รู้ใช่ไหม?? อากาศร้อน-ชื้น ทำบรรยากาศสกปรก แล้วอย่างงี้ ต้องทำไง

เมื่อไม่นานมานี้หลายคนคงได้ยินข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพฯ เพิ่มสูงขึ้นเกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งแม้ว่าเจ้าฝุ่นละอองที่ล่องลอยอยู่ในอากาศนี้จะมีขนาดเล็กจนเกือบจะมองไม่เห็น แต่ฤทธิ์เดชของมันนั้นส่งผลกระทบต่อร่างกาย และการใช้ชีวิตของเราได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว

หลายคนอาจยังไม่ค่อยคุ้นกับเจ้า PM 2.5 กันเท่าไรนัก จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างจากฝุ่นละอองปกติที่เราสูดหายใจกันอยู่ทุกวันมากนัก เพียงแต่ว่ามีขนาดที่เล็กมากแค่ประมาณ 2.5 ไมครอน ขณะที่ฝุ่นละอองทั่วไปจะมีขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน นั่นแสดงให้เห็นว่าเจ้า PM 2.5 มันมีขนาดเล็กกว่าฝุ่นละอองปกติหลายเท่าทีเดียว นึกภาพตามง่ายๆ ก็คือเจ้าฝุ่นจิ๋วนี่มันมีขนาดประมาณ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลาง ของเส้นผมของเรานั่นเอง  

เมื่อมันมีขนาดเล็กมากขนาดนั้นก็หมายความว่ามันจะสามารถผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลม เข้าสู่ปอด เข้ากระแสเลือดของเรา และแทรกซึมสู่กระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้ง่ายมากขึ้น  เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังอย่างภูมิแพ้ หรือโรคติดเชื้อในปอด โรคทางเดินหายใจ ผื่นคันต่างๆ และลามไปถึงโรคมะเร็งที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้  

ฟังอย่างนี้แล้วทำให้รู้สึกได้ทันทีว่ามลพิษอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น คงถึงเวลาแล้วที่เราควรจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่ย่ำแย่แบบสุดๆ โดยเริ่มจากในบ้านของเรากันก่อนเลย เพราะในชีวิตประจำวัน เราไม่ได้เผชิญกับมลพิษทางอากาศเพียงแค่ตอนออกไปทำกิจกรรมข้างนอกเท่านั้น แต่ภายในที่พักอาศัย ก็ยังหนีไม่พ้นที่จะมีฝุ่นละอองล่องลอยอยู่ในอากาศอยู่ดี ดังนั้น การดูแลรักษาให้ที่พักอาศัยให้สะอาด ปลอดภัย ปลอดฝุ่น เอื้อต่อการอยู่อาศัยอย่างมีความสุขทั้งกายและใจ เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพกาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“อากาศที่ดีควรเริ่มต้นที่บ้าน” เพราะอากาศภายในบ้านที่ไม่ได้ถ่ายเทอย่างสม่ำเสมอเป็นศูนย์รวมของ ฝุ่นละออง สิ่งสกปรก เชื้อโรค แบคทีเรียต่างๆ ซึ่งก็มีความสกปรกไม่แพ้อากาศภายนอกโดยที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้่วยตาเปล่า วันนี้เราเลยอยากมาแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อเป็นทางออกในการทำให้ชีวิตปลอดฝุ่น และมีอากาศบริสุทธิ์ให้เราได้หายใจเข้าไปทุกวัน

ทำความสะอาดบ้านเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองสะสมในอากาศ

นอกจากการทำความสะอาดปกติที่เราทำอยู่เป็นประจำทุกวัน ทุกสัปดาห์แล้ว การดูแลในส่วนเล็กๆ ที่เราอาจมองข้ามไปก็เป็นสิ่งสำคัญที่ ดังนั้นถึงเวลาในการทำความสะอาดแบบ Big cleaning day ให้ฝุ่นหรือคราบสกปรกในจุดที่มองข้าม และทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอก บ้านของใครที่มีชั้นวางของ และตู้จำนวนมาก ควรหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ และหมั่นทำความสะอาดเพดาน ม่าน กำแพง ทุกๆ 2-3 เดือน เพื่อกำจัดแหล่งเชื้อรา อย่าให้เกิดความชื้น หรือกลิ่นอับขึ้นเมื่อทำแล้วไม่เพียงแต่จะทำให้บ้านน่าอยู่ แต่ยังช่วยให้อากาศที่เราสูดดมเข้าไปบริสุทธิ์และสดชื่นอีกด้วย      

การควบคุมปริมาณความชื้นของอากาศภายในบ้าน

การควบคุมปริมาณความชื้นในอากาศให้พอเหมาะเป็นอีก 1 วิธี โดยคุณอาจใช้เครื่องปรับอากาศที่มีระบบฟอกอากาศเพื่อความคุมความชื้นในอากาศ เพื่อให้อากาศสดชื่น สะอาด เพราะ เมื่ออากาศมารวมในบ้านมากๆ และไม่มีการถ่ายเทอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นศูนย์รวมของฝุ่นละออ และเชื้อโรค ควรให้อากาศระบายได้บ้าง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน ต้องพยายามเปิดให้มีอากาศหมุนเวียนมากที่สุด ซึ่งความชื้นภายในตัวบ้านควรอยู่ที่ระดับ 40-60 เปอร์เซนต์ ซึ่งเราสามารถควบคุมปริมาณความชื้นได้ โดยการใช้อุปกรณ์วัดระดับความชื้น เครื่องดูดความชื้น หรือเพิ่มความชื้น ที่สามารถหาซื้อหาได้ทั่วๆ ไป แต่ในการเลือกซื้อและนำมาใช้งานก็ควรศึกษาขั้นตอน และวิธีการใช้งานของอุปกรณ์ดังกล่าวให้ละเอียดรอบคอบเสียก่อน

อย่าปล่อยให้บ้านอับทึบ มีช่องเสริมให้อากาศบริสุทธิ์เข้ามา

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่จะทำให้บ้านของคุณมีอากาศที่มีคุณภาพ คือการไม่ปล่อยให้บ้านมีความอับทึบ โดยเฉพาะบ้านไหนที่เครื่องปรับอากาศ ควรมีช่องเสริมเพื่อให้มีอากาศไหลเวียนเข้ามา เพราะอากาศที่อยู่ภายในบ้านหากไม่ได้มีการระบายออก ย่อมเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ดังนั้น ซึ่งการสร้างช่องทางระบายอากาศก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เปิดประตูห้องนั่งเล่น ประตูครัว หรือประตูห้องใดก็ตามออกบ้างในตอนกลางวัน หรือแง้มหน้าต่างไว้บ้าง นอกจากจะประหยัดค่าไฟเพราะไม่ต้องเปิดแอร์แล้ว คุณยังจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์

เลือกแอร์ที่ให้ทั้งความเย็น และอากาศสะอาด

หนึ่งในวิธีที่จะทำให้บ้านมีอากาศที่ดีได้ง่ายและสะดวกที่สุด น่าจะเป็นการเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่ตอบโจทย์เรื่องอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างแท้จริง มีฟังก์ชั่นเกี่ยวกับการกรองฝุ่นและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถ้าให้แนะนำเครื่องปรับอากาศที่มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดตอนนี้ เราขอแนะนำ “อีเลคโทรลักซ์” รุ่นวิต้า พลัส อินเวอร์เตอร์ (Vita+ Inverter) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแอคทีฟเพียว (Active Pure) ช่วยกรองสิ่งสกปรกและฝุ่นควันในอากาศถึง 8 ขั้นตอน ช่วยลดเชื้อรา แบคทีเรียในอากาศได้ดีถึง 99% ด้วยระบบ  Active Plasma, HD Filter, 4 in 1 Filter และ HAF Filter พร้อมแผ่นกรองความละเอียดสูง ดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรกที่มีอนุภาคเล็ก เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้ได้ดี

นอกจากนี้ยังช่วยปรับอากาศร้อนให้เย็นได้อย่างรวดเร็ว ด้วยสารทำความเย็น R32 ควบคุมตำแหน่งอุณหภูมิได้ตามต้องการด้วยระบบ I Feel มีเทคโนโลยี Full DC Inverter ประหยัดพลังงาน และไร้เสียงรบกวน รวมถึง 3D Airflow ที่กระจายความเย็นรอบทิศทางทำให้ความเย็นกระจายทั่วห้องอย่างทั่วถึง

เครื่องปรับอากาศจากอิเล็คโทรลักซ์รุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ดี เหมาะกับบ้านทุกหลัง ทั้งการปล่อยประจุพลาสมา (Active Plasma) ผ่านช่องระบายอากาศเพื่อกำจัดไวรัสและแบคทีเรียครอบครัว อีกทั้งยังมี Gold Tech Protection ป้องกันการสึกกร่อน และการขยายตัวของแบคทีเรีย มาพร้อม X-Fan ที่มีคุณสมบัติในการลดความชื้นอัตโนมัติหลังจากเครื่องหยุดทำงาน อันอาจก่อให้เกิดกลิ่นอับ ให้อากาศภายในบ้านสดชื่น บริสุทธิ์  

จะเห็นได้ว่าการสร้างอากาศที่ดีในบ้านนั้นทำได้ไม่ยาก แค่ต้องใส่ใจและปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง หรือหากใครไม่อยากยุ่งยากด้วยวิธีต่างๆ ก็แค่หาเครื่องปรับอากาศดีๆ สักเครื่องก็ถือเป็นทางออกที่ง่าย สะดวกและดีที่สุด แม้ว่าตอนนี้เรายังไม่สามารถสร้างอากาศดีให้กลับคืนมายังโลกของเราได้ แต่เราสามารถสร้างอากาศดีให้เกิดขึ้นในบ้านของเราได้ เพื่อตัวเราและคนที่เรารักจะได้อยู่หายใจเพื่อช่วยโลกกันต่อไปอีกนานๆ