10 พรรณไม้เมืองหนาว ปลูกได้ในไทย
พรรณไม้เมืองหนาวเหมาะกับหลายๆคนที่อยากมีสวนสีสันสดใส สวยงาม ในสไตล์ตะวันตก ในวันนี้บ้านและสวนขอแนะนำ พรรณไม้เมืองหนาว 10 ชนิดที่ปลูกได้ในประเทศไทย รับรองว่าช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาและบรรยากาศหน้าหนาวให้กับสวนของคุณได้ดีเลยทีเดียว
กุหลาบเลื้อย
พรรณไม้เมืองหนาว ไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ผลัดใบ อายุหลายปี ยอดเลื้อยพาดได้ไกล 2 – 5 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านมักมีหนาม ดอกเดี่ยวหรือออกเป็นช่อที่ซอกใบและปลายยอด มีกลิ่นหอม ไม่ติดผล ออกดอกตลอดปี ดอกดกช่วงหน้าหนาว ชอบแสงแดดเต็มวันและอากาศเย็น ควรหมั่นตัดแต่งกิ่งไม่ให้เลื้อยรก พันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่ พันธุ์ Angela, Lavender Dream, เป็นต้น
ไฮยาซิน
ไม้ดอกอายุหลายปี สูง25-30 เซนติเมตร ลำต้นมีหัวใต้ดิน หัวกลมคล้ายหอมหัวใหญ่ ใบรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม แผ่นใบหนาอวบน้ำ ขอบใบห่อขึ้น ออกเป็นช่อตั้งรูปทรงกระบอก ดอกย่อยรูปถ้วย กลีบดอกหนาเป็นมันคล้ายขี้ผึ้ง มีสีขาว ชมพู ฟ้า และม่วง ดอกมีกลิ่นหอม ชอบแสงแดดเต็มวัน ชอบอากาศเย็นเหมาะปลูกเป็นไม้กระถางหรือปลูกลงแปลงในสวนสไตล์อังกฤษ
ทิวลิป
พืชใบเลี้ยงเดี่ยว รูปใบเล็กเรียวยาว ปลายใบแหลม ต้นหนึ่งๆ จะออกใบประมาณ 3-4 ใบ ทิวลิปจะมีขนาดสูงระหว่าง 12-18 นิ้ว ดอกของทิวลิปมีหลายแบบ หลายสี และหลายขนาด ส่วนใหญ่จะเป็นดอกไม้รูปถ้วย หลากหลายสีสันทั้งสีแสด แดง ส้ม เหลืองเข้ม เหลือง เหลืองอ่อน ชมพู ขาว และสีสลับลายหลายอย่าง มีทั้งสีเดียวล้วนๆ และสีผสมในดอกเดียว หรือที่เรียกว่า ”Broken Tulips” เกสรผู้เป็นสีเหลืองอ่อน หรือขาวเป็นแท่งรูปหัวศรมี 6 เส้น เกสรเมียมีขนาดโตกว่าเกสรผู้ อยู่กึ่งกลางเกสรผู้ เป็นลักษณะแท่งรูปสามเหลี่ยมยาว 2 – 2.5 เซนติเมตร
เดซี่
ไม้เลื้อย ลำต้นทอดเลื้อย ยาว 30 – 80 เซนติเมตร ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามรูปรีแกมรูปขอบขนาน สีเขียวเข้ม ออกเป็นช่อกระจุกกลมเล็กๆ เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 – 2 เซนติเมตร เมื่อแรกบานกลีบดอกวงนอกสีขาวถึงสีครีมอมชมพูอ่อน จากนั้นมีสีชมพูเข้มขึ้นเรื่อยๆ ดอกวงในสีเหลืองถึงสีน้ำตาลอ่อน ก้านช่อดอกยาว ชอบแสงแดดเต็มวันถึงครึ่งวันเช้า และอากาศเย็น เหมาะปลูกคลุมดิน ไม่ควรปลูกในที่ดินแฉะจะทำให้เน่าง่าย
รักเร่
พรรณไม้พุ่มเนื้ออ่อน ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านสาขามาก รากมีลักษณะคล้ายหัวอยู่ใต้ดิน เจริญเติบโตได้ดีในที่กลางแจ้ง ใบรักเร่ เป็นช่อในชั้นเดียวกัน แกนกลางช่อมีปีก ปลายใบแหลม ส่วนขอบใบจักเป็นซี่ฟันแกมฟันเลื่อย ใบย่อยเป็นสีเขียวเข้ม หรือมีขุดแต้มเป็นสีม่วง ออกดอกเป็นกระจุกใหญ่ออกเดียวตรงปลายยอด หลากหลายสี เช่น สีม่วง สีแดงเข้ม สีส้ม สีชมพู สีเหลือง เหลืองอ่อน สีขาวเป็นลาย หรือมีสองสีในดอกเดียวกัน กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปรางน้ำ ขอบอาจตรงหรือโค้ง นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับหรือปลูกเป็นไม้ตัดดอก
บัวดิน
ไม้หัว สูงประมาณ15-30 เซนติเมตร ลำต้นมีหัวสะสมอาหารใต้ดินรูปทรงกลมถึงรี ใบรูปแถบหรือรูปเส้นแคบแบนยาวได้ถึง 30 เซนติเมตร ปลายใบมนหรือแหลม ออกจากซอกใบใกล้ยอด มีหลายสีทั้งสีชมพู ขาว ขาวอมเหลือง และเหลืองเข้ม ก้านดอกกลม ออกดอกดกช่วงฤดูฝน ชอบแสงแดดครึ่งวันถึงตลอดวัน เหมาะปลูกเป็นไม้กระถางหรือลงแปลง อีกทั้งเมล็ดงอกในน้ำได้ หากเพาะร่วมกับไม้น้ำชนิดอื่นก็เติบโตและให้ดอกได้เช่นกัน
ผีเสื้อ
ไม้ดอกอายุสั้นหรือ 2 ปี สูงประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร ใบรูปแถบเรียวยาว ปลายใบแหลม สีเขียวอมเทา ก้านใบสั้น ออกเป็นช่อที่ซอกใบและปลายยอด มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน สีขาว ชมพู แดง ม่วง และหลายสีในดอกเดียวกัน พันธุ์ดอกชั้นเดียวออกดอกดกกว่าพันธุ์ดอกซ้อน ชอบแสงแดดเต็มวัน ควรรดน้ำในช่วงเช้า ไม่ควรรดน้ำจนแฉะเพราะรากเน่าได้ง่าย และหมั่นเด็ดดอกโรยออกจะช่วยยืดอายุการออกดอกได้นานขึ้น เหมาะปลูกเป็นไม้กระถางหรือปลูกลงแปลงเพื่อจัดสวน
หงอนไก่
ไม้ล้มลุก สูง 60-150 เซนติเมตร ลำต้นไม่มีขน สีเขียวถึงม่วงแดง มีร่องตามยาว แตกกิ่งก้านตั้งตรงขึ้น ใบรูปใบหอกแคบยาว ช่อดอกเป็นแท่งกลม ตั้งตรงขึ้น ยาว 5-15 เซนติเมตร ดอกย่อยอยู่ติดกับแกนช่อดอกหนาแน่น ส่วนปลายกลีบสีชมพูม่วงหรือม่วงแดง ออกดอกฤดูหนาว-ฤดูร้อน ชอบแสงแดดตลอดวัน และมีสรรพคุณทางยา เช่นรักษาอาการเลือดกำเดาออก รากแก้หืดและมีเสมหะ บำรุงธาตุ
เบญจมาศ
ไม้ล้มลุก สูง 0.5-1.2 ม. ใบมีกลิ่น ใบค่อนข้างกลมถึงรูปไข่หรือรูปใบหอก ปลายแหลม โคนตัดหรือสอบแหลมคล้ายรูปลิ่มแกมรูปฐานหัวใจ แผ่นใบหยาบ เส้นกลางใบและเส้นแขนงใบสีขาวเด่นชัด ช่อดอกออกที่ปลายกิ่งและตามง่ามใบบนๆ ดอกหลากหลายสีสัน เช่น สีขาวเหลืองหรือม่วง เป็นต้น และมีสรรพคุณทางยา ดอกรสขมเป็นยาเย็น ใช้เป็นยาระงับประสาท อีกด้วย
ชมพูฮาวาย / แฮ็ปปี้เนส
ไม้พุ่มกึ่งเลื้อยเนื้อแข็งขนาดเล็ก อายุหลายปี ลำต้นเลื้อยได้ไกล 2-5 เมตร กิ่งก้านเป็นเหลี่ยม ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ ขอบใบบิดเป็นคลื่นหรือจักห่างๆ แผ่นใบแข็งสีเขียวเข้มเป็นมัน ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกรูปกรวย กลีบดอกสีชมพู โคนกลีบสีชมพูเข้ม ออกดอกตลอดปี ดอกดกช่วงฤดูหนาว ชอบแสงแดดจัดถึงร่มรำไร เหมาะปลูกเป็นซุ้มไม้เลื้อยหรือปลูกเป็นไม้เลื้อยกระถาง
ไปดูไอเดียแต่งสวนด้วยพรรณไม้เมืองหนาว ใน
สวนสีชมพู สวยในบรรยากาศที่แสนหอมหวาน
สำหรับเคล็ดลับการดูแลพรรณไม้เมืองหนาวในประเทศไทยนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การรดน้ำ การใส่ปุ๋ย และแสงแดด
เริ่มต้นจากการรดน้ำ ในช่วงเริ่มปลูกถึงอายุ 7 วัน ควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น หลังจากนั้นรดน้ำวันละครั้งในช่วงเช้าก็เพียงพอ และในช่วงที่ดอกเริ่มบาน ต้องระวังอย่ารดน้ำให้ถูกดอก เพราะจะทำให้ดอกช้ำและมีโอกาสถูกเชื้อโรคได้
ถัดไปเรื่องการใส่ปุ๋ย เมื่อไม้ดอกอายุเฉลี่ยที่ 15-25 วัน ควรใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนชาต่อถุง และเมื่อไม้ดอกมีอายุ 35-45 วัน ควรใส่ปุ๋ยสูตร 15-24-12 อัตรา 1 ช้อนชาต่อถุง การใส่ปุ๋ยควรใส่ให้ห่างโคนต้นประมาณ 6 นิ้ว โดยฝังลงในดินประมาณครึ่งนิ้ว การใส่ปุ๋ยทุกครั้งจะต้องรดน้ำให้ชุ่มเสมอ
สุดท้ายเรื่องแสงแดด ไม้เมืองหนาวนั้นชอบแสงแดดแรงเช่นเดียวกับไม้ดอกเมืองร้อน เพียงแต่อุณหภูมิจะต้องอยู่ประมาณ 18-25 องศาเพื่อให้ดอกไม้พักตัวและออกดอกได้
ได้วิธีการดูแลพรรณไม้เมืองหนาว กันไปแล้ว…บ้านและสวนขอพาเปลี่ยนบรรยากาศไปชม
15 ต้นไม้ทนร้อน … ร้อนแค่ไหนก็ไม่ตาย (ง่ายๆ) ไปดูกันเลย
ติดตามข้อมูลดีๆจากบ้านและสวนได้ที่นี่
เรื่อง Bundaree D.
ภาพ คลังภาพบ้านและสวน