จากบ้านหลังเดิมของ คุณติ๋ม – อุรุวัณณ์ เจริญนวรัตน์ ซึ่งอยู่อาศัยร่วมกับคุณแม่และลูกสาว 2 คนตั้งอยู่ในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เครือญาติต่างมีพื้นที่ปลูกบ้านของตัวเองเช่นกัน เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่คุณแม่เริ่มมีอายุมากขึ้น คุณติ๋มและคุณแม่จึงมีความคิดที่จะสร้างบ้านหลังใหม่ที่สะดวกต่อการอยู่อาศัยมากขึ้น กล่าวคือมีการเข้าถึงที่ง่ายและสะดวกสำหรับคุณแม่ มีห้องของคุณติ๋มและคุณแม่เอง รวมทั้งมีห้องที่เป็นส่วนตัวสำหรับลูกสาว 2 คนที่เข้าสู่วัยมีครอบครัวได้ ด้วยปัจจัยของครอบครัวที่เติบโตขึ้นจึงเกิดเป็นบ้านที่รวมเอาพื้นที่ของคนจาก 3 ยุคอย่างคุณแม่ คุณติ๋ม และลูกสาว ผนวกเข้าด้วยกันเป็น บ้านโมเดิร์น ซึ่งมีลักษณะแบบไทยๆสอดแทรกอยู่อย่างน่าสนใจและลงตัว
แม้ว่าหน้าตาภายนอกบ้านจะดูทันสมัย แต่การตกแต่งยังมีความหวานและอบอุ่นอย่างที่เรียกได้ว่า “ปลูกบ้านตามใจผู้อยู่” เพราะสไตล์ของบ้านก็มาจากคุณแม่และคุณติ๋มเป็นหลัก การตกแต่งแบบหวานพอดีๆด้วยสีเบจสลับกับสีดำ เข้ากันดีกับสีขาวและไม้สักสีเข้ม ซึ่งชุดสีแบบนี้ก็ยังถูกใช้กระจายไปทั่วทั้งบ้าน หากสังเกตจะเห็นว่าการเลือกใช้สีล้วนเกิดจากสีของวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นไม้สีน้ำตาลเข้ม หรือหินสีฟ้าอ่อน มองโดยรวมก็จะดูกลมกลืนไปกับสีโลหะของแผงบังแดดด้านบน ผู้ออกแบบบอกว่าเลือกใช้สีเทาเข้มสำหรับกรอบบานต่างๆ แต่เป็นสีเทาเกือบดำที่มีการผสมสีเงินเอาไว้ จึงได้เฉดสีที่สว่างขึ้น เมื่อโดนแสงก็ไม่จมหายไปแบบสีเทาดำทั่วไป จึงทำให้แม้บ้านหลังนี้จะเรียบเท่อย่างไร ภายในก็ยังดูอบอุ่นและหวานสมกับเป็นบ้านของ 4 สาวอย่างแท้จริง
ในส่วนของอาคารรูปตัวแอล (L) นั้นแบ่งออกเป็นส่วนพักอาศัยของคุณแม่ คุณติ๋ม และลูกสาวทั้งสองคน โดยชั้นล่างสุดเป็นส่วนของที่จอดรถ ครัว และส่วนบริการต่างๆ ขึ้นไปยังชั้นสองจึงเป็นห้องนอนของคุณติ๋มและคุณแม่ รวมทั้งห้องพักแขก ซึ่งผู้ที่มาพักเป็นประจำก็คือน้องชายของคุณติ๋มนั่นเอง ไปจนถึงชั้นสามที่แต่ละปีกของอาคารจะแบ่งเป็นส่วนพักอาศัยของลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งในอนาคตพื้นที่ทั้งสองส่วนนี้จะให้ความเป็นส่วนตัวแก่ลูกสาวได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าเป็นการลำดับพื้นที่ในแนวตั้งตามลักษณะการอยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
ถัดจากอาคารรูปตัวแอลออกแบบให้มีชานเชื่อมในชั้นล่างไปยังบ้านกลาง ซึ่งให้บรรยากาศของบ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ต เดิมทีบ้านหลังนี้จะทำหน้าที่คล้ายเป็นห้องรับแขกใหญ่ของทุกคน แต่ในความเป็นจริงก็เปรียบเสมือนบ้านรวมญาติและเป็นพื้นที่ซึ่งคุณแม่และคุณติ๋มใช้งานเป็นประจำด้วย เพราะบริเวณนี้สามารถมองเห็นผู้คนผ่านไปมาได้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังคงความเป็นส่วนตัวด้วยการกั้นพื้นที่ด้วยแนวต้นไม้ บ้านหลังนี้จึงไม่ใช่แค่เพียงส่วนรับแขก แต่เปรียบเสมือนอาคารที่เชื่อมโยงการอยู่อาศัยแบบบ้านเดี่ยวกับแบบแนวตั้งไปพร้อมกัน
ความท้าทายของการออกแบบบ้านหลังนี้คือการรวมเอาความเป็นอยู่ของคนจาก 3 ยุคสมัยเข้าด้วยกันและการสร้างพื้นที่ส่วนกลางให้ครอบครัวได้พบปะกัน แต่ก็ยังคงต้องมีพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนด้วย การมีชานไม้ บ่อปลา ครัวไทย ห้องพระ ฯลฯ สอดแทรกลงไปในพื้นที่สมัยใหม่จึงเกิดเป็นความลงตัวที่อบอุ่นและสร้างความน่าสนใจให้บ้านหลังนี้ เพราะเป็นพื้่นที่ที่คนทุกช่วงวัยในบ้านคุ้นชิน ผู้ออกแบบเลือกใช้หินและไม้เพื่อลดทอนความแข็งกระด้างของอาคารขนาดสามชั้น สร้างบรรยากาศที่ดูเป็น “บ้าน” มากกว่า “ตึก” ขณะเดียวกันก็เลือกใช้โครงสร้างเหล็กเพื่อให้เส้นสายของอาคารดูเบาและบาง ทำให้บ้านหลังนี้สามารถเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนับจากวันนี้ไปตราบนานเท่านาน
เจ้าของ : ครอบครัวเจริญนวรัตน์
สถาปัตยกรรม : Monotello โดยคุณวรพจน์ เตชะอำนวยสุข คุณคงศักดิ์ วิจักขณทูล และคุณสหวุฒิ ปานะภาค
ออกแบบภายใน : คุณสุชาติ เตชางาม
เรื่อง : “วุฒิกร สุทธิอาภา”
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล
