หลายคนคงเคยตั้งคำถามว่า ทำไมต้องมี(แสง)ไฟในสระว่ายน้ำ และแสงสว่างเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสระว่ายน้ำหรือไม่ ก่อนไปฟังคำตอบ เรามาลองจินตนาการโดยเปรียบเทียบแสงสว่างในช่วงเวลากลางวันกับกลางคืนกันสักหน่อย
ในเวลากลางวันโลกของเราได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ โดยในวันที่แดดจ้า สระว่ายน้ำของเราจะดูสวยงามสดใส มีชีวิตชีวา แต่ในวันที่ฟ้าหม่น เมฆครึ้ม สระวายน้ำกลับดูอึมครึม ไม่มีมิติ ส่วนในเวลากลางคืนที่ความมืดเข้าปกคลุม แหล่งกำเนิดแสงในช่วงเวลากลางคืนคือดวงจันทร์ จะเปล่งแสงมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม แถมระดับความเข้มของแสงสว่างจากดวงจันทร์ที่ส่องมานั้น ยังไม่เพียงพอต่อการมองเห็นของมนุษย์ ความมืดจึงทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัย เกิดความกลัวจากสิ่งที่เรามองไม่เห็น ดังนั้นแสงสว่างจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน และเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในสระว่ายน้ำโดยเฉพาะในยามค่ำคืน
ทั้งนี้ ระบบไฟสระว่ายน้ำ นอกจากจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานสระว่ายน้ำในเวลากลางคืนแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์เวลาที่เราจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ ริมสระ ซึ่งมาพร้อมกับความสวยงามในยามค่ำคืนที่แสงไฟสะท้อนอยู่ใต้สระว่ายน้ำอีกด้วย แต่ก่อนที่เราจะติดตั้งโคมไฟเพื่อให้แสงสว่างในสระว่ายน้ำ ก็มีหลักในการพิจารณาเบื้องต้นดังต่อไปนี้
1.ชนิดของโคมไฟ
โคมไฟสำหรับงานสระว่ายน้ำ โดยเฉพาะในกลุ่ม Underwater จะต้องเป็นแบบกันน้ำได้ ดังนั้นก่อนเลือกมาใช้งาน เราจึงต้องดูเรื่องค่ามาตรฐานการป้องกัน (Ingress Protection Rating) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “IP” ซึ่งเป็นค่าแสดงระดับการป้องกันของกล่องแผงไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า โดยจะแสดงด้วยตัวเลข 2 หลัก ตัวเลขหลักแรก หมายถึง การป้องกันจากของแข็ง ซึ่งจะมีตั้งแต่ 0-6 ส่วนตัวเลขหลักที่สอง หมายถึง การป้องกันจากของเหลว ซึ่งจะมีตั้งแต่ 0-8 ค่านี้จะปรากฏอยู่ที่หลอดไฟและโคมไฟ ตัวอย่างเช่น
- IP 44 หมายถึง อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนี้ สามารถป้องกันการกระแทกจากของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 มิลลิเมตร และป้องกันละอองน้ำได้ทุกทิศทาง
- IP 68 หมายถึง อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนี้ สามารถป้องกันฝุ่นละอองได้100 เปอร์เซ็นต์ และจมน้ำได้โดยไม่มีน้ำเข้าตัวโคม
ค่ามาตรฐานเหล่านี้ได้มาจากการทดสอบจากโรงงานและจะระบุอยู่ในแคตตาล็อกเสมอ (ตัวเลขยิ่งมากขึ้น ประสิทธิภาพการป้องกันต่างๆ ก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ)
TIPS: โคมไฟสำหรับที่ติดตั้งไฟในสระว่ายน้ำนั้น มีหลากหลายรูปแบบและหลายเฉดสี ไม่ว่าจะเป็นแสงสีขาว แสงสีวอร์ม หรือแบบเปลี่ยนสีได้ โดยขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ดีโคมไฟที่ผ่านการทดสอบจากโรงงานต้องมีค่ามาตรฐานการป้องกัน IP65 เป็นอย่างต่ำ แต่ถ้าเป็นโคมไฟที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งต้องแช่อยู่ในน้ำตลอดเวลา ควรต้องมีค่า IP68 เท่านั้น
2.ชนิดของหลอดไฟ
การให้แสงสว่างในสระว่ายน้ำขึ้นอยู่กับรูปแบบของบรรยากาศที่ต้องการให้เกิดขึ้น ตามมาตรฐานแล้วจะต้องไม่ทำให้สระมืดจนเกินไป เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการใช้สระว่ายน้ำในเวลากลางคืน โดยปกติหลอดไฟในสระว่ายน้ำที่นิยมใช้งานก็มีทั้งหลอดแฮโลเจน หลอดแอลอีดี (LED) โดยติดตั้งที่บริเวณผนังสระ เพื่อให้เห็นบริเวณขอบสระได้ชัดเจนขึ้น มีแผ่นกระจกโค้งครอบเพื่อช่วยกระจายแสงพร้อมพลาสติกครอบกันน้ำรั่วซึม รวมถึงหลอดไฟแอลอีดีที่เปลี่ยนสีได้หลากหลาย ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้สระว่ายน้ำ ที่สำคัญกินไฟน้อยและหลอดไม่ร้อน
TIPS: ก่อนซื้อหลอดไฟมาใช้งาน ควรตรวจสอบก่อนว่า โคมไฟที่ติดตั้งในสระว่ายน้ำใช้หลอดไฟประเภทไหน มีขั้วหลอดแบบใด ควรถ่ายรูปหรือนำตัวอย่างหลอดไฟติดไปด้วย เพราะหลอดบางชนิดหน้าตาคล้ายกัน แต่ขั้วหลอดไม่เหมือนกัน ซื้อมาแล้วอาจใส่ไม่ได้
3. แหล่งจ่ายไฟ
ปกติแล้วไฟฟ้าที่จ่ายมายังบ้านของเราคือ 220 โวลต์ (Volt) แต่หลอดไฟหรือโคมไฟที่ติดตั้งในสระว่ายน้ำต้องการแรงดันไฟฟ้าต่ำ (Low Voltage) เช่น 12 V หรือ 24 V ดังนั้นจึงต้องมีการเชื่อมต่อกับหม้อแปลงไฟก่อนจ่ายไฟให้หลอดไฟนั้นๆได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญโคมไฟทุกดวงจะต้องมีการติดตั้งสายดิน เพื่อช่วยป้องกันไฟรั่วและไฟดูด
TIPS: หม้อแปลงที่ใช้งานสำหรับระบบไฟในสระว่ายน้ำ จะทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้าให้ต่ำลง เพื่อจ่ายไฟให้หลอดชนิดนั้นๆ โดยหม้อแปลงก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามประเภทของหลอดไฟที่ใช้งานคู่กัน เช่น หม้อแปลงของหลอดแฮโลเจน เรียกว่า “ทรานส์ฟอร์เมอร์” (Transformer) มีทั้งแบบที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ และแบบแกนแม่เหล็ก ส่วนหม้อแปลงของหลอดแอลอีดี เรียกว่า “ไดร์เวอร์” (Driver)
4. ตำแหน่งติดตั้งโคมไฟ
โดยทั่วไปแล้วโคมไฟในสระว่ายน้ำ นอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศแล้ว ยังช่วยให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานสระว่ายน้ำในเวลากลางคืน โดยติดตั้งที่บริเวณจุดขึ้น-ลงบันไดในสระน้ำหรือใต้บันไดสระ แสงสว่างจะช่วยส่องให้เห็นตัวบันไดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงการติดตั้งโคมไฟที่ผนังสระหรือพื้นสระ เพื่อช่วยให้เรามองเห็นระดับความลึกได้ แต่ไม่ควรติดตั้งโคมไฟในแนวขอบสระในทิศทางที่ผู้ใช้สระกำลังว่ายน้ำอยู่ เพราะแสงไฟอาจส่องเข้าตาได้
TIPS: การติดตั้งระบบไฟให้สระว่ายน้ำทั้งบนบกและใต้น้ำ เป็นการสร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ได้อีกแบบหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากช่วงเวลากลางวัน และยังสามารถใช้งานสระว่ายน้ำในเวลากลางคืนได้อย่างปลอดภัย