การปลูก ต้นไม้ในบ้าน ร้านค้า คาเฟ่ และอาคารต่าง ๆ กำลังได้รับความนิยม เกิดเป็นกระแสที่ทำให้หลายคนอยากทำตามเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มาอยู่ใกล้ตัวแบบนี้บ้าง วิธีดูแลต้นไม้ในบ้าน
การปลูก ต้นไม้ในบ้าน ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องเข้าใจการเลือกใช้ต้นไม้ให้เหมาะสม โดยส่วนใหญ่แล้ว ต้นไม้ในบ้าน หรือในอาคารมักจะได้รับแสงน้อย พรรณไม้ที่ชอบร่มจึงเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่ควรจะลองหยิบมาปลูกในบ้าน ส่วนจะมี วิธีดูแลต้นไม้ในบ้าน อย่างไรนั้น ตามไปหาคำตอบด้วยกันค่ะ
ต้นไม้ในบ้าน อย่ารดน้ำบ่อยเกินไป
รู้ไหมว่าสาเหตุหลักที่ต้นไม้ในบ้านตายเกิดจากการรดน้ำมากเกินไปมากกว่าขาดน้ำ ทำให้ต้นไม้เกิดอาการเน่าได้ง่าย ต้นไม้ที่ปลูกในบ้านมีการคายน้ำน้อย และสูญเสียน้ำไม่เท่าต้นไม้ที่ปลูกด้านนอก ดังนั้นการรดน้ำต้นไม้ควรรดเมื่อวัสดุปลูกเริ่มแห้งประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ
หมั่นนำออกไปรับแสงบ้าง
แม้ว่าต้นไม้ที่เราปลูกจะเป็นพรรณไม้ที่ชอบร่ม แต่หากบริเวณที่ปลูกอับแสง นาน ๆ ครั้งก็ควรนำต้นออกไปรับแสงด้านนอกบ้าง โดยค่อย ๆ ให้ต้นได้รับแสงทีละนิด ไม่นำออกไปไว้บริเวณที่แดดจัดทันทีเพราะอาจจะเกิดอาการใบไหม้ได้ หากอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมก็อาจจะตอยขยับต้นไม้ไปไว้บริเวณระเบียง หรือมีต้นไม้ 2 ชุดสลับหมุนเวียนมาไว้ในบ้าน
เลือกต้นไม้ดีก็มีชัย
อย่างที่เกริ่นนำไปตั้งแต่แรกว่าควรต้นไม้ชนิดที่ชอบร่มมาปลูกในบ้าน ยกเว้นบริเวณนั้นอยู่ใกล้ประตู หน้าต่างที่ได้รับแสงเต็มที่ก็สามารถเลือกต้นไม้ที่ชอบแดดเพิ่มขึ้นมาก็ได้ สำหรับพรรณไม้ที่ทนร่มได้ดี และนิยมใช้ในบ้าน ได้แก่ พลูชนิดต่าง ๆ ทั้งพลูด่าง พลูงาช้าง พลูปีกนก พลูสนิม พลูฉลุ ฟิโลเดนดรอน มอนสเตอรา ไทรใบสัก ยางอินเดีย บีโกเนีย กวักมรกต เป็นต้น
ตรวจสอบต้นไม้ก่อนนำเข้ามาในบ้าน
ต้นไม้ที่ปลูกไม่ควรมีโรค แมลง หรือไข่แมลงติดเข้ามา เพราะอาจจะระบาดไปยังต้นอื่นได้ หากพบแมลงระบาดให้แยกเฉพาะต้นนั้นออกมาไว้ด้านนอก นำมาล้างแมลงที่ติดอยู่ให้หมด และใช้สารกำจัดแมลงที่ปลอดภัยร่วมด้วย เช่น สมุนไพรสกัด แต่หากต้องการเห็นผลรวดเร็วให้ใช้ สตาเกิล จี จาก โซตัส ลักษณะเป็นเกล็ดสีทับทิมโรยบริเวณโคนต้น จะเห็นว่าแมลงต่าง ๆ ที่มารบกวน เช่น เพลี้ย จะค่อย ๆ หายไป ทั้งยังปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยงจึงหมดกังวลได้ เมื่อต้นไม้กลับมาสวยดังเดิมแล้วค่อยย้ายกลับเข้ามาในบ้าน
เติมอาหารให้ต้นไม้
ต้นไม้ที่ปลูกในบ้านมาระยะเวลาหนึ่งมักจะไม่สวยสดใสเท่าเดิม เนื่องจากธาตุอาหารในดินถูกใช้ไป วัสดุปลูกบางส่วนก็ย่อยสลายทำให้ดินในกระถางยุบตัว ดังนั้นจึงควรสังเกตว่าหากวัสดุปลูกเริ่มพร่องลงให้ เติมวัสดุปลูกใหม่ ๆ และใส่ปุ๋ยคอกเก่าลงไปเพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้พืช รวมทั้งควรใส่ปุ๋ยเพิ่มเติมทั้งทางดินและทางใบ อาจจะใช้ปุ๋ยละลายช้า ออสโมโค้ท สูตร 13-13-13 จาก โซตัส ใส่ 3 เดือนครั้ง คุณสมบัติของปุ๋ยที่ค่อยๆปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาทีละน้อยอย่างช้า ๆ ทำให้ต้นไม้ได้รับธาตุอาหารสม่ำเสมอ จึงไม่เป็นอันตรายต่อพืช เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้บ่อยๆ
เพิ่มความชื้นบริเวณที่ปลูก
วางอ่างน้ำเล็กๆ หรือโหลเลี้ยงปลาไว้ใกล้กับบริเวณที่ปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะในห้องปรับอากาศที่มีสภาพค่อนข้างแห้ง เพื่อให้น้ำที่ระเหยขึ้นมาช่วยเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ หรือปลูกต้นไม้รวมกันเป็นกลุ่ม ไอน้ำจากดินจะช่วยให้ต้นไม้ไม่แห้งเกินไป
ปกป้องผิวดิน
คลุมสแฟกนัมมอสส์ หรือกาบมะพร้าวสับที่ผิวดินบางๆ ช่วยให้ต้นไม้ไม่สูญเสียความชื้นเร็วเกินไป อย่างที่บอกว่าไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อยแต่ก็ควรหมั่นสเปรย์น้ำทั้งผิวดิน ใบ และต้น ช่วยให้ต้นไม้ชุ่มชื้นและสดใส
หลีกเลี่ยงจุดอันตราย
ไม่วางต้นไม้ไว้ใกล้บริเวณที่มีลมแรง เช่น ใกล้กับเครื่องปรับอากาศเพราะลมที่เป่าออกมาตลอดเวลาจะทำให้ใบฉีกขาดและต้นไม้แห้งได้ รวมทั้งไม่ควรวางต้นไม้บริเวณที่ใกล้ความร้อนจากเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น เตา กระติกน้ำร้อน เป็นต้น
จับต้นไม้ไปอาบน้ำ
ควรทำความสะอาดต้นไม้เป็นครั้งคราว โดยนำไปล้าง หรือใช้ผ้านุ่มๆชุบน้ำเช็ดคราบฝุ่นที่ติดตามผิวใบซึ่งจะไปอุดตามปากใบ การทำความสะอาดคราบสกปรกเหล่านี้จะช่วยให้ต้นไม้คายน้ำ แลกเปลี่ยนก๊าซ และสังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น
อย่าปล่อยให้รากแช่น้ำ
ต้นไม้ที่ปลูกในบ้านควรมีจานรองกระถางทุกใบเพื่อไม่ให้น้ำที่รดลงไปไหลออกมาเลอะเทอะ แต่ก็ควรระวังไม่ให้มีน้ำขังในจานรองเพราะจะทำให้รากต้นไม้แช่อยู่ในน้ำนานเกินไปจนเน่าเสียหายได้ ควรหมั่นนำน้ำส่วนเกินไปเททิ้ง และภายในกระถางควรรองก้นด้วยกรวด หรือหินภูเขาไฟหนาประมาณ 1-2 นิ้ว เพื่อให้ระบายน้ำได้ดีขึ้น
หากต้องการหาไอเดียการปลูกต้นไม้ในบ้าน พร้อมเทคนิคดี ๆ ในการดูแลต้นไม้อีกมากมาย ติดตามเพิ่มเติมได้ที่หนังสือ Everyday with Plants โดย Little tree สำนักพิมพ์บ้านและสวน The BOOK HOUSE โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน
ขอขอบคุณ ผลิตภัณฑ์จาก บริษัทโซตัส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โทรศัพท์ 02 984 0999 (อัตโนมัติ 20 คู่สาย) www.sotus.co.th Line : @sotushome
ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน