นอกจากนี้ SC Asset ยังต้องการสร้างจิตสำนึกในการแบ่งปัน และรับผิดชอบต่อสังคม โดยที่ผ่านมามีการสำรวจพบว่าปัญหาของลูกบ้านคืออาหารล้นตู้เย็น และเหลือเป็นจำนวนมาก จึงใช้ดีไซน์เข้ามาช่วยกำหนดพฤติกรรมคน ด้วยการเริ่มจากจุดเล็กๆ จากการให้ลูกบ้านได้แชร์อาหารคุณภาพดีไปสู่ผู้ที่ต้องการ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะขยายวงกว้างไปสู่การเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนในสังคม รวมถึงมีการจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปเพื่อให้ความรู้เรื่องปัญหาอาหารเหลือเกินบริโภค และการสร้างระบบจัดการอาหารเหลือที่มีประสิทธิภาพให้กับลูกบ้านอีกด้วย
อย่างที่ได้บอกไป ว่า SC Asset เป็นองค์กรที่มุ่งมั่นในการสร้างจิตสำนึกการแบ่งปัน และรับผิดชอบต่อสังคม และด้วยไอเดียที่อยากให้คนในสังคมควรให้ความสนใจอาหารเหลือเกินบริโภค ที่สามารถแก้ปัญหาปากท้องให้กับคนอีกกลุ่มหนึ่งได้ จึงได้ทำการติดตั้งตู้เย็นขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในโครงการ 2 แห่ง ที่เป็นเส้นทางหลักที่รถของ Thai SOS วิ่งผ่านเพื่อความสะดวกต่อการขนส่ง ซึ่งในอนาคตหากลูกบ้านให้การตอบรับดี อาจจะขยายโปรเจกต์ไปสู่โครงการอื่น ทั้งบ้าน และคอนโดฯ รวมถึง Office Building ของ SC Asset ด้วย
หลายคนอาจคิดว่าปัญหาเรื่องขยะจากอาหารเหลือเกินบริโภคนั้น ทำไมผู้ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาฯ อย่าง SC Asset ถึงเข้ามาเกี่ยวข้องและให้ความช่วยเหลือได้ ซึ่งตรงนี้ต้องฟังให้ดี เพราะน่าสนใจอย่างมากต่อการกระตุ้นเรื่องจิตสำนึกของคนในสังคมไทย อย่าลืมว่า SC Asset ได้ประกาศตัวเป็นองค์กรที่ก้าวข้ามไปอีกขั้นของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มแห่งการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ที่ต้องการพัฒนาชีวิตในทุกๆ ด้าน นอกเหนือจากการสร้างที่อยู่อาศัยที่ดีมีคุณภาพ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของพลังมวลชนในการที่จะพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นสืบไป
หากลูกบ้านคนไหนเอาอาหารหรือวัตถุดิบที่เหลือมาใส่ตู้เย็น แล้วอีกบ้านต้องการสิ่งนั้นก็สามารถแลกเปลี่ยนเอาไปได้ หรือยาม แม่บ้านก็สามารถมาเอาของในนั้นไปใช้ต่อได้เช่นกัน ก็ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ของทาง Thai SOS ที่ต้องการลดขยะอินทรีย์ ซึ่งจากเมื่อก่อนโครงการจะกระตุ้นให้แก่พนักงานห้าง โรงแรม หน่วยงานต่างๆ เท่านั้น แต่ครั้งนี้เป็นการสร้างจิตสำนึกให้เกิดแก่ผู้ใช้หรือผู้บริโภคโดยตรง และสามารถเอาไปเผยแพร่ต่อได้อีก เป็นการสร้างจิตสำนึกให้ลูกบ้านได้แชร์อาหารคุณภาพดีไปสู่ผู้ที่ต้องการ เชื่อว่าในอนาคตจะขยายวงกว้างไปสู่การเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีขึ้นแบบยั่งยืนในสังคม
ดังนั้น งานนี้จึงอยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมมือกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของคนในสังคม และคนในสังคมนั่นเองคือผู้ที่ได้รับประโยชน์ร่วมกัน อันจะส่งผลทำให้ประเทศของเราน่าอยู่และเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ เพราะอย่าลืมว่าความยั่งยืนทุกอย่างต้องเกิดจาก “คน” โดยเฉพาะสังคมหรือชุมชนนั่นเอง
สำหรับผู้ที่สนใจอยากมีส่วนร่วมแคมเปญ Co-Creation for Good Mornings ไม่ว่าจะเป็นการระดมทุน หรืออยากได้ไอเดียเพื่อนำไปสร้างสรรค์ต่อยอดให้ชุมชนหรือสังคมของตัวเอง สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://bit.ly/2KvdW0A