ก่อนก่อสร้าง – ซ่อมบ้าน มารู้ ค่าแรงช่าง ที่คิดกันโดยเฉลี่ย เพื่อใช้เปรียบเทียบ และประเมินก่อนจัดจ้าง
บ้านและสวนจึงหาราคา ค่าแรงช่าง ในแต่ละประเภทมาให้ผู้อ่านหรือผู้ที่กำลังสร้างบ้าน โดยอ้างอิงจาก หนังสือบัญชีราคาวัสดุก่อสร้างและแรงงาน ปีงบประมาณ 2567 ซึ่งทั้งหมดที่เรารวบรวมมานี้เป็นราคาโดยเฉลี่ยสำหรับประเมิณค่าก่อสร้างอย่างคร่าวๆ ความเป็นจริงอาจมีการบวกเพิ่มมากน้อยตามรายละเอียดของงาน ตามฝีมือ ทำเลที่ตั้ง สภาพเศรษฐกิจในแต่ละช่วงปี และการตกลงกันของช่างกับเจ้าของบ้านด้วย ทางที่ดีคือสอบถามราคาและเปรียบเทียบจากช่างหลายๆ เจ้าจะดีที่สุด
ช่างก่อสร้าง
อาชีพที่คลุกคลีเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เช่น บ้านอาคาร โรงงานและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ช่างที่มืออาชีพนอกจากจะทำหน้าที่ปลูกสร้างเพียงอย่างเดียว ยังต้องวางแผน กำหนดโครงสร้าง กำหนดแบบบ้าน และประเมินราคาเป็นทำงานเข้าใจกันดีกับผู้รับเหมา
ราคาก่อสร้าง : คิดเป็นต่อตร.ม.ราคาแปรเปลี่ยนขึ้นลงตามความชำนาญ ฝีมือช่าง และความยากง่ายของงานก่อสร้างโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12,000 – 18,000 บาท ซึ่งเป็นราคาสำหรับใช้ประเมินค่าก่อสร้างบ้านเบื้องต้น ส่วนราคาค่าก่อสร้างบ้านจริงนั้น ต้องถอดราคาจากแบบก่อสร้างอย่างละเอียด
ช่างไฟฟ้า
นอกจากการเดินระบบไฟและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆแล้ว ช่างไฟที่ดีจะต้องเลือกอุปกรณ์ได้เหมาะสมกับการใช้และมีความปลอดภัย เพราะหากเลือกผิดก็อาจก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือเกิดอัคคีภัยได้ ช่างไฟฟ้ามืออาชีพจำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์วัดกำลังไฟที่ได้มาตราฐานและอุปกรณ์ที่ครบสมบูรณ์ เพราะงานไฟฟ้าเป็นเรื่องอันตรายยิ่ง การเลือกใช้ช่างมืออาชีพจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก
ค่าแรง : ช่างติดตั้งไฟฟ้า เดินสายไฟ ในแต่ละจุดของบ้านจะอยู่ในช่วงราคา 600-800 บาทต่อจุด
ช่างประปา
งานประปาเป็นงานที่เจ้าของบ้านจัดการด้วยตัวเองได้ยาก หากไม่มีเครื่องมือช่างเฉพาะทาง เพราะเป็นการเดินระบบงานที่ซ่อนไปตามส่วนต่างๆ ของบ้าน ซึ่งช่างประปาที่มีประสบการณ์จะสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างแม่นยำ และหาวิธีแก้ไขได้อย่างตรงจุด นอกจากความเข้าใจเรื่องเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเดินระบบท่อแล้ว ช่างประปาที่มีความสามารถยังต้องรู้เรื่องของระบบแรงดันน้ำและกลไกของอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับน้ำ เช่น ปั๊มน้ำ อีกด้วย
ค่าแรง : ราคาช่างเดินระบบท่อจะคิดราคาอยู่ที่ 35-100 บาทต่อเมตร
ช่างปูกระเบื้อง
อีกหนึ่งงานที่ต้องใช้ความละเอียดในการทำสูง ถ้าช่างที่ไม่ชำนาญอาจทำให้บ้านเกิดความเสีย และต้องแก้ไขจนกลายเป็นงานลุกลาม ซึ่งการปูกระเบื้องที่ถูกต้องนั้นช่างจะใช้เกรียงหวีปาดกาวซีเมนต์ให้เต็มพื้นที่บริเวณพื้นคอนกรีตและด้านหลังกระเบื้อง จากนั้นคว่ำกระเบื้องลงยังจุดที่กำหนดไว้ ใช้ค้อนปรับระดับให้ได้ระนาบ เว้นระยะของกระเบื้องแต่ละแผ่นให้พอดีกัน รอให้กาวซีเมนต์เซตตัวอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จากนั้นทำการยาแนวและทิ้งไว้อีกอย่างน้อย 7 วัน ก่อนเข้าใช้พื้นที่ ไม่ควรให้ช่างปูกระเบื้องแบบซาลาเปา เพราะเป็นสาเหตุทำให้กระเบื้องระเบิดขึ้นมา
ค่าแรง : ยิ่งพื้นที่ขนาดเล็กค่าแรงยิ่งสูงขึ้นและมักคิดเป็นราคาเหมา
กระเบื้องยาง / SPC : 150-250 บาท/ตร.ม.
กระเบื้องเซรามิก : 250-350 บาท/ตร.ม.
กระเบื้องแบบแพตเทิร์น : 200-500 บาท/ตร.ม.
กระเบื้องแกรนิตโต้ พอร์ซเลน : 350-450 บาท/ตร.ม.
หินอ่อน / หินเทียม : 800-1,00 บาท/ตร.ม.
ช่างมุงหลังคา
หลังคาถือเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับบ้าน ทำหน้าที่ปกป้องบ้านจากความรุนแรงของสภาพภูมิอากาศต่างๆ การเลือกใช้วัสดุ และการเลือกช่างที่มีความชำนาญสูงจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเราสามารถสังเกตุได้ว่าช่างมีความชำนาญหรือไม่ ตรงการมุงกระเบื้องหลังคาบ้านตรงรึเปล่า ทับซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบไม่มีแผ่นเผยอขึ้นมา ครอบสันหลังคาเรียบร้อยดีไหม หรือการแต่งปูนใต้ครอบสวยงามล้อกับโค้งครอบ เป็นต้น
ค่าแรง
กระเบื้องลอนคู่ : 45-55 บาท/ตร.ม.
กระเบื้องคอนกรีต : 74 บาท/ตร.ม.
ช่างสี
งานช่างสีจะเรียกว่าเป็นงานขั้นสุดท้ายก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าเป็นงานช่างปูน ช่างไม้ หรือช่างเหล็ก ก็ล้วนแต่ต้องมาจบงานที่ช่างสีแทบทั้งสิ้น การทาสีนอกจากเป็นงานที่โดดเด่นในเรื่องความสวยงามแล้ว ยังช่วยให้ชิ้นงานนั้น คงทนและช่วยยืดอายุการใช้งานออกไปอีกด้วย งานช่างสีไม่ใช่ดูกันแค่เพียงฝีมือการจบงานเท่านั้น แต่การเตรียมพื้นผิวของชิ้นงานแต่ละประเภทก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะหากทำงานสีบนพื้นผิวที่ขาดการเตรียมความพร้อม ก็ไม่สามารถจะคงความสวยงามและทนทานได้อย่างควรจะเป็น
ค่าแรง : ทาน้ำยารองพื้น 30-35 บาท/ตร.ม. ทาสีทับหน้า 2 เที่ยว 35-40 บาท/ตร.ม. (ไม่รวมค่าวัสดุ)
ช่างบิลท์อิน
เฟอร์นิเจอร์ประเภทหนึ่งที่มีการออกแบบให้มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ที่จะติดตั้ง อาจเป็นทำขึ้นที่หน้างานหรือทำขึ้นจากโรงงานแล้วนำมาประกอบหน้างาน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ประภทนี้จะเป็นติดตั้งแบบถาวร หากจะทำการเปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนย้าย จะต้องรื้อเพียงอย่างเดียว ดังนั้นควรที่จะเลือกช่างที่ชำนาญด้านนี้โดยเฉพาะ ส่วนการคิดค่าใช้จ่าย ช่างจะมีวิธีการคิดแบบละเอียด คือ เช็ครายการวัสดุ ค่าแรง และกำไร แจ้งให้ลูกค้าทราบ แต่ถ้าคิดแบบคร่าวๆ คือ ประเมินความยาวของเฟอร์นิเจอร์แล้วแจ้งราคาให้ลูกค้าทราบ โดยมักคิดเหมารวมค่าแรงและวัสดุ
ค่าแรงและวัสดุ : 10,000 – 25,000 บาทต่อเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทบิลท์อิน เช่น ตู้เตี้ย ตู้สูง ความยากง่ายและฝีมือของช่าง
ช่างทำประตู-หน้าต่าง
ประตู-หน้าต่าง ถือเป็นหน้าเป็นตาให้กับบ้าน แตกต่างไปตามการใช้สอยและรูปแบบของบ้าน เป็นทั้งพื้นที่เข้า-ออกของบ้านและรับแสง ลม ระบายอากาศภายในบ้านให้ถ่ายเทหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น รูปแบบของประตู-หน้าต่างนั้นก็มีหลายลักษณะทั้ง บานเปิด บานสวิง บานเลื่อน บานหมุน ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันไป ควรเลือกตามความเหมาะสมหรือข้อจำกัดของแต่ละพื้นที่นั้น และสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อให้สามารถใช้งานได้เกิดประโยชน์สูงสุด
ค่าแรง : ราคาเฉลี่ยค่าทำประตู-หน้าต่าง 1000 – 2500 บาท (ไม่รวมค่าวัสดุ) ขึ้นอยู่กับรูปแบบ
เรื่อง : Gott