SPECIALIST COFFEE WITH FUSSY PASSION นที เล้ารุ่งเรืองเดช และธัชพล ชอบขาย คู่หูนักทดลอง กับการออกแบบความเป็นไปได้ในจักรวาลกาแฟ
ทุก 10 โมงเช้าของทุกวัน 2 หนุ่มไทยในซิดนีย์จะมีกิจวัตรร่วมกันคือตระเวนไปหากาแฟทานสัก 2 ร้าน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ลิ้น ก่อนจะหามื้อเที่ยง และตบท้ายด้วยเบียร์ช่วงบ่าย
แม็ก-นที เล้ารุ่งเรืองเดช และธัช-ธัชพล ชอบขาย คือ 2 หนุ่มเจ้าของไลฟ์สไตล์ที่น่าอิจฉา
แม็ก เจ้าของธุรกิจคาเฟ่ที่ซิดนีย์ และเจ้าของธุรกิจบาร์ผู้หลงใหลในศาสตร์แห่งเครื่องดื่ม เขายังเป็นที่ปรึกษาด้านการเปิดบาร์และคาเฟ่มาแล้วหลายร้าน เปิดโลกความเป็น Coffee Specialist ด้วยคำทักว่า กาแฟที่กำลังทำอยู่นั้นมัน ‘Old World’ ส่วนรุ่นน้องอย่างธัชก็ไม่ต่างกัน จากบาริสต้าที่กลายมาเป็น Coffee Specialist ในเวลา 4 ปี จากคำติเตียนของลูกค้าว่า ‘กาแฟไม่อร่อย’ จุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาอยากหาคำตอบว่าแล้วกาแฟที่อร่อยรสชาติเป็นอย่างไร
“กาแฟทุกชนิดมันดีทั้งหมด แต่เราต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ความสามารถของสิ่งที่มันมีอยู่แล้วให้ออกมาได้ 100% ที่สุด เราต้องศึกษาว่ากาแฟตัวนี้ด้วยตัวพื้นฐานแล้วมันรองรับได้ขนาดไหนที่เราจะ Modify มันขึ้นมาให้เป็นรสชาติที่พิเศษสักรสชาติหนึ่ง จากความสามารถพื้นฐานของตัวกาแฟไปถึง 100 % มันน่าจะมีการเล่าเรื่องยังไง การเดินทางยังไง ความร้อนของน้ำ ค่า PH กรดเบส ความร้อนของใบมีด ความร้อนของหัวเครื่อง รวมไปถึงจังหวะที่มันออกมาปะทะอากาศ ทุกอย่างมันเป็นส่วนประกอบหมด บางคนคิดว่ามันส่งผลแค่ 5 % แต่ถ้าคุณทำทั้ง 5 % นี้ 7 ครั้งใน 20 ขั้นตอน มันส่งผลถึง 35-40% เลยนะ ขึ้นอยู่กับว่าคุณ Passion กับมันขนาดไหนกันต่างหากที่จะทำมันออกมาให้ดีที่สุด” แม็กให้นิยามคำว่ากาแฟที่อร่อย พร้อมขยายความถึงบทบาทของทั้งคู่ที่อาจจะยังไม่คุ้นหูสำหรับชาวไทยนัก
“หน้าที่ของ Special Coffee นี่แหละ ที่ต้องเป็นคนหาความเป็นไปได้ของรสชาติกาแฟ ดึงศักยภาพของมันออกมาให้ได้มากที่สุด และจะคุมยังไงให้ 1 แก้วที่เราขายอยู่ทุกวันนี้มันมีจุดบกพร่องน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นพวกเราก็จะเป็นคนที่จุกจิกมากๆ โดยเฉพาะธัชชี่ นี่ผมว่ามันเข้าข่ายโรคจิตเลย” เขามองไปยังรุ่นน้องร่วมอุดมการณ์ พลางหัวเราะไปกับการเก็บทุกรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนการชงกาแฟ
“ผมว่ามันเหมือนงานอาร์ตนะ กาแฟมันก็เป็นเหมือนแก้วที่ไม่มีอะไรเลย คนส่วนใหญ่กินกาแฟก็คือได้รสขมรสเปรี้ยวแค่นั้นจบ แต่ที่จริงแล้วในแก้วนั้นมันมีดีเทลหลายอย่างที่เป็นศิลปะ มันยังมีความเปรี้ยวจากเบอร์รี่ มันยังมีกลิ่นของถั่ว มันได้ After Test ไม่น่าเชื่อว่าในแก้วนึงจะสามารถรู้สึกได้ขนาดนี้เลยเหรอ เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากศึกษาและทดลองต่อไป” ธัชให้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงหลงใหลจนอาจถึงขั้นโรคจิตในการพิถีพิถันกับการทำกาแฟสักแก้วตามที่แม็กกล่าวอ้าง
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ของกาแฟ ทั้ง 2 หนุ่มเนิร์ดยังให้คะแนนการเดินทางในโลกนี้ของตัวเอง 10 เต็ม 100 พวกเขายังคงสนุกกับการดีไซน์รสชาติกาแฟในสูตรใหม่ ๆ ต่อไป และมีแผนอันใกล้ว่าจะเปิด Community ให้คนที่รักการดื่มและการชงกาแฟให้มาเจอกัน แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และความคิดเห็นต่อมุมมองที่มีต่อกาแฟ ทำหน้าที่เสมือนสภากาแฟในยุคก่อนแบบไม่หวงวิชา
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น คอกาแฟหรือผู้ที่สนใจ สามารถแลกเปลี่ยนมุมมองกับทั้งคู่ได้ในกิจกรรม ‘The art of Gastronomy’ จัดขึ้นภายในบูธ room x BAB Art & Design Cafe ที่งาน บ้านและสวนแฟร์ 2018 แม็กและธัชจะมาในหัวข้อ ‘Coffee / Local / Culture’ เล่าเรื่องกาแฟผ่าน 3 บริบท พร้อมสาธิตวิธีการชงกาแฟร้อนและเย็น ในวิธี V60 (กาแฟดริป) และ Cold Brew (กาแฟสกัดเย็น)
“ผมอยากจะนำเสนอความเป็น Local ขึ้นมาก่อน โดยใช้วัตถุดิบที่อยู่ในประเทศไทยเช่น เมล็ดกาแฟจากทางเหนือหรือทางใต้นำมาใช้ในกระบวนการของการทำกาแฟ V60 ซึ่งทำให้ได้รสชาติที่มี Texture ที่มากขึ้น มีรสชาติที่แปลกไป มี After Test ที่จะถูกแบ่งออกมาได้อย่างชัดเจน ส่วน Cold Brew จะเป็นกาแฟเย็นที่ได้รสชาติที่มหัศจรรย์มาก มันจะไม่เหมือนอเมริกาโนเย็นทั่วไป แต่จะได้รสชาติที่มี Dynamic มากขึ้น จะได้ความเปรี้ยว ความขม เรื่อง After test มันจะดีมากๆ แล้วเดี๋ยวลองชิมกัน ว่ารสชาติที่คุณจะได้จากเมล็ดกาแฟเดียวกันจากการชงที่สกัดมาจากร้อนกับเย็นที่แตกต่างกันยังไง” Specialist Coffee แม็กทิ้งท้ายไว้
สัมผัสกับประสบการณ์การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด และทดลองชิมอาหารในมิติแปลกใหม่ ซึ่งเรามั่นใจว่าคุณไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อนเเน่นอน เริ่มตั้งแต่เรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังก่อนจะมาเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร ศิลปะการรับรสชาติ ไปจนถึงการออกแบบพื้นที่เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษในระหว่างนั่งรับประทานอาหารผ่าน 6 โปรแกรมในกิจกรรม ‘The art of gastronomy’ โดย Lucky Planet ที่งาน บ้านและสวนแฟร์ 2018 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2561 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.baanlaesuan.com/fair
เรื่อง จรัลพร พึ่งโพธิ์
ภาพ วงศกร จิรชัยสุทธิกุล
ขอขอบคุณ ช่างชุ่ย (ถนนสิรินธร) ที่เอื้อเฟื้อสถานที่
www.facebook.com/ChangChuiBKK/