสร้างด้านหน้าที่มีความคล้ายคลึงกับเหล็ก จริงๆ แล้วใช้เทคนิคพิเศษสำหรับทำเป็นน็อตและสกรูเสมือนจริงบนแผ่น เฌอร่า บอร์ด ด้วยการนำวัสดุเรซิ่นที่ตกแต่งด้วยสีสวยงามเรียบร้อยแล้ว มาแปะลงบนแผ่น เฌอร่า บอร์ด ในบริเวณต่างๆ ด้วยอิพ็อกซี่
เมื่อเดินเข้ามาดูใกล้ๆ ส่วนของผนังภายในอาคาร ถูกออกแบบราวกับเป็นผนังอิฐเปลือยดั้งเดิมรูปแบบลอฟท์ แต่ดัดแปลงด้วยการนำ Shera Wall Ceiling Skirt (ไม้มอบ เฌอร่า) ไปทำสีให้สวยงามใกล้เคียงกับโทนสีของอิฐธรรมชาติมากที่สุด ด้วยการไล่ระดับของโทนสีที่แตกต่างกันถึง 3 เฉดสี จากนั้นจึงนำไปตัดให้มีขนาดใกล้เคียงกับขนาดของก้อนอิฐจริง พร้อมนำไปแปะลงบนผนังด้วยปูนกาว โดยติดในลักษณะเดียวกันกับการปูกระเบื้อง เพื่อช่วยให้ผนังดูสวยงามเหมือนตกแต่งด้วยอิฐธรรมชาติอย่างแท้จริง
นอกจากนี้กรอบรูปเก๋ๆ ที่เราเห็นติดอยู่เต็มผนังเกิดจากที่คุณวรายุทธนำไม้ เฌอร่า บอร์ด มาสร้างสรรค์เป็นงาน DIY สุดเก๋ ที่เข้ากับคอนเซ็ปต์การตกแต่งในแบบลอฟท์ได้เป็นอย่างดี
บริเวณด้านบนของอาคารได้รับการรีโนเวทใหม่ทั้งหมด โดยแบ่งเป็น 2 ห้องนอน ด้วยการนำแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ของ เฌอร่า บอร์ด มาใช้สำหรับกั้นผนังอีกทั้งยังมีการนำแผ่นเฌอร่า บอร์ด มาใช้ตกแต่งบริเวณผนังของห้องน้ำก่อนทำการปูแผ่นกระเบื้องลงบนแผ่นเฌอร่า บอร์ด อีกครั้ง ทั้งนี้ คุณวรายุทธ ได้บอกเล่าความประทับใจในการรีโนเวทอาคารเก่าด้วยการใช้วัสดุจาก เฌอร่า ไว้ว่า “ส่วนตัวที่เลือกแผ่น เฌอร่า บอร์ด เพราะว่าน้ำหนักเบากว่าเราไปก่ออิฐบนพื้นที่ไม่มีคานรองรับ เราคิดว่าตัวแผ่นน่าจะเบาและก็พื้นรับน้ำหนักได้ และที่เราเลือก เฌอร่า มาใช้ในการีโนเวทอาคารหลังนี้ เพราะว่าสามารถใช้ภายนอกได้ ไม่ต้องกลัวเรื่องมอด เรื่องปลวก เรื่องฝน เพราะว่าที่นี่ฝนตกเยอะมาก และตัว เฌอร่า เองผมว่าไม่มีปัญหาเรื่องบิดงอ และเรื่องระยะเวลาในการติดตั้ง เรื่องงบประมาณ ผมว่าวัสดุนี้ตอบโจทย์ได้…ในส่วนของคนที่อยากจะรีโนเวท หรือว่าตกแต่งอาคารเก่าให้เหมือนใหม่ เราคิดว่าวัสดุเป็นส่วนสำคัญในการเลือกใช้ตกแต่งอาคาร เพราะว่าอย่างอาคารเก่าถ้าเราเลือกใส่วัสดุที่มีน้ำหนักเยอะๆ เข้าไป ตัวอาคารก็อาจจะมีปัญหาในเรื่องน้ำหนักที่เราใส่เข้าไปได้ แต่ว่าอย่างที่ Unit 33 เอง ที่เราเลือกใช้ก็คือผลิตภัณฑ์ของ เฌอร่า มาตกแต่ง เราว่ามันไม่มีน้ำหนักเยอะ และก็ตัวอาคารอายุ 30 ปี เราว่ามันไม่มีปัญหา สามารถที่จะรับน้ำหนักได้”
นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนชื่นชอบสไตล์ลอฟท์และอยากรีโนเวทบ้านเก่าให้สวยแกร่งอีกครั้ง แต่ยังกังวลกับโครงสร้างบ้านที่อาจจะรองรับไม่ไหว ด้วยคุณสมบัติของแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ Shera Board (เฌอร่า บอร์ด) ให้น้ำหนักเบา มีความแข็งแรง ทนทานในทุกสภาพอากาศ ทั้งฝน แดด และความชื้น ปราศจากสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พร้อมมอบความสะดวกสบายในการติดตั้งได้อย่างง่ายดายในเวลาอันรวดเร็ว และ Shera Wall Ceiling Skirt (ไม้มอบ เฌอร่า) ที่มาพร้อมประสิทธิภาพความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา ง่ายต่อการดูแลรักษา สามารถทำสีได้อย่างง่ายดาย และปราศจากปัญหาเรื่องปลวกมากวนใจ จึงสามารถนำมาใช้ในการตกแต่งทั้งภายในและภายนอก หรือใช้สำหรับการรีโนเวทอาคารต่างๆ ให้สวยงามตามสไตล์ที่ชื่นชอบได้ดั่งใจต้องการ
สามารถโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Shera Call center โทร. 02 289 9888
หรือเว็บไซต์ : www.sherasolution.com