สร้างจิตสำนึก-แก้วิกฤติอาหารเหลือบริโภค เหตุผลดีๆ ที่น่าสนับสนุน Thai SOS ไปพร้อมๆ กับ SC Asset
ความรู้สึกที่ต้องโยนอาหารทิ้งเพราะอาหารไม่สด หมดอายุเพราะรับประทานไม่ทัน หรืออาหารเน่าเสียจากการซื้อมาในปริมาณที่มากเกินไปนั้น คิดว่าคงไม่มีใครที่อยากทำอย่างนั้นและอาจรู้สึกผิดทุกครั้งที่ต้องทำลงไป โดยเฉพาะคนที่เป็นแม่บ้านที่ต้องซื้ออาหารให้ลูกและครอบครัวแล้วต้องทิ้งอาหารเหลือที่ยังกินได้ หรือเก็บเอาไว้จนล้นตู้เย็นในครั้งละมากๆ ซึ่งแต่ละครั้งการกำจัดขยะจากอาหารที่เหลือเกินบริโภคเหล่านั้น ถือเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของครอบครัวในสังคมเมืองปัจจุบัน
มีผลการวิจัยระบุออกมาว่าปัญหาขยะจากอาหารเหลือทิ้ง (Food waste) เป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบทางสังคม เศรษฐกิจ ยังส่งผลอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากอาหารที่เน่าเสียจะส่งกลิ่นเหม็นทำให้อากาศเสีย ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยประเทศไทยเองในหนึ่งวันเรามีอาหารเหลือเกินบริโภคปริมาณหลายตัน ในขณะที่ประชาชนอีกจำนวนไม่น้อยก็ยังคงขาดแคลนอาหารที่ใช้บริโภคอยู่นั่นเอง
แล้วจะทำอย่างไรให้อาหารเหลือเกินบริโภคจากคนกลุ่มหนึ่ง สามารถแก้ปัญหาปากท้องให้กับคนอีกกลุ่มหนึ่งได้ไปพร้อมกัน ซึ่งการแก้ไขอาจต้องเริ่มที่ต้นเหตุนั่นคือการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของคนในสังคม
จะเห็นได้ว่าการที่ผู้บริโภคยังคงทิ้งขว้างอาหารที่ยังคงกินได้อยู่นั้น เหตุผลหนึ่งมาจากพฤติกรรมการจับจ่ายและการบริโภคที่ไม่ถูกต้อง เช่น การซื้ออาหารมาเก็บไว้ในปริมาณครั้งละมากๆ, ไม่มีการวางแผนการบริโภคให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ, มีวิธีการเก็บรักษาอาหารที่ไม่ดีพอ หรือบางครอบครัวอาจมีพฤติกรรมการกินอาหารแล้วต้องเหลือทิ้งไว้ในจานจนเคยชิน ทำให้เกิดปัญหาขยะจากอาหารเหลือบริโภคคราวละมากๆ
ล่าสุด มีโปรเจกต์ที่น่าสนใจจาก Thai SOS ที่น่าจะมาตอบโจทย์การแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดย Thai SOS เป็นมูลนิธิที่ก่อตั้งขึ้นจากเป้าหมายในการเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างแหล่งอาหารสดที่เหลือเกินบริโภค แต่ยังคุณภาพดี ไม่ว่าจะจากโรงแรมหรู ร้านเบเกอรี่ ร้านอาหาร หรือครัวตามบ้าน และนำอาหารเหล่านั้นส่งถึงมือผู้ขาดแคลนต่อไป โดยมีเครือข่ายอยู่หลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทยด้วย
ที่ผ่านมา Thai SOS มุ่งมั่นจัดการปัญหานี้ด้วยแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ยั่งยืน เริ่มต้นจากการเข้าไปขอรับอาหารจากผู้ร่วมโครงการในกรุงเทพฯ แล้วนำมาคัดสรรให้ตรงตามโภชนาการก่อนส่งมอบให้ผู้ด้อยโอกาสที่อาศัยอยู่ตามศูนย์ดูแล บ้านอุปถัมภ์ หรือที่พักผู้ลี้ภัย เป็นการนำส่วนที่เกินไปเติมเต็มส่วนที่ขาดนั่นเอง
แต่ภารกิจของโครงการนี้ยังคงมีข้อจำกัดและประสบปัญหาเรื่องของจำนวนรถบรรทุกอาหารมีไม่เพียงพอ จึงได้ทำการเปิดรับการสนับสนุนในทุกรูปแบบ ซึ่งสิ่งที่ Thai SOS ต้องการเป็นอันดับแรกเพื่อแก้ปัญหาการดำเนินงานให้ตรงจุดก็คือ เงินทุนสำหรับจัดซื้อยานพาหนะที่บรรทุกห้องเย็นสำหรับใช้ขนส่งนั่นเอง
ในที่สุด Asiola แพล็ตฟอร์มระดมทุน จึงเข้าไปให้การสนับสนุน Thai SOS ด้วยรูปแบบที่น่าสนใจทำให้โครงการของ Thai SOS เป็นที่รู้จักมากขึ้น จนไปสะดุดไอเดียและความคิดที่ตรงกันของ SC Asset ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่ประกาศตัวเป็น ผู้ให้บริการโซลูชั่นในการใช้ชีวิต (Living Solutions Provider) ที่นอกจากสร้างบ้านสวยคุณภาพดีแล้ว ต้องผลักดันสังคมโดยรอบให้มีคุณภาพขึ้นด้วย ผลักดันไอเดียสร้างสรรค์เพื่อวิถีชีวิตที่ยั่งยืนของคนไทยผ่านโปรเจกต์ร่วม Co-Creation for Good Mornings
การสนับสนุนในช่วงเริ่มต้นของแคมเปญนี้ SC Asset ได้ต่อยอดสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อยานพาหนะ เพื่อขนส่งอาหารไปมอบให้ผู้ที่ต้องการได้มากขึ้น จึงมอบเงินทุนที่คำนวณออกมาแล้วสามารถซื้ออาหารได้ถึง 35,000 มื้อ ให้กับ Thai SOS เพื่อนำไปซื้อรถขนส่งอาหาร
โดยเป้าหมายจริงๆ ของแคมเปญนี้คือการระดมทุนคราวด์ฟันดิ้งที่จะหาทุนสนับสนุนให้ถึงเป้าหมาย 1,000,000 ล้านบาท หรือคำนวณออกมาเป็นอาหาร 100,000 มื้อต่อปี ที่รถหนึ่งคันสามารถบรรทุกได้ โดยจะมีการระดมทุนออนไลน์บนแพลตฟอร์มของ Asiola ผ่านการรับรู้จากผู้บริโภคและลูกบ้าน รวมถึงคนในสังคมจริงๆ การสร้างจิตสำนึกให้เกิดแก่ผู้ใช้หรือผู้บริโภคอย่างยั่งยืน นั่นคือจุดประสงค์หลักของโครงการที่แท้จริง