ไม้ดอกสีเหลือง ปลูกเพิ่มสีสันสวยสะดุดตา
ไม้ดอกสีเหลือง อีกหนึ่งโทนสีที่ได้รับความนิยมชมชอบมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากไม้ดอกสีขาว ไม้ดอกสีชมพู และไม้ดอกสีม่วงจะเป็นที่นิยมชมชอบกันแล้ว
ไม้ดอกสีเหลือง เริ่มจากดอกดาวเรือง ที่ปลูกกัน หรือจะเป็นต้นทองอุไร ไม้พุ่มสูงที่ออกดอกบานทั้งปี ชนิดที่ว่าเห็นแล้วต้องหยุดถ่ายภาพเก็บไว้ แต่นอกเหนือจากไม้ดอกสองชนิดที่คนรู้จักกันดี ยังมี ไม้ดอกสีเหลือง อีก 10 ชนิด ที่น่าปลูกประดับสวน ทั้งไม้พุ่มสูง ไม้พุ่มเตี้ย ไม้ยืนต้น และไม้ดอกประดับสวน ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าจะเลือกปลูกไม้ดอกสีเหลืองชนิดไหนดี
1. ทองประกายแสด หรือ พวงทองดำ
เป็นอีกหนึ่งไม้พุ่มกึ่งเลื้อยที่อยู่คู่สวนไทยมานาน ปลูกเป็นซุ้มไม้เลื้อยได้ ออกดอกสีเหลืองเข้ม ช่อดอกเป็นช่อกระจะที่ซอกใบและปลายยอด ในหนึ่งช่อดอกมีดอกย่อย 10-30 ดอก แต่ละดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 เซนติเมตร ช่วงที่ออกดอกคือเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ การปลูกทองประกายแสดควรเลือกตำแหน่งที่มีแสงแดดจัด ดินร่วนระบายน้ำได้ดี
2. บานบุรี
เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อยที่ปลูกเลี้ยงง่าย ดูแลง่าย และออกดอกทั้งปี จึงเป็นที่นิยมปลูกประดับสวน ซึ่งออกเป็นช่อ ลักษณะดอกเป็นรูปกรวย กลีบดอกสีเหลืองมี 5 กลีบ ขนาดของดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-8 เซนติเมตร ขนาดของต้นสูงได้ถึง 6 เมตร ดูแลง่าย ควรปลูกปลูกในตำแหน่งที่มีแสงปานกลาง ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี เติบโตช้า
3. รวงผึ้ง หรือดอกน้ำผึ้ง
เป็นพรรณไม้ประจำพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นไม้ต้นสูงประมาณ 5-8 เมตร ดอกจะเบ่งบานในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ช่อดอกสีเหลืองเข้ม ออกเป็นกระจุกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง มีดอกย่อยจำนวนมาก ระยะเวลาที่ออกดอกจะบานระยะสั้นประมาณ 2 – 7 วันแล้วโรย แต่เมื่อออกดอกพร้อมกันทั้งต้นจะสวยงามเหลืองสะพรั่ง ดอกมีกลิ่นหอมแรงตลอดวัน
4. มะลิพริมโรส
เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อยขนาดใหญ่สูงได้ถึง 5 เมตร มีถิ่นกำเนิดบนเทือกเขาสูงทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ในไทยนำเข้ามาปลูกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ที่มูลนิธิโครงการหลวงดอยอ่างขางและดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของมะลิที่ให้ดอกสีเหลืองนวลสวย และออกดอกในช่วงหน้าหนาว เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ดอกสีเหลืองเข้ม กลีบดอกกว้าง เรียงซ้อนเกยกันสองชั้น แต่ดอกไม่หอม มะลิพริมโรสชอบอากาศหนาวเย็นและชื้นมาก ทนลมแรงได้ดี ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่งและปักชำกิ่ง
5. มาลัยทอง
เป็นไม้เลื้อยขนาดกลาง ลักษณะช่อดอกที่เป็นพวงยาวคล้ายกับมาลัย ช่อยาว 15-45 เซนติเมตร มีกลีบประดับสีเหลือง แตกช่อย่อย ดอกย่อยเป็นหลอดกลีบดอกสีเหลือง มีขนปกคลุม ในธรรมชาติออกเดือนสิงหาคมถึงกันยายน แต่หากนำมาปลูกเลี้ยงจะออกดอกได้ทั้งปี เป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ที่นิยมทำซุ้มไม้เลื้อย ควรปลูกในตำแหน่งที่มีแดดเต็มวัน
6. ดาวกระจาย
พรรณไม้พื้นถิ่นที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แม้ว่าดาวกระจายจะมีอายุสั้นแต่ก็ยังนิยมปลูกเป็นทุ่งกว้างเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดูสวยงาม มีทั้งดาวกระจายฝรั่ง กลุ่ม Sensation Type (C. bipinnatusCav.) ที่ให้ดอกสีชมพูม่วงและดาวกระจาย กลุ่ม Klondyke Type (C. sulphureus Cav.) ที่ให้ดอกสีเหลืองส้ม ไม่มีกลิ่นหอม ดาวกระจายเพาะเมล็ดติดง่าย โตเร็ว แต่ก็อายุสั้นด้วยเช่นกัน
7. พวงทองต้น
พวงทองเป็นอีกไม้มงคลที่เป็นชื่อดั้งเดิม ไม่ได้ถูกเปลี่ยนชื่อโดยคนขายต้นไม้ มีให้เลือก 3 ชนิด คือพวงทองต้น พวงทองเครือ และพวกทองปีกผีเสื้อ พวงทองต้นเป็นอีกหนึ่งไม้พุ่มขนาดกลางที่นิยมปลูกเป็นแนวรั้วต้นไม้ และปลูกในกระถางประดับสวน ให้ดอกสีเหลืองเข้ม ช่อดอกจะออกที่ปลายกิ่ง ออกดอกตลอดปี ปลูกเลี้ยงง่าย ชอบแดดเต็มวัน ชอบดินร่วนปนทรายจึงสามารถปลูกริมทะเล
8. เหลืองชัชวาล
นับว่าเหลืองชัชวาลยังคงเป็นไม้เลื้อยยอดนิยมที่นิยมปลูกให้ไต่กำแพงผนังบ้าน หรือประดับผนังรั้ว เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดกลาง ออกดอกทั้งปีแต่ออกดอกเยอะในช่วงฤดูร้อน ปลูกง่าย สวยไว ชอบแดดเต็มวัน ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายยอด มีดอกย่อยรูปกรวย 2-15 ดอก ให้ดอกสีเหลืองสดห้อยเป็นพวงดูพลิ้วไหวสวยงาม
9. พุดน้ำบุษย์
เป็นอีกหนึ่งไม้ดอกหอมที่ออกดอกทั้งปี พุดน้ำบุษย์เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง นิยมปลูกเป็นไม้กระถาง ออกดอกเดี่ยวตรงซอกใบใกล้ปลายยอด โคนกลีบดอกเป็นหลอดมีปลายแยกเป็น 6 – 9 กลีบ ตอนเริ่มบานดอกจะมีสีขาวแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง บานประมาณ 2 วันก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม ส่งกลิ่นหอม พุดน้ำบุษย์ชอบแสงเต็มวัน หากไม่มีแสงจะไม่ออกดอก
10. ประดู่บ้าน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pterocarpus indicus Willd. วงศ์ LEGUMINOSAE – PAPILIONOIDEAE ไม้ต้น ขนาดกลางผลัดใบ สูง 10 – 20 เมตร ลำต้นเปลาตรง พันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลจังหวัดภูเก็ต
บทความที่เกี่ยวข้อง
รวมทุกเรื่องไม้ดอกสำหรับปลูกในสวน
ชมสวนหลากหลายแบบสำหรับเป็นแรงบันดาลใจในการจัดสวน
ติดตามข้อมูลดีๆเกี่ยวกับ บ้านและสวนแฟร์ ได้ทาง แฟนเพจบ้านและสวน