เรือนรัศมีแข บ้านสวย บรรยากาศดีของนักแสดงมากความสามารถ
“ช่วยไปถ่าย เรือนรัศมีแข หน่อยนะ ” นั่นเป็นคำขอร้องแกมไหว้วานจากเพื่อนร่วมงานและคนรอบข้าง ซึ่งนำพาให้ผมมาเยือนบ้านหลังนี้ จากข้อมูลที่เราทราบเบื้องต้นมีเพียงว่าเป็นบ้านของ คุณรัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น หรืออีกชื่อคือ เจมส์ ฟอเกอร์ลุนด์ นักแสดงและพิธีกรอารมณ์ดีลูกครึ่งไทย-อเมริกันที่โด่งดังจากบทบาท “เอ็นจอย” ในละครเรื่องเพื่อนรักเพื่อนร้าย
และภาพจากอินสตาแกรมของเขาที่ถ่ายคู่กับสระว่ายน้ำ รวมถึงส่วนต่าง ๆ ภายในบ้าน ด้วยข้อมูลเพียงเท่านี้อาจบอกเรื่องราวหรือความสวยงามของบ้านได้ไม่มากนัก แต่ผมก็รู้สึกได้ทันทีว่าบ้านหลังนี้ไม่ธรรมดา เรือนรัศมีแข
บ้านนี้ตั้งอยู่ในย่านพระประแดง ดูแตกต่างจากบ้านรอบข้างด้วยสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัล โดยใช้ไม้ผสมกับรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมและช่องกระจกที่เว้นระยะให้เกิดรูปด้านที่สวยงาม ตัวอาคารทอดยาวขนานไปกับรั้วหน้าบ้าน แทรกไปกับต้นไม้ดูเป็นธรรมชาติ แม้เห็นแค่ภายนอกแต่ก็บ่งบอกถึงรสนิยมที่ดีไม่เบาของเจ้าของบ้าน ไม่นานนักคุณรัศมีแขก็เดินออกมาต้อนรับทีมงานในชุดเสื้อยืดและนุ่งผ้าขาวม้าอย่างเก๋ไก๋
“ ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านสไตล์มินิมัลของแฟรงก์ ลอยด์ ไรต์
เคยฝันไว้ว่าอยากมีบ้านสักหนึ่งไร่ และจะไม่ไปเปลี่ยนต้นไม้เดิมเลย แต่อยากให้เป็นเหมือน
การนำกล่องไปแทรกไว้บนพื้นที่ จนวันหนึ่งก็กลายมาเป็นบ้านหลังนี้ ”
ถัดจากท่จี อดรถซ่งึ เป็นส่วนใต้ถุนของห้องนอนชั้นสองเป็นกรอบที่เปิดให้เห็นคอร์ตกลางบ้านซึ่งมีสวนแทรกอยู่กับสระว่ายน้ำ สร้างมุมมองที่น่าสนใจระหว่างธรรมชาติกับสถาปัตยกรรมที่อยู่ในพื้นที่จำกัด
บ้านหลังนี้มีเครื่องดนตรีหลายชนิดวางกระจายอยู่แทบทุกมุม และสมาชิกทุกคนสามารถเล่นดนตรีได้ อย่างเปียโนหลังนี้ที่จัดวางอยู่ในมุมรับแขก ซึ่งดัดแปลงเป็นโฮมออฟฟิศของคุณแหม่ม
“ บ้านหลังนี้สร้างมาสิบกว่าปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2548 การออกแบบบ้านก็เริ่มจากพี่แหม่มนี่แหละ ตอนนั้นเราไม่ได้มีเงินเยอะ มีเท่าไหร่ก็เริ่มเท่านั้นก่อน คิดออกแบบบ้านโดยไม่มีเฟอร์นิเจอร์แต่สามารถเข้าอยู่ได้ และยังเน้นดีไซน์ให้ประหยัดไฟในช่วงกลางวัน แล้วเปิดให้ลมพัดผ่าน เราก็ไม่มีความรู้หรอก อาศัยดูจากสภาพแวดล้อมตอนที่เราเริ่มมาอยู่ ” คุณหมู–อาพร ถาวโรฤทธิ์ สามีของคุณแหม่ม สมาชิกอีกคนของบ้านเล่าให้เราฟัง
บริเวณหลังบ้านเป็นห้องทำงานช่างของคุณหมูซึ่งใช้เป็นมุมประดิษฐ์และปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์รวมถึงซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของบ้านด้วยตัวเองผนังและประตูยังคงเป็นกระจกซึ่งเน้นเปิดรับแสงธรรมชาติ เพื่อให้เอื้อต่อการทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นมุมรับแขก มุมนั่งเล่น ครัว หรือมุมรับประทานอาหาร ล้วนอยู่รวมกันในบริเวณโถงใหญ่ แม้แต่ห้องทำงานซึ่งกั้นแยกเพื่อความสะดวกในการเปิดเครื่องปรับอากาศก็ยังใช้กระจกโปร่งแสงเป็นตัวกั้น ทำให้บ้านดูโปร่งและสบายมากขึ้น เช่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่เป็นแบบลอยตัว สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก โดยส่วนมากเป็นของเก่ากับของสไตล์เรโทร
แม้คุณหมูจะมีอาชีพเป็นช่างภาพ แต่ก็ออกแบบบ้านนี้ได้อย่างน่าสนใจ เริ่มตั้งแต่ตัวโครงสร้างที่ใช้เหล็ก ซึ่งเมื่อสิบปีก่อนยังดูเป็นเรื่องไกลตัวและไม่เป็นที่นิยมในเมืองไทยมากนัก “คอนเซ็ปต์มาจากตอนไปเที่ยวประเทศสิงคโปร์เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เห็นเขาใช้เหล็กเป็นโครงสร้าง พวกโครงเหล็กมันสร้างง่ายสร้างไว แล้วเหล็กก็เข้ากับไม้ได้พอดีในงบที่จำกัด เราเริ่มสร้างบ้านหลังนี้จากฐานรากก่อนซึ่งใช้เวลาประมาณสองสามเดือน แต่ช่วงวางโครงเหล็กนั้นแค่อาทิตย์เดียว ตั้งใจว่าจะกั้นห้องตอนหลังสุดเลย คือขอแค่มีรั้ว มีห้องน้ำ เอาแบบกางมุ้งนอนได้ก่อน เพราะเราก็ย้ายมาอยู่เลยตอนที่บ้านยังไม่เสร็จ ส่วนสระว่ายน้ำมีตั้งแต่สร้างบ้านเลย เพราะเป็นความชอบ ต้นไม้ก็เน้นปล่อยไปตามธรรมชาติ แต่อย่าให้เดือนร้อนบ้านอื่น ”
ห้องนอนสร้างเป็นชั้นลอยเหนือโถงบริเวณชั้นสองติดประตูบานเลื่อนกระจกทั้งสองด้าน เพื่อเปิดรับลมและแสงสว่างได้เต็มที่ในตอนกลางวัน แต่เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัวก็เพียงเลื่อนม่านลายการ์ตูนมาปิด
แม้แต่ภายในห้องน้ำก็มีช่องแสงที่ให้ความสว่างแก่ภายในบ้านในช่วงกลางวัน โดยเลือกใช้กระจกลายดอกพิกุลที่คละสีสันอย่างสวยงาม พร้อมประดับภาพวาดของคุณหมูและสมาชิกคนอื่นในบ้านได้อย่างน่าชม
พื้นที่ชั้นสองมีลักษณะเป็นโถงกว้าง เปิดรับแสงสว่างซึ่งเหมาะกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาชิก ทั้งวาดภาพ ถ่ายภาพ
ถ่ายแฟชั่น และเล่นดนตรี
ของใช้ ของโชว์ มองมุมไหนของบ้านหลังนี้ก็จะมีข้าวของวางโชว์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางของ ตู้เก็บของ หรือแม้แต่บนพื้น
โดยมากเป็นของใช้อย่างเครื่องดนตรี ตามความถนัดของสมาชิกในบ้าน รวมถึงกล้องถ่ายรูป ซึ่งเป็นทั้งของสะสม และ ของที่คุณหมูใช้ในการทำงาน
คุณแหม่ม-อนงค์พันธ์ เพ็ชรประกอบ เจ้าของบ้านตัวจริง ช่วยเล่าให้ฟังว่า “ เมื่อก่อนเราก็ชอบอยู่คอนโดนะ แต่พอเริ่มมีครอบครัวแล้วก็อยากอยู่บ้าน มีต้นไม้ มีดิน ซึ่งโอเคกว่า เลยเกิดความคิดที่จะสร้างบ้านที่เป็นบ้านของเราเองจริง ๆ ”
บ้านนี้สร้างเป็นสองชั้น ออกแบบแปลนเป็นรูปตัวซี (C) เว้นตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำ ทำหน้าที่เป็นแกนกลางเชื่อมต่อมุมมองของทุกส่วนภายในบ้าน โดยเฉพาะชั้นล่างที่ประกอบด้วยมุมนั่งเล่น มุมรับแขก ห้องทำงาน ครัว และมุมรับประทานอาหาร ซึ่งอยู่รวมกันภายในโถงใหญ่ นอกจากนี้ยังทำช่องเปิดและติดกระจกโดยรอบ เพื่อรับแสงสว่างจากภายนอก ทำให้บ้านดูโปร่งและกว้างขึ้น วัสดุก่อสร้าง เช่น ไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์และข้าวของที่ใช้ตกแต่งล้วนมีกลิ่นอายของความเก่าแบบไทยๆ ซึ่งได้มาจากบ้านหลังเก่าที่รื้อมาแล้วมิกซ์แอนด์แมตช์กันได้อย่างมีสไตล์ ช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้บ้านได้ดี
สระว่ายน้ำสร้างมุมมองที่ดีให้บ้านหลังนี้และเป็นมุมโปรดของสมาชิกทุกคน ซึ่งประกอบด้วยคุณแหม่ม คุณหมู ลูกชาย และสมาชิกใหม่อย่างคุณรัศมีแข ด้านหลังโดดเด่นด้วยต้นไม้และประตูบานเฟี้ยมเก่าที่สกรีนชื่อของบ้าน ทั้งยังสร้างความเป็นส่วนตัวได้อีกด้วย
คุณหมูยังคงเก็บของเก่าหรือของที่เสียแล้วเอาไว้ โดยเฉพาะของที่ทำจากไม้ หรือ เหล็กรวมถึงงานหัตถกรรม เพื่อนำมาประดิษฐ์ ซ่อมแซม หรือต่อยอดไปเป็นของชนิดอื่น แต่หากยังนึกไม่ออกว่าจะทำอะไร ของเหล่านั้นก็จะถูกแขวนรวมกันเอาไว้ในห้องเก็บของหรือตามมุมต่าง ๆ ซึ่งกลายเป็นของประดับเก๋ ๆ ให้บ้านได้ในตัว
ของเก่ากลายเป็นของใหม่ เจ้าของบ้านยังคงเก็บของเก่าจากบ้านหลังเดิมเอาไว้ใช้ประโยชน์ตามหน้าที่เดิมหรือใช้เป็นอะไหล่
สำหรับซ่อมแซมบ้าน แม้รูปแบบและสไตล์ของสิ่งของนั้นจะมาจากคนละยุคและมีสไตล์ขัดแย้งกับตัวบ้าน แต่ในทางกลับกันหาก
รู้จักเลือกใช้ดีๆ ก็ช่วยสร้างลักษณะเฉพาะตัวให้บ้านดูน่าสนใจขึ้นได้
ศิลป์เข้าเส้น ตอนที่ลูกๆ ของคุณหมูและคุณแหม่มยังเด็กมักมีกิจกรรมออกนอกบ้านในช่วงวันหยุดเพื่อไปวาดภาพ จนกระทั่งกลายเป็นงานอดิเรกของสมาชิกทุกคน ดังนั้นไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของบ้านก็จะเห็นรูปภาพของพวกเขาวางโชว์อยู่ บางส่วนก็วาดบนผนังบ้านไปเลย
สไตล์ : นภิษฐา พงษ์ประสิทธิ์
เรื่อง : “ปัญชัช”
ภาพ : นันทิยา บุษบงค์
