สายลม ทะเล และบ้านตากอากาศ บริบทแห่งความสำราญใน “บ้านสำราญลม หัวหิน ”
เมื่อบ้านตากอากาศถูกรวมความหมายของการอยู่อาศัยและการท่องเที่ยวไว้ด้วยกัน นั่นคือบรรยากาศที่เปลี่ยนไปท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เอื้อให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย แต่ยังคงความอบอุ่นปลอดภัยทุกครั้งที่สัมผัส บ้านสำราญลม หัวหิน
บ้านตากอากาศจึงมักตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งธรรมชาติอย่างภูเขาหรือทะเลกว้าง เช่นเดียวกับ “ บ้านสำราญลม หัวหิน ” โครงการตากอากาศสไตล์โมเดิร์นที่ออกแบบ Villa ขนาด2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 185 ตารางเมตร ให้กลมกลืนกับบริบทของทะเล สายลม และแสงแดดของเมืองหัวหิน เมืองที่ตากอากาศยอดนิยมของเมืองไทย
อาคารทรงกล่องเรียบเท่ กับแนวเส้นตรงสลับ random คล้ายเส้นบาร์โค้ด ไม่ย้อนแย้งกับธรรมชาติรอบข้าง ไม่เล่าเรื่องอดีต ไม่กล่าวถึงอนาคต หากแต่สื่อเพียงปัจจุบัน ล้อมกรอบด้วยความเงียบสงบริมหาดหัวหิน หยอกเย้ากับธรรมชาติอย่างเป็นมิตร ความลงตัวเหล่านี้บอกเล่าผ่านดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวของบริษัท A49 House Design ที่หยิบจับวัสดุสมัยใหม่มาจัดวางได้อย่างดีเยี่ยม
คุณวรนล สัตยวินิจ สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการเล่าว่า “Marine Barcode คือชื่อที่ใช้เรียกแนวความคิดของการออกแบบในโครงการนี้ เพราะองค์ประกอบด้านดีไซน์นั้น ออกแบบมาจากเส้นตรงแนวตั้งหลายๆ เส้น เรียงแถวสลับช่องว่างที่ไม่เท่ากัน ทำให้ดูคล้ายกับแท่งบาร์โค้ด ซึ่งเส้นตรงเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ที่อยากให้อาคารดูเรียบง่าย ไม่ต้องมีสไตล์ไปผูกมัด ไม่ต้องนึกถึงว่าจะต้องเป็นทะเล หรือหาดทราย เส้นแนวตั้งจึงเป็นหัวใจของงานดีไซน์ที่อยากจะสื่อถึงให้เป็น gimmick ของโครงการ โดยใช้วัสดุเป็นตัวนำ ไม่ว่าจะเป็นผนังพรีแคสต์ (Precast concrete) ที่แต่ละแผ่นมีความกว้างแตกต่าง เมื่อเรียงต่อเป็นผนังผืนใหญ่จะเห็นเหมือนเส้นบาร์โค้ดได้ชัดเจน ซึ่งตัวผนังพรีแคสต์นี้เกิดจากการทำงานร่วมกับบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ออกแบบขึ้นเฉพาะเพื่อบ้านเดี่ยวทั้ง 6 ยูนิตในโครงการนี้เท่านั้น”
ไม้ วัสดุจากธรรมชาติที่เบรกความนิ่งเท่ของผนังคอนกรีตเปลือย สถาปนิกเลือกหยิบมาใช้ตกแต่งในบางมุมให้เป็น gimmick อย่างเช่นตัวเสาล้อไปกับเส้นแนวตั้งของผนัง ในขณะเดียวกันก็ใช้แผ่นกระจกใสเป็นตัวเปิดมุมมองให้เห็นวิวธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ้านพักตากอากาศขาดไม่ได้
“กระจกที่ใช้อยากจะเปิดวิวให้มากที่สุด แต่จุดสำคัญคือที่หัวหินซึ่งติดทะเลนั้น แดดจะร้อนมาก ถ้าหากมีกระจกรอบบ้าน ชายคาจะต้องกว้างเพียงพอด้วย เราจึงคำนึงว่า กระจกเยอะได้แต่ไม่ใช่ว่าเหมือนกับกล่องใสๆ ไปเลย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น แดดที่ปะทะเข้ามาในบ้านจะทำบ้านร้อนอยู่ไม่ค่อยสบาย บ้านสำราญลม หัวหิน จึงเป็นหลังคาคอนกรีต Slap ที่ค่อนข้างหนา ซึ่งความหนาของคอนกรีตจะช่วยหน่วงความร้อนได้เช่นเดียวกัน” สถาปนิกกล่าวเพิ่มเติม
พื้นที่ภายในบ้านเองก็สำคัญ ธรรมชาติของการไปพักบ้านตากอากาศย่อมไม่จำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์มากมาย หรือมีข้าวของเครื่องใช้ที่รกรุงรัง พื้นที่แต่ละห้องจึงถูกออกแบบให้เปิดเชื่อมหากันแบบ open plan โดยเฉพาะเมื่อเปิดประตูกระจกใสที่กั้นระหว่างระเบียงกับภายในบ้านจะเห็นความโปร่งโล่งได้อย่างเด่นชัด
“ความพิเศษของบ้านสำราญลม หัวหิน ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศ คือการออกแบบที่คำนึงถึงการพักผ่อนริมทะเล ตรงระเบียงถ้าอยู่แล้วร้อน คนก็จะไม่ออกไปใช้พื้นที่ส่วนนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีขนาดกว้างใหญ่พอที่จะตั้งเฟอร์นิเจอร์ได้ ระเบียงบ้านทุกหลังจึงเป็น cover terrace ทั้งหมด เพื่อให้ใช้งานได้เต็มที่ทั้งกลางวันกลางคืน”
“ตามธรรมชาติของทะเลก็ใช่ว่าจะเย็นตลอดเวลา จะต้องมีความร้อนด้วย และทิศทางของลมแต่ละช่วงวันก็แตกต่าง มีลมบกและลมทะเล ความจริงของธรรมชาติข้อนี้ทำให้ต้องเลือกเปิดรับทั้งสองโดยออกแบบแปลนโครงการให้มีทางลมเข้าและทางออก ยอมเสียพื้นที่บางส่วนเพื่อออกแบบให้มีทางเดิน 2 ทาง ทำให้มีลมพัดผ่านตรงทางเดิน และให้ลมที่พัดผ่านแต่ละยูนิตเปิด flow ถึงกันได้ เทคนิคการดึงธรรมชาติเข้ามาช่วยตรงนี้ทำให้บ้านตากอากาศเป็นบ้านที่อยู่สบายมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าพื้นที่ทางเดินตรงกลางให้มีขนาดใหญ่เพื่อให้ทะลุถึงริมหาดได้ น่าจะเป็นไฮไลต์อีกอย่างของบ้านสำราญลม ซึ่งทีมงานออกแบบตั้งใจอยากทำให้รู้สึกว่ามันโล่งออกไป ตั้งแต่สเต็ปแรกเมื่อเข้ามาในตัวโครงการ จะเห็นเลยว่าล็อบบี้ตัวเปิดโล่งแบบ open air ต่อเนื่องไปจนถึงริมทะเลที่อยู่อีกฝั่ง ส่วนทางเดินส่วนกลางที่เป็นส่วนหน้าบ้านแต่ละหลังจะเชื่อมต่อไปที่สระว่ายน้ำพื้นที่ริมหน้าหาด ตรงนี้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมอาจจะมีเสียงดังบ้าง แต่จะไม่เกิดการรบกวนกันอย่างแน่นอน
รวมแล้ว หากการได้สัมผัสกับความผ่อนคลายที่ธรรมชาติมอบให้อย่างใกล้ชิด ไม่ต้องมากมายจนล้นปรี่ แต่ก็ไม่น้อยนิดจนแทบไม่รู้สึก บ้านสำราญลม หัวหิน คือความพอดีที่รู้สึกได้ชัดเจน