วันนี้หากจะมาบอกเพียงว่าเรามีวิธีเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศมาแนะนำ หลายๆ คนคงคิดว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ
เพราะเป็นสิ่งที่เคยได้ยินและรู้กันมานานแล้ว ว่าจะมีวิธีเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศอย่างไรให้ได้ตรงใจที่มากสุด แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัว หรือเพิ่งซื้อบ้าน ซื้อคอนโดฯ เป็นของตัวเอง และกำลังมองหาเครื่องปรับอากาศสักเครื่องให้ตัวเองและครอบครัว อาจยังไม่มีเวลาศึกษาข้อมูล หรือทำความเข้าใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกมากนัก บางคนอาจมองแค่ว่าให้แค่ความเย็นก็พอแล้ว หรือบางทีก็หลงไปกับกับดักของโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม จนลืมดูรายละเอียดที่จำเป็นอื่นๆ ดังนั้น วันนี้เราเลยอยากย้ำวิธีเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่ดี โดยเฉพาะสำหรับคนรุ่นใหม่ว่าควรต้องดูที่อะไรบ้าง
การเลือกเครื่องปรับอากาศที่ถูกต้องอันดับแรก คือ ต้องเลือกประเภทให้เหมาะกับสถานที่และการใช้งาน อย่างที่ทราบกันดีว่าเครื่องปรับอากาศนั้นมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกสรร แต่ละแบบก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ถ้าเลือกไม่เหมาะกับการใช้งานก็อาจส่งผลเสียหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ หรือประสิทธิภาพความเย็นที่ไม่เหมาะกับความต้องการใช้งาน
อย่างเครื่องปรับอากาศติดผนัง ที่เราต่างก็คุ้นเคยเพราะมีกันแทบทุกบ้าน ด้วยฟังก์ชั่นการทำงานที่มีหลากหลายรูปแบบ รวมถึงดีไซน์รูปลักษณ์ที่ทันสมัย บวกกับขนาดกระทัดรัด บางรุ่นยังช่วยประหยัดพลังงาน ดูแลรักษาง่าย โดยเครื่องปรับอากาศชนิดนี้ เป็นเครื่องปรับอากาศที่เราคุ้นตาและเคยเห็นติดตามบ้านหรือคอนโดมิเนียมทั่วไป โดยแต่ละรุ่น แต่ละขนาด BTU จะเหมาะกับห้องที่มีขนาดต่างๆ ตั้งแต่เริ่มตั้งแต่ 9 ตร.ม. จนถึง 32 ตร.ม. ซึ่งนอกจากดูที่ประสิทธิภาพของตัวเครื่องแล้ว ก่อนซื้อควรต้องดูด้วยว่าห้องหรือบ้านที่เราจะนำไปติดตั้งมีความกว้างแค่ไหน เหมาะกับเครื่องปรับอากาศขนาดเท่าใด เพื่อการประหยัดพลังงานและประสิทธิภาพของความเย็นที่ทั่วถึงนั่นเอง
เรื่องการดูขนาดของพื้นที่ กับเครื่องปรับอากาศที่จะนำมาติดตั้งเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอันดับต้นๆ เพราะเมื่อเราทราบขนาดของห้องที่แน่ชัดจะทำให้ง่ายต่อการเลือกขนาดของค่า BTU เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน ซึ่งค่า BTU ก็คือค่าความสามารถในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ดังนั้น การเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีขนาด BTU ที่เหมาะสม จึงเกี่ยวเนื่องกันกับการประหยัดพลังงานและอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศอย่างมาก เช่น เครื่องปรับอากาศที่มีค่าความสามารถในการทำความเย็น หรือ BTU สูงเกินไปอาจทำให้คอมเพรสเซอร์ทำความเย็นได้เร็วเกินไป ส่งผลให้เปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ หรือเครื่องปรับอากาศที่มี BTU ต่ำเกินไปก็อาจทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลา ซึ่งนั่นจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก สิ้นเปลืองพลังงานและเสียในที่สุด ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อจึงควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีคุณภาพในการใช้พลังงานที่คุ้มค่าที่สุด โดยเลือกเครื่องที่ช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้มากที่สุดนั่นเอง
บรรยายภาพ:
ค่า SEER สำหรับ Inverter โดยทั่วไป SEER ควรจะอยู่ที่ 15-20 ขึ้นไป
สำหรับ Fixed speed โดยทั่วไป SEER จะอยู่ที่ประมาณ 12 – 15
สำหรับการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ นอกจากเลือกเครื่องปรับอากาศให้มีขนาด BTU ที่เหมาะสมกับห้องที่ต้องการติดตั้งแล้ว ควรเลือกสินค้าที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะหมายถึงคุณภาพในการใช้พลังงานที่คุ้มค่า ซึ่งอาจพิจารณาจากค่า EER (Energy Efficiency Ratio) หรือ SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) ซึ่งบ่งบอกถึงอัตราส่วนประสิทธิภาพพลังงานนั่นเอง ยิ่งค่าเหล่านี้มีตัวเลขที่สูง ยิ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานที่มากขึ้น
ปัจจุบันผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆ ได้พัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เคยได้ยินกันคุ้นหูคือ เทคโนโลยี inverter เป็นระบบที่สามารถควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้ทำงานอยู่ตลอดเวลา โดยการปรับความเร็ว ควบคุมความเร็วรอบและกำลังไฟฟ้า ซึ่งความแตกต่างของเครื่องปรับอากาศที่ใช้เทคโนโลยี inverter จะแตกต่งจากเครื่องรุ่นเก่าที่ไม่มีระบบนี้ โดยเครื่องปรับอากาศแบบเก่าจะมีการเปิด-ปิดชั่วคราว ทำให้อุณหภูมิในห้องไม่คงที่ การทำงานของแอร์ระบบ Fixed speed นั้น คอมเพรสเซอร์จะทำงานจนกว่าแอร์จะเย็นถึงอุณหภูมิที่กำหนด แล้วจึงตัดการทำงานลง จนกระทั่งอากาศภายในห้องมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น จึงเริ่มการทำงานของคอมเพรสเซอร์ใหม่อีกครั้ง หรืออย่างที่เราเรียกว่า แอร์ตัด – แอร์ต่อ ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศต้องสูญเสียพลังงานมากขึ้นในจังหวะที่ต้องเริ่มการทำงานใหม่นั่นเอง
ส่วนเครื่องปรับอากาศที่มีระบบ inverter จะมีอายุการใช้งานนานกว่าเครื่องปรับอากาศรุ่นเก่า ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟได้แล้ว ยังช่วยทำให้ห้องเงียบสนิท เพราะเมื่ออุณหภูมิภายในห้องอยู่ในระดับที่ตั้งไว้ คอมเพรสเซอร์จะลดรอบการทำงานให้ช้าลง หรือ ต่ำลง ทำให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นสบาย ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป ไม่มีเสียงรบกวน ตรงนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่าการพัฒนาเทคโนโลยีในใหม่ ๆ ในเครื่องปรับอากาศ สามารถลดการใช้พลังงานให้น้อยลงได้จริงๆ ทำให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยลดค่าไฟลงได้ถึง 30 – 40% ช่วยให้ไม่ต้องเสียค่าไฟในแต่ละเดือนแพงจนเกินไป
เมื่อเลือกขนาด BTU ได้เหมาะกับพื้นที่ รวมถึงเลือกเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานได้แล้ว ต่อมาก็ต้องดูและเปรียบเทียบเรื่องคุณสมบัติของแอร์แต่ละยี่ห้อ ว่ามีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงเรื่องของรูปร่างหน้าตา หรือรูปแบบการดีไซน์ตามสไตล์ที่เราชอบ อาจเลือกให้เข้ากับบ้านหรือห้องที่จะนำไปติดตั้ง เพื่อให้ออกมาสวยงามกลมกลืนกัน หรือถ้าให้ดี ควรเลือกดีไซน์ที่พอเหมาะพอดี เพราะเครื่องปรับอากาศเครื่องหนึ่งจะต้องอยู่กับเราไปอีกนานหลายปี เลือกที่มีดีไซน์เรียบๆ ดูดี จะเหมาะสมที่สุด
อีกข้อที่ห้ามลืมในการนำไปประกอบการพิจารณาการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศอีกอย่างหนึ่ง คือควรเลือกบริษัทผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีความรู้ความเข้าใจเรื่องเครื่องปรับอากาศเป็นอย่างดี มีการรับประกันหลังการขาย เพราะเครื่องปรับอากาศแต่ละเครื่องราคาไม่ใช่ถูกๆ ฉะนั้นการรับประกันและบริการหลังการขายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งถ้าเป็นบริษัทใหญ่ที่น่าเชื่อถือย่อมมีเทคโนโลยี และอุปกรณ์ที่ดีในการผลิตสินค้าให้ออกมามีคุณภาพย่อมดีที่สุด
และถ้าหากจะให้แนะนำเครื่องปรับอากาศสักแบรนด์ ที่มีคุณภาพครบถ้วนตามที่บอกไปข้างต้น ก็ขอแนะนำแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียงมายาวนานจากประเทศญี่ปุ่น อย่าง Mitsubishi Heavy Duty ด้วยมาตรฐานการผลิต ความทนทาน และบริการหลังการขายที่ครองใจคนไทยมากว่า 5 ทศวรรษ ตรงนี้สามารถการันตีได้ว่าเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศที่น่าจะตอบสนองทุกความต้องการที่เราต้องการได้
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Mitsubishi Heavy Duty ได้สร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีวิศวกรรมระดับโลก ทำให้แบรนด์ยังคงจุดเด่นในด้านประหยัดพลังงาน ทนทานทุกงานหนัก สมชื่อ Heavy Duty ที่เป็นจุดขายมายาวนาน และอีกสิ่งที่ถือเป็นจุดเด่นที่สร้างชื่อเสียงให้แบรนด์นี้มาโดยตลอดก็คือ ระบบการกระจายลมที่มีประสิทธิภาพ เย็นแรง เย็นเร็วทันใจ ด้วยเทคโนโลยี Jet flow, Hi power, 3D Auto ที่นอกจากจะส่งลมแรงแล้วยังช่วยกระจายลมเย็นให้อุณหภูมิเท่ากันทั่วทุกมุมห้อง แถมยังช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าด้วย Inverter แท้ทั้งระบบ
อีกทั้งความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ด้วยการงดใช้สารทำความเย็นที่เป็นอันตรายต่อชั้นบรรยากาศโอโซน ตามนโยบายของบริษัทที่ว่า “การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า” มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่ออนาคต ทั้งสังคม อุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน ที่สดใสยิ่งขึ้น
ล่าสุด ปี 2018 นี้ Mitsubishi Heavy Duty ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศ inverter แท้ทั้งระบบ (100% Real Inverter) รุ่น SRK-ZSXS SERIES ออกมาเอาใจผู้บริโภคที่กำลังมองหาเครื่องปรับอากาศระดับพรีเมี่ยม ลักซ์ชัวรี่ โดยทุกรุ่นทุกขนาดสามารถครอบคลุมทุกความต้องการ พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกสบายและทันสมัยมากยิ่งขึ้น
อย่างเช่นฟังก์ชั่นตรวจจับความเคลื่อนไหวของคนที่อยู่ภายในห้อง, ฟังก์ชั่นปิดการใช้งานโดยอัตโนมัติหากไม่มีคนอยู่ในห้องนานกว่า 1 ชั่วโมงขึ้นไป หรือฟังก์ชั่นเอาใจคนรักสุขภาพ โดยการใช้ Filter ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้ตามฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพต่างๆ เช่น มีส่วนประกอบของเอ็นไซม์ธรรมชาติ ป้องกันและทำลายเชื้อโรคได้, ช่วยกรองอากาศ กำจัดกลิ่นเหม็นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ, ช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ดูดซับก๊าซอันตรายและฝุ่นละอองในอากาศ และช่วยทำให้อากาศที่ออกมามีวิตามิน C ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น เป็นต้น
นอกจากประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่นใหม่ที่มาพร้อม ฟังก์ชั่นการทำงานที่ครบครันทันสมัยแล้ว ความน่าเชื่อถือและมาตรฐานการผลิตของเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ทุกเครื่องยังผ่านการตรวจรับรองคุณภาพตามมาตรฐานโลกเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ทำให้กล้ารับประกันทุกชิ้นส่วน เป็นระยะเวลา 5 ปี ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้เลยว่า Mitsubishi Heavy Duty เป็นเครื่องปรับอากาศที่มีคุณภาพที่ไม่ทำให้ผิดหวัง และได้ทุกอย่างตามที่ต้องการอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้ เป็นการมาย้ำพร้อมแนะนำวิธีเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมากที่สุด เพราะไหนๆ จะซื้อเครื่องปรับอากาศทั้งทีก็ต้องเลือกให้ดี เพราะเครื่องนี้จะต้องอยู่กับการใช้ชีวิตของเราไปอีกยาวนาน สิ่งเหล่านี้หลายคนน่าจะพอรู้กันอยู่แล้ว เพียงแต่บางคนอาจลงลืมบางข้อไปก็เท่านั้น เราจึงมาย้ำ และมาแนะนำสิ่งดีๆ ที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่ถูกใจ เย็นฉ่ำ และประหยัดไฟไร้กังวลได้อย่างดีที่สุดนั่นเอง