ภาพปกที่มาจากเหล่าคาแรคเตอร์อันโด่งดังของ ตั้ม วิศุทธิ์ พรนิมิตร ศิลปินเขียนการ์ตูนชาวไทยที่คว้ารางวัลระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย อาทิ รางวัล Manga Encouragement Award จากงาน Japan Media Art Festival เมื่อปี ค.ศ. 2009 และ ยังมีนิทรรศการแสดงงานทั้งในไทยและต่างประเทศ อย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ ประเทศ ญี่ปุ่น
ในโอกาสนี้ ตั้ม วิศุทธิ์ ได้ให้เกียรติมาสร้างสรรค์ผลงานบนปก และ เปิด Studio ให้บ้านและสวนได้เข้ามาพูดคุยกันแบบ Exclusive
“โจทย์คือต้นไม้ในบ้าน ผมเลยพยายามวาดให้ห้องมันดูแข็งเป็นพิเศษ ส่วนวิวข้างนอกแทนที่จะเป็นต้นไม้ก็ให้เป็นตึกแข็งๆดูเป็นเมืองๆหน่อย ทำให้ต้นไม้มันเด่นออกมา ขนาดนกที่บินอยู่ในเมืองข้างนอกยังต้องมาเกาะดูต้นไม้ในบ้าน” ตั้ม วิศุทธิ์ เริ่มพูดถึงภาพวาดของเขา”
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ที่สะท้อนถึงเบื้องหลังแนวคิดการสร้างสรรค์ของปกนี้ ซึ่งไปอ่านกันได้แบบเต็มๆใน นิตยสารบ้านและสวนฉบับพิเศษ เดือนกันยายน 2561 (เราไม่อยากให้ทุกท่านพลาดจริงๆ)
โดยวันนี้เรามีคลิปเบื้องหลังการจรดปลายปากกาของ ตั้ม วิศุทธิ์ พรนิมิตร ขณะที่กำลังสร้างสรรค์ปกสุดพิเศษฉบับนี้มาให้ชมกัน
นอกจากเรื่องราวของเด็กหญิงมะม่วงที่ได้มาร่วมงาน กับ นิตยสารบ้านและสวนแล้ว เราได้พูดคุยไถ่ถามถึงผลงานที่กำลังจะจัดแสดงในช่วงนี้ ซึ่ง ตั้ม วิศุทธิ์ เล่าให้ฟังว่าเขาได้ถูกรับเชิญเป็น หนึ่งใน 75 ศิลปินจากทั่วโลก ที่จะมาร่วมแสดงงานใน เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018 ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม 2561 จนถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ภายใต้แนวความคิด สุขสะพรั่ง พลังอาร์ต (Beyond Bliss) โดยมีกำหนดจัดตามสถานที่สำคัญต่างๆในกรุงเทพ 20 แห่ง
“งานนี้มีศิลปินเก่งๆมาร่วมแสดงงานมากมาย เขาให้ผมทำงานอะไรก็ได้ ผมเลยขอออกแบบด้านการสื่อสารกับผู้ชม ผมอยากให้น้องมะม่วงเป็นตัวสื่อสารชักชวนคนที่ไม่สนใจอาร์ตได้มาลองชมกัน เพราะคนที่ชอบอาร์ตเขาก็ไปอยู่แล้วหละ อยากให้งานน่ารักๆ เป็นสะพานเชื่อมในจุดนี้ และ จะมีแอนนิเมชั่นมะม่วงทั้งหมด 10 เวอร์ชั่น ออกมาให้ได้ชมกันเพื่องานนี้โดยเฉพาะ”
เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018 ถือเป็นงานใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย ที่ผลงานศิลปะระดับโลก จะมาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสังคมและผู้คน กรุงเทพจะเปลี่ยนจากเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายกลายป็นแกลอรี่ศิลปะชั้นเยี่ยมขนาดใหญ่ ตั้ม วิศุทธิ์ ได้กล่าวถึงแนวคิดการจัดงานนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า
“สมมุติว่าคนคนนึงทำงานอยู่ในตึกและรู้จักต้นไม้เป็นอย่างดี อ่านมาเยอะ แต่ในตึกนั้น ไม่มีต้นไม้เลย ถ้าวันนึงมีคนเอาต้นไม้มาไว้ในตึก เขาจะไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้รู้จักต้นไม้มากขึ้นแล้ว เขาจะไม่ได้คิดเลยว่ามีต้นไม้อยู่ในตึกแล้วดีจังเลย แต่ว่าต้นไม้นั้นได้ค่อยๆซึบซับเข้าไปในชีวิตของเขาแล้ว ซึ่งก็เหมือนกับงานศิลปะที่จะค่อยๆซึมซับเข้าไปในชีวิตของคนที่มาชม และ อีกมุมหนึ่ง งานในครั้งนี้ก็เหมือนว่าปกติเรารู้จักทานแต่อาหารไทย แล้วคิดว่าโลกนี้มีแต่อาหารไทยเท่านั้น อยู่มาวันหนึ่ง ศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ (โปษยานนท์) ได้ไปเอา ซูชิ มาเสริฟ์ เราจะเห็นว่า มันมีแบบนี้ด้วยหรอ มันจะกระจ่าง จะชอบหรือไม่ชอบก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันจะทำให้ใจกว้างขึ้น และ มีมุมมองในชีวิตที่หลากหลายขึ้น สุดท้ายมันจะมีความสุขได้อย่างอิสระมากขึ้น ถ้าใจเราแคบชีวิตเราก็จะมีความสุขอยู่กับแค่ไม่กี่อย่าง”
สำหรับใครที่อยากติดตามความเคลื่อนไหวของงานเทศกาลนี้ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดอย่างต่อเนื่องได้ที่ www.baanlaesuan.com หรือ www.bkkartbiennale.com
เรื่อง: สิงหนาท นาคพงศ์พันธุ์
ภาพ: สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
เป็นเพื่อนกันเราได้ใน Line@ : https://line.me/R/ti/p/%40slo7204x