/บ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ชั้นล่างของบ้านหลังนี้เป็นพื้นที่ที่ใครก็สามารถเข้ามาได้ /
ภาพหนุ่มสาวสมัยใหม่ล้อมวงกันสนทนา ทํางาน หรืออ่านหนังสือพร้อมกับจิบเครื่องดื่มและชิมขนมหวาน กลายเป็นภาพชินตาในสังคมบ้านเราตอนนี้ไปแล้ว เนื่องจากคนรุ่นใหมีมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตนอกบ้านกันมากขึ้น ร้านกาแฟบรรยากาศดีๆ จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุดสําหรับผู้ที่มองหา พื้นที่เพื่อผ่อนคลาย จุดประกายแรงบันดาลใจ และชาร์จแบตเตอรี่ตัวเองให้พร้อมรับวันใหม่อีกครั้ง
เราเริ่มคอลัมน์นี้กันที่ร้านกาแฟ Casa Lapin XAri นอกจากกาเฟอีนในอเมริกาโนร้อนจะช่วยให้เราตื่นตัวตลอดทั้งวันแล้ว ยังมีมิตรภาพแห่งกาแฟที่พาเรามารู้จักกับ คุณลักษณ์-ณัฐพัชร สุริยะกําพล สถาปนิกแห่ง begray หนึ่งในเจ้าของร้าน Casa Lapin สไตล์การออกแบบและตกแต่งร้าน ได้รับการสั่งสมมาจากการเดินทางในชีวิตของเขา และยังสะท้อนสู่ห้องพักส่วนตัวขนาด 48 ตารางเมตร ที่ตั้งอยู่บนชั้น 4 ของร้าน Casa Lapin X49 สุขุมวิท 49 อีกสาขาหนึ่งนั่นเอง
“เดิมทีย้ายไปทําโปรเจ็กต์รีสอร์ตที่เกาะสมุยอยู่นาน 3-4 ปี แล้วก็ทําบ้านที่โน่นเสียเลย หลังๆ เริ่มมีโปรเจ็กต์ที่กรุงเทพฯ เยอะขึ้น จึงอยากกลับมาทํางานที่นี่เสียเลย ตอนแรกก็อยู่คอนโดมิเนียม ถึงจะกว้าง แต่พื้นที่การใช้งานปรับอะไรไม่ได้ จึงใช้วิธีแต่งพร็อปส์ช่วยครับ ตอนหลังๆ ผมอยากหาที่อยู่ใหม่ พอดีตึกนี้เป็นของพาร์ตเนอร์ที่ร้านจึงย้ายมาอยู่เลย”
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในบ้านล้วนแต่มีเรื่องราวทั้งสิ้น หลายชิ้นเดินทางด้วยกันตั้งแต่ไปอยู่เกาะสมุยจนกลับมากรุงเทพฯ บางตัวก็ได้มาจากร้านเจ้าประจําที่ไปเดินดูหลายรอบจนเจอชิ้นที่ถูกใจแล้วซื้อกลับมา แปลนห้องที่เป็นแนวยาวนี้ คุณลักษณ์ เริ่มต้นจากการนําเฟอร์นิเจอร์เดิมที่มีอยู่แล้วมาลองจัดวาง ถ่ายทอดความชอบและไลฟ์สไตล์ของตนเองลงไปอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะห้องน้ำที่เขาให้ความสําคัญเป็นพิเศษ
“งานดีไซน์ของผมจะเน้นห้องน้ำ เพราะติดนิสัยเวลา อาบน้ำหรือแปรงฟัน เราก็จะคิดอะไรโน่นนี่ แล้วก็ชอบเดิน แปรงฟันไปทั่วบ้าน ก็เลยเอาโต๊ะทํางานมาอยู่ใกล้ ๆ เลยละกัน เพราะก่อนอาบน้ำจะทําอะไรได้เยอะมากเลย”
อีกหนึ่งความพิเศษของที่นี่คือ ทุกพื้นที่ใช้สอยเป็นแบบ เปิดโล่งหากันทั้งหมด ห้องแต่งตัว ห้องน้ำแบบแยกส่วนเปียก ส่วนแห้ง และห้องนอน “หลายคนมักกังวลว่าห้องน้ำเป็นมุมอับของบ้าน ทั้งเรื่อง ความชื้นที่ทําให้เกิดเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์ เราก็ไม่ได้ อาบน้ำกันตลอดเวลาขนาดนั้น วันไหนอากาศดี ๆ หรือช่วงเช้า ผมจะเปิดประตูเหล็กดาดฟ้า แล้วก็ลงไปเปิดประตูหน้าต่าง ชั้นสองให้ลมพัดผ่านระบายอากาศ ช่วยให้ห้องน้ำปลอดโปร่ง ลดปัญหาเรื่องกลิ่นและความชื้น”
และเนื่องจากตัวอาคารผ่านการใช้งานมาหลายช่วงอายุคน การมองเห็นความงามที่ผันแปรไปตามกาลเวลาจึงเป็นลูกเล่น อีกอย่างที่คุณลักษณ์ดึงเข้ามาใช้ในการตกแต่งทั้งส่วนพักอาศัย และร้านกาแฟ
“เสน่ห์ของงานรีโนเวตคือ การเก็บโครงสร้างและวัสดุเดิม ที่ผ่านการใช้งานจริงไว้ อย่างผนังชั้นล่างของร้านกาแฟ เราใช้ วิธีขัด ขัดไปเจอสีนี้ พอขัดอีกกลับเจออีกสีหนึ่ง กลายเป็น เสน่ห์ไปอีกแบบ ส่วนโครงสร้างจากพื้นถึงเพดานที่ค่อนข้างสูง พอยิ่งเปิดฝ้าก็ยิ่งสวย หรือตัวหน้าต่างเราก็ใช้วงกบไม้อันเดิม เปลี่ยนแต่ดีไซน์ให้เฟรมเป็นชุดเดียวชุดใหญ่ไปเลย งานรีโนเวต ก็เหมือนกับเราต้องเก็บสภาพเดิม ๆ ไว้อย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์ โดยต้องยังเก็บความเป็นอาคารเดิมไว้ แล้วทําให้สวยขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่เปลี่ยนเขาไปเลย”
เรื่องราวของ Casa Lapin X49 เกิดขึ้นจากความรู้สึกว่า อาคารพาณิชย์ขนาด 4 ชั้นแห่งนี้ดูกว้างขวางเกินไปสําหรับ การอยู่คนเดียว บวกกับร้านสาขาแรกที่ Art Village ทองหล่อ ซึ่งเป็นของรุ่นพี่ในบริษัทได้รับความนิยมมากขึ้นจนที่นั่งไม่พอ คุณลักษณ์จึงรวมกลุ่มเพื่อนที่ติดใจรสชาติกาแฟและบรรยากาศ มาเปิดร้าน Casa Lapin ของตัวเองเป็นสาขาที่ 3 ที่ชั้นล่าง ของที่พัก เพื่อถ่ายทอดพื้นที่แห่งความสุขเปิดกว้างให้ทุกคน ได้ละเลียดกาแฟรสชาติถูกปาก พร้อมบทสนทนากับ เพื่อนร่วมวง ที่ถูกใจ