ถ้าเลือกหน้าต่างผิดชีวิตอาจเปลี่ยนไปอีกนาน เพราะหน้าต่างแต่ละแบบมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน จึงควรเลือกให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ เรามาดูข้อพิจารณาในการเลือกหน้าต่าง 5 แบบนี้ที่นิยมใช้กัน
1. หน้าต่างบานเปิด (Casement Window)
เป็นรูปแบบที่นิยมมาตั้งแต่อดีต มีทั้งแบบเปิดได้ 90 องศาและ 180 องศา ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้บานพับ สามารถทำได้ทั้งบานเปิดเดี่ยวและบานเปิดคู่ เหมาะกับหน้าต่างห้องทั่วไป โดยเฉพาะห้องที่ทิศทางลมมาด้านข้าง แล้วทำหน้าต่างช่วยดักให้ลมเข้าบ้านมากขึ้น
ข้อดี ดักลมเข้าบ้านได้ดีกว่าหน้าต่างแบบอื่น โดยเปิดในทิศทางให้ตรงกับทิศทางลม
ข้อจำกัด เป็นหน้าต่างที่เปิดได้ด้านเดียว การทำความสะอาดมักเอื้อมเช็ดกระจกด้านนอกไม่ถึง และต้องมีพื้นที่ด้านนอกให้เปิดหน้าต่างได้
ข้อควรระวัง อาจเดินชนถ้าเปิดออกไปตรงกับทางเดิน
2. หน้าต่างบานเลื่อน (Slide Window)
เหมาะกับบ้านที่ต้องการให้หน้าต่างดูเรียบไปกับผนัง และช่วยไม่ให้เสียพื้นที่ในการเปิดปิดหน้าต่าง มีทั้งแบบบานเลื่อนเดี่ยว บานเลื่อนคู่ และบานเลื่อนสลับซ้ายขวา บางแบรนด์ดีไซน์ให้มีรางสำหรับบานมุ้งลวดด้วย เหมาะกับหน้าต่างห้องทั่วไป
ข้อดี เปิดปิดง่าย เบาแรง ไม่ต้องเอื้อมมือเปิดปิดไกล
ข้อจำกัด เปิดได้เพียงครึ่งเดียวของความกว้างช่องหน้าต่าง ไม่ดักลม และมักมีแมลงหรือเสียงเล็ดลอดผ่านช่องว่างระหว่างบาน
ข้อควรระวัง หากมีสิ่งอุดตันรูระบายน้ำที่ขอบรางจะทำให้น้ำขัง
3. หน้าต่างบานกระทุ้ง (Awning Window)
บานหน้าต่างที่เปิดด้วยการผลักออกขึ้นด้านบน โดยใช้บานพับชนิดเปิดค้างไว้ได้ นิยมใช้ทำเป็นหน้าต่างระบายอากาศ และหน้าต่างที่ไม่ต้องการเปิดกว้างมากนัก เช่น ห้องน้ำ และช่องแสงส่วนบนของผนัง แต่ก็สามารถออกแบบใช้สำหรับห้องทั่วไปได้เช่นกัน
ข้อดี สามารถป้องกันฝนสาดได้ดีกว่าหน้าต่างบานเปิดและบานเลื่อน จึงเปิดแง้มระบายอากาศก็ได้ หรือเปิดกว้างรับลมก็ได้
ข้อจำกัด เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ไม่ควรทำขนาดบานหน้าต่างขนาดใหญ่เพราะน้ำหนักมาก ทำให้เปิดปิดยากและเปิดค้างไว้ไม่ได้ และมักเอื้อมเช็ดกระจกด้านนอกไม่ถึง
ข้อควรระวัง หากทำเป็นหน้าต่างส่วนบนของผนัง เช่น หน้าต่างห้องน้ำ แล้วภายนอกเป็นทางเดิน ควรออกแบบให้เปิดแล้วพ้นระดับศีรษะป้องกันการเดินชน
4. หน้าต่างบานเกล็ด (Louver window)
เป็นหน้าต่างที่ออกแบบมาสำหรับการระบายอากาศ สามารถระบายอากาศได้เต็มพื้นที่ช่องเปิด และป้องกันฝนได้ดีระดับหนึ่ง จึงเปิดระบายอากาศได้ตลอดเวลา แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ หน้าต่างบานเกล็ดติดตาย เหมาะสำหรับช่องระบายอากาศที่อยู่สูงหรือพื้นที่ที่ต้องระบายอากาศตลอดเวลา เช่น ช่องระบายอากาศใต้หลังคาและใต้พื้น ห้องเก็บของ ถ้าต้องการทึบแสงนิยมทำด้วยไวนิล ไม้ อะลูมิเนียม หรือถ้าต้องการความโปร่งก็เลือกใช้กระจกใส กระจกฝ้า หรือกระจกลายผ้า อีกชนิดคือ หน้าต่างบานเกล็ดปรับองศาได้ ซึ่งสามารถเปิดปิดได้ตามต้องการ
ข้อดี เปิดระบายอากาศได้ดีกว่าหน้าต่างแบบอื่น ตัวบานเกล็ดยื่นออกไปเพียงเล็กน้อย จึงไม่ต้องกลัวการเดินชน ติดตั้งบริเวณทางเดินได้
ข้อจำกัด แม้จะเป็นบานเกล็ดที่ปิดได้ แต่จะปิดได้ไม่สนิทนัก เพราะมีรอยต่อระหว่างบานเกล็ดเยอะ จึงไม่เหมาะกับห้องปรับอากาศ อีกทั้งมีประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงและความร้อนน้อย
ข้อควรระวัง ไม่ควรทำช่องหน้าต่างกว้างเกิน 80 – 90 เซนติเมตร เพราะบานเกล็ดอาจแอ่นได้ง่าย
5. หน้าต่างติดตาย (Fixed Glass Window)
คือหน้าต่างที่เปิดไม่ได้ ทำหน้าที่เพียงให้แสงสว่างผ่านและเปิดมุมมองให้ภายในบ้าน โดยเลือกกรุกระจกตามการใช้งาน เช่น กระจกใส กระจกฝ้า กระจกลวดลาย เหมาะกับการทำเป็นช่องแสงบริเวณที่เปิดไม่ถึง เช่น บริเวณโถงบันได ผนังกระจกสูง หรือใช้ร่วมกับหน้าต่างแบบอื่น เช่น การทำหน้าต่างเข้ามุม
ข้อดี ไม่มีการใช้อุปกรณ์เสริมจึงมีการซ่อมบำรุงน้อย เพียงซ่อมแซมตามการเสื่อมสภาพของวัสดุ
ข้อจำกัด ความกว้างยาวของหน้าต่างขึ้นอยู่กับชนิดและความหนาของกระจก
ข้อควรระวัง หากติดตั้งในพื้นที่สูง ควรคำนึงถึงการทำความสะอาดกระจกหลังติดตั้งด้วย
Tips
นอกจากการเลือกหน้าต่างให้ถูกประเภทแล้ว การเลือกใช้วัสดุหน้าต่างคุณภาพสูงก็จะหมดปัญหากวนใจและส่งเสริมให้บ้านสวยอยู่ทนนาน อย่างระบบประตูหน้าต่างไวนิลของ Windsor ซึ่งเป็นสูตรพิเศษที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทยโดยเฉพาะ (WINDSOR Advance Vinyl) ด้วยการเพิ่มคุณสมบัติหลายอย่างคือ
- UV Stabilizer สารช่วยสะท้อนรังสียูวี
- Heat Stabilizer สารเพิ่มความคงทนต่อความร้อน
- Impact Modifier สารเพิ่มความยืดหยุ่น ทนการกระแทกและบีบอัด
- Premium Color สีเกรดพิเศษ ผสมในเนื้อวัสดุ ไม่ลอกล่อน ไม่ซีดจาง
- Anti-Stain สารป้องกันคราบดำ
จึงทำให้ระบบประตูหน้าต่างไวนิลของ WINDSOR มีพื้นผิวสวยงาม ยืดหยุ่น สามารถดัดโค้งได้ มีความทนทานคุ้มค่าตลอดอายุการใช้งาน ทั้งยังใส่ใจสภาพแวดล้อมโดยใช้พลังงานในการผลิตต่ำและยังนำกลับมารีไซเคิลได้ ที่สำคัญ ไม่ต้องกลัวเรื่องไวนิลเปลี่ยนสีจากการเกิดน้ำท่วมอีกด้วย
ถ้าหากท่านต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบช่องแสงหรือประตูหน้าต่างสำหรับ Green House หรือ Sun Room เพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สายตรงบริการลูกค้า โทร. 02 555 0333 หรือ Facebook: www.facebook.com/Windsorpage