ไม้ เหล็ก ผ้า 3 วัสดุบ้านสุดฮิตและวิธีดูแล

Steel

“เหล็ก” เป็นวัสดุที่เรียกว่ามาแรงมากในช่วงหลังนี้ ด้วยคุณสมบัติที่มีทั้งความแข็งแรงและยืดหยุ่นในตัวเองสูง สามารถดัดโค้งและพับขึ้นรูปต่างๆ ได้ง่าย จึงมีการนำเหล็กมาใช้ทำทั้งโครงสร้างและโชว์เนื้อวัสดุไปในคราวเดียวกัน เนื่องด้วยวัสดุชนิดนี้มีผิวเรียบ สามารถนำมาทำสีหรือขึ้นเทคนิคต่างๆ ได้ง่ายและหลากหลาย ซึ่งอันที่จริงก่อนจะเป็นวัสดุยอดฮิตในบ้านเรา การนำเหล็กมาใช้ในการก่อสร้างนั้นเกิดขึ้นมานานตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมที่อังกฤษแล้ว จนพัฒนามากลายเป็นสไตล์ลอฟต์ที่พูดกันติดปากกันในปัจจุบัน

Loft ดิบแบบสัจจะวัสดุ 

ไม่ว่าจะไปทางไหนเราจะเจอกับ “สไตล์ลอฟต์” ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ร้านกาแฟ หรือโรงแรม โดยสไตล์นี้เป็นการรวมกันของวัสดุอย่างคอนกรีต ไม้ และมีเหล็กเป็นพระเอก ด้วยลุคแมนๆ ที่เมื่อนำมาจับคู่กับวัสดุใดก็จะทำให้พื้นที่นั้นเท่ขึ้น โดยเหล็กส่วนใหญ่ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างและวัสดุตกแต่ง ซึ่งมักนำมาอบสีด้วยสีดำเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและคุมธีมให้พื้นที่ดูนิ่งขรึมไปในทางเดียวกับวัสดุชนิดอื่นอย่างเช่น คอนกรีต

Modern เหล็กกับยุคสมัยใหม่

“สไตล์โมเดิร์น” เป็นอีกสไตล์หนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ด้วยความที่สไตล์นี้จะเน้นเส้นสายที่นิ่งเรียบ น้อย ดูสบายตา ประกอบกับสเปซเปิดโล่ง มีฟังก์ชันเท่าที่จำเป็น เหล็กจึงกลายเป็นวัสดึโครงสร้างของบ้านสไตล์โมเดิร์นเสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากคุณสมบัติที่สามารถยื่นโครงสร้างออกไปได้มาก โดยไม่จำเป็นต้องมีเสาจำนวนมากมารองรับ ส่งผลให้สามารถตกแต่งภายในได้อย่างอิสระและปลอดโปร่ง ไม่มีเสาของโครงสร้างมาบดบังสเปซ อีกทั้งในหลายกรณีนอกจากเหล็กจะใช้ทำเป็นโครงสร้างแล้ว โครงสร้างที่เกิดขึ้นยังกลายเป็นงานตกแต่งพื้นที่ได้อีกด้วย เช่น บันไดโครงสร้างเหล็ก เส้นที่เฉียบตรงของคาน H- Beam

การดูแลรักษา

ปัญหาที่มักพบเจอในการใช้เหล็กคือเรื่องของสนิม เราสามารถป้องกันการเกิดสนิมได้ดีกว่าการแก้ปัญหาเมื่อเกิดสนิมไปแล้ว นั่นคือการทาสีรองพื้นกันการสนิม เริ่มจากการเลือกสีกันสนิมที่ได้คุณภาพและมาจากผู้ผลิตรายเดียวกัน และทาสีรองพื้นบนผิวเหล็กที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้ทาสีกันสนิมสองชั้น โดยห้ามทาสีในขณะที่ผิวเหล็กมีความร้อน เพราะจะทำให้สีบวมหรือเกิดฟองได้ และอย่าลืมตรวจสอบหลังทา โดยเฉพาะบริเวณฐานเสาและรอยต่อต่างๆ ที่สีทารองพื้นอาจเข้าไปได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งบริเวณเหล่านี้มักเป็นจุดที่เกิดสนิมและยากที่จะพบเห็น

อ่านต่อหน้า3