เพราะที่ดินผืนนี้สวยงามเกินกว่าจะมีไว้เชยชมเพียงคนเดียว ทำให้ พันตํารวจเอก เกรียงศักดิ์ กัลป์ยาวัฒนเจริญ ตัดสินใจขยายอาคารอยู่อาศัยและพื้นที่ใช้สอยที่เดิมเป็นสวนลิ้นจี่และป่ารกชัฏให้กลายเป็นบ้านพักตากอากาศและรีสอร์ตหรูนามว่า จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ สวนน้ำตกกลางธรรมชาติ
ซึ่งเราเคยนำเสนอในแง่ของการออกแบบอาคารในคอลัมน์ “นอกบ้าน” ฉบับเดือนพฤษภาคม 2561 แต่สถานที่แห่งนี้ยังมีความน่าสนใจในแง่มุมของการจัดสวนที่มีดีไม่แพ้กัน สวนน้ำตกกลางธรรมชาติ
บนพื้นที่ราว 6 ไร่นี้มีจุดเด่นที่มีความชันมากเป็นพิเศษ การใช้ประโยชน์จึงมีความยากในระดับหนึ่ง ต่างจากสวนที่ตั้งอยู่บนที่ราบที่สามารถปรับใช้งานหรือก่อสร้างองค์ประกอบภายในสวนได้ง่ายกว่า แต่ความชันก็มีข้อดีในแง่ที่ส่งเสริมให้มองเห็นวิวภูเขาที่มองออกไปได้ไกลและสวยงามกว่าบริเวณอื่น ซึ่งในสายตาของ คุณอำนวย อินทจักร์ ผู้ออกแบบภูมิทัศน์ของโครงการนี้ มีความเห็นว่าควรออกแบบเป็นสวนน้ำตกที่ออกมารับมุมมองหน้าทางเข้าโครงการ มีสะพานไม้ข้ามผ่านน้ำตกไปยังอีกฝั่ง ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ และสร้างบรรยากาศของขุนเขาได้เป็นอย่างดี คุณอำนวยเล่าถึงแนวคิดในการจัดสวนน้ำตกแห่งนี้ว่า
“ผมมองว่าเสียงน้ำตกมีความคล้ายเสียงดนตรี พื้นที่แห่งนี้ก็คือเครื่องดนตรีที่สามารถเล่นตัวโน้ตที่มีระดับเสียงตั้งแต่ต่ำไปจนถึงสูง เราสามารถใช้โน้ตดนตรีอะไรก็ได้มาปรุงแต่งให้น้ำตกนี้มีความไพเราะและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น มีเรื่องราวซึ่งใครที่ได้มาพบเห็นก็สามารถชื่นชมได้ไม่มีเบื่อ”
เมื่อปรับระดับความชันของพื้นที่ให้เหมาะสมกับการก่อสร้างอาคารและถนนทางเข้าโครงการแล้ว มีการใช้เครื่องมือยกก้อนหินทรายและหินแกรนิตขนาดใหญ่และขนาดกลางมาจัดเรียงเป็นโครงสร้างของน้ำตกโดยให้มีรูปทรงเรียงซ้อนไปมาเป็นชั้นๆ ก่อนปลูกต้นไม้ใหญ่ที่มีรูปทรงสวยงามอย่างเสม็ดแดง จิกน้ำ ไคร้ย้อยเป็นไม้ประธานและให้ร่มเงา จากนั้นก็ตกแต่งตามพื้นผิวน้ำตกด้วยหินฟองน้ำซึ่งมีคุณสมบัติดูดซับและรักษาความชื้น ทำให้มีเฟินและมอสส์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงปลูกไม้คลุมดินที่ชอบความชื้นและสามารถพบเห็นได้ในป่าน้ำตกตามธรรมชาติ อาทิ เฟิน บีโกเนีย ริปซาลิส สับปะรดสี และเดปชนิดต่างๆแทรกไปตามรอยต่อของหินแต่ละก้อน รวมไปถึงบริเวณกิ่งและลำต้นของไม้ยืนต้นด้วย
“ความชื้นเป็นตัวก่อกำเนิดชีวิต ดูแล้วมีรายละเอียดให้เราได้ค้นหาและหลงไปอยู่ในวังวนแห่งการพักผ่อน โดยมีพรรณไม้ขนาดเล็กรวมถึงมอสส์ซึ่งไม่ต้องดูแลอะไรมาก เพียงแต่ต้องรักษาร่มเงารำไรให้เหมาะสม รวมถึงรักษาน้ำในดินและอากาศต้องเพียงพอ ก็สามารถเกิดธรรมชาติอย่างที่เห็นขึ้นได้”
สวนในบริเวณอื่นยังคงตกแต่งให้มีบรรยากาศของสวนลิ้นจี่ดั้งเดิมอยู่ โดยมีลิ้นจี่ต้นเดิมคอยให้ร่มเงาแก่มุมนั่งเล่นและพื้นที่ชมวิวของบ้านพักในขนาดต่างๆรอบโครงการ ขณะที่พื้นที่ด้านหลังของโครงการซึ่งมีลักษณะลาดเท แม้จะปรับระดับแล้วก็ยังเสี่ยงต่อการพังทลายของผิวดินจนอาจเกิดอันตรายในอนาคต ผู้ออกแบบจึงแก้ปัญหาด้วยการทำเป็นพื้นที่ปลูกผักออร์แกนิก รวมถึงพืชล้มลุกที่รับประทานได้อย่างกล้วย มะละกอ สตรอว์เบอร์รี่ ไปจนถึงเก๊กฮวย นอกจากผลผลิตที่ได้จะนำมาประกอบอาหารให้ทางโรงแรมและร้านอาหารแล้ว พืชพรรณเหล่านี้ยังช่วยสร้างความสวยงามให้พื้นที่บริเวณนี้อีกด้วย
จันตราคีรี มีความหมายว่า ทรัพย์งามบนขุนเขา ซึ่งคงมิได้มีเพียงทรัพย์ที่เห็นได้ด้วยตา หากแต่ผืนดินและธรรมชาติในสถานที่แห่งนี้ก็มีความงามที่เปรียบเหมือนทรัพย์อีกชนิดหนึ่ง สามารถสัมผัสได้ทั้งรูป รส กลิ่นและเสียง ก่อให้เกิดสุนทรียภาพอันงดงามควรค่าแก่การมาเยือน
ที่ตั้ง: จังหวัดเชียงใหม่
สถานที่: จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
เจ้าของ: พันตํารวจเอก เกรียงศักดิ์ กัลป์ยาวัฒนเจริญ
ออกแบบ:คุณอำนวย อินทจักร์
เรื่อง : ปัญชัช
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข
เรื่องที่น่าสนใจ