“ฟุตบอล” เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากของมวลมนุษยชาติ เป็นกีฬาที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง โดยที่ผ่านมากีฬาชนิดนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความรัก ความสามัคคีให้กับคนทั้งประเทศได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะประเทศที่มีความนิยมของฟุตบอลก้าวไปสู่ระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับภาคธุรกิจการค้าต่างๆ การท่องเที่ยว และอื่นๆ อีกมากมาย
ขณะเดียวกันในส่วนของภาคเอกชนเองก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและโอกาสเชิงพาณิชย์ จึงได้ดำเนินการส่งเสริม กิจกรรมด้านกีฬาฟุตบอลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าการพัฒนาหรือการส่งเสริมกีฬาฟุตบอลได้ถูกดำเนินการจากภาคเอกชนเป็นหลักมาโดยตลอด
หลายคนอาจจะมองว่าการสนับสนุนหรือการจัดกิจกรรมด้านกีฬาของภาคเอกชนเป็นเพียงการสร้างโอกาสทางธุรกิจเป็นหลัก ไม่ได้ดำเนินการพัฒนาภาพรวมในอุตสาหกรรมฟุตบอลอย่างจริงจัง แต่ ณ วันนี้ภาพดังกล่าวได้ถูกลบออกไปจนหมดสิ้น หลังจากที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ของไทย ได้เข้าเทกโอเวอร์ทีมสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ของอังกฤษ นั่นเพราะต้องการใช้ความเป็นมืออาชีพของทีมฟุตบอลอังกฤษเข้ามาช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทย โดยเฉพาะพัฒนาฝีเท้าของนักเตะเยาวชนไทยให้ก้าวไปสู่ระดับโลก ไม่ใช่แค่ระดับอาเซียนเช่นในปัจจุบัน ถือเป็นการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยเริ่มจากการวางรากฐานตั้งแต่ระดับเยาวชน เพื่อที่อนาคตจะเห็นทีมชาติไทยได้ไปร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในนามเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ได้มุ่งมั่นในการดำเนินงานหลายอย่างที่เป็นการส่งเสริมให้กีฬาฟุตบอลของไทยพัฒนาไปในทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็น การปลูกรากฐานให้กับเยาวชนไทยทั่วประเทศ ให้ได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาของตัวเอง จนสามารถเข้าไปสู่การเล่นฟุตบอลมืออาชีพได้ ด้วยการ มอบลูกฟุตบอล 1 ล้านลูกเพื่อสานฝันเด็กไทยได้มีลูกฟุตบอลที่มีมาตรฐานไปฝึกฝน หรือการจัดโครงการคลินิกฟุตบอล Fox Dream เพื่อเปิดโอกาสเยาวชนได้เรียนรู้ทักษะฟุตบอลกับนักเตะระดับทีมชาติ รวมถึงมี King Power’s Cup ที่เป็นเวทีในการคัดเลือกเยาวชนไทยฝีเท้าดีทั่วประเทศเพื่อเข้าไปอยู่ในโครงการ FOX HUNT ซึ่งเยาวชนไทยจะได้รับทุนการศึกษาและไปฝึกทักษะฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ เป็นต้น
ที่ผ่านมากลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีแนวความคิดในการทำงานหลายอย่างที่คล้ายกัน อย่างบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้มีศักยภาพเทียบเท่าสากล
ล่าสุด สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการธุรกิจก็ได้ทำการจับมือกันเพืพ่อสานต่อเจตนารมณ์ในการผลักดันวงการฟุตบอลของไทยให้ก้าวไกลเทียบเท่านานานชาติ ได้ประกาศเป็นพันธมิตรร่วมกันแบบเต็มตัว ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกันคือต้องการพัฒนาวงการฟุตบอลอย่างเป็นขั้นตอน เพื่ออนาคตเยาวชนไทยจะได้รับโอกาสดีๆ ที่จะก้าวขึ้นไปในระดับสากลอย่างภาคภูมิ
การจับมือพันธมิตรโกลบอลพาร์ตเนอร์ กับบริษัท ไทยเบฟเวอรเรจ จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ทำให้ เครื่องดื่มตราช้าง และเบียร์ไซง่อน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กลายเป็นสปอนเซอร์ของทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้
คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และรองประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้กล่าวเกี่ยวกับความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เราได้ให้การสนับสนุนและผลักดัน SPORT POWER มาโดยตลอด ดูได้จากการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากไทยเบฟเวอเรจมาโดยตลอด จนถึงขั้นเรียกได้ว่า ไทยเบฟฯ เป็นพันธมิตรระดับโกลบอลพาร์ตเนอร์ของเราเลยก็ว่าได้ ซึ่งครั้งนี้ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับไทยเบฟฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ในด้านกีฬาฟุตบอล รวมถึงให้ความสำคัญกับลูกค้าและมีความหลงใหลในกีฬาฟุตบอลอย่างแท้จริง
การที่ได้ร่วมงานกับไทยเบฟ ฯ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกทำให้สโมสรฯ มีข้อได้เปรียบทางการค้าที่ชัดเจน ขณะเดียวกันธุรกิจหลายสาขาและกิจกรรมเพื่อสังคมของไทยเบฟ ฯ ยังสอดคล้องกับแนวทางของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อีกด้วย รวมถึงการสร้างกลยุทธ์ในงานด้านชุมชนที่โดดเด่น ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาความสัมพันธ์ของสโมสรกับชาวเมืองเลสเตอร์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น”
ด้านคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ในการร่วมมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ เครื่องดื่มตราช้างและเบียร์ ไซง่อน ซึ่งเป็นเบียร์ยอดนิยมในประเทศเวียดนาม และเป็นสินค้าในเครือไทยเบฟเวอเรจ เข้าเป็นสปอนเซอร์ของทีมสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ โดยโลโก้ของเบียร์ไซง่อนจะอยู่บนแขนเสื้อชุดแข่งทั้ง 3 แบบของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ส่วนเบียร์ช้าง ซึ่งวางจำหน่ายกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ได้รับสิทธิ์จำหน่ายที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยมไทยเบฟ ฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จสโมสรหนึ่งในพรีเมียร์ลีกแห่งสหราชอาณาจักร โดยสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015-16 นับเป็นช่วงเวลาที่โดดเด่นของสโมสร รวมถึงได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากแฟนบอลชาวไทย
ไทยเบฟฯ ในฐานะผู้ผลิตเบียร์ช้างในประเทศไทย และเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้กับกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยมานานกว่า 10 ปี รวมถึงสโมสรต่างๆ ในไทยพรีเมียร์ลีก เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาฟุตบอลในประเทศไทยพร้อมกับไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี การเข้าซื้อกิจการซาเบโก้ในประเทศเวียดนาม ทำให้เบียร์ไซง่อน เข้ามาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเบียร์ของเรา เรามีความสัมพันธ์อันยาวนานกับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในประเทศไทยและรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความร่วมมือของเราขยายไปถึงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เราขออวยพรให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคตข้างหน้า”
อนึ่ง ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นสิ่งดีๆ ที่ทั้งสององค์กรได้ทำร่วมกัน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นที่ดีของวงการฟุตบอลไทยที่จะมีโอกาสก้าวเข้าสู่เส้นทางระดัพบสากลได้อย่างเป็นขั้นตอน การร่วมกันทำสิ่งดีๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราเองในฐานะคนไทยควรให้การส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อเป็นกำลังใจให้องค์กรเหล่านี้ได้มีแรงใจในการทำความดี และสิ่งดีๆ เพื่อสังคมต่อไป
ทั้งนี้ แฟนเลสเตอร์ ซิตี้ และไทยเบฟเวอเรจ สามารถเลือกซื้อชุดแข่งฤดูกาลใหม่ 2018/19 ได้ทั้ง 3 แบบ ชุดแข่งทีมเหย้าสีน้ำเงิน Home Kit ชุดแข่งทีมเยือนสีเทาสุดเท่ Away Kit และชุดแข่งทีมเยือนสีขาว Third Kit ได้แล้วที่ LCFC Store คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา