เมื่อพูดถึง “สีที่ใช้ในการแต่งบ้าน” หลายๆ คนคงเลือกใช้ “โทนสีสว่าง” อย่าง ขาว ครีม ฟ้า ชมพูอ่อนเป็นหลัก เนื่องจากเป็นกลุ่มสีที่ช่วยทำให้บ้านดูโล่ง กว้าง และสะอาดตามากขึ้น ต่างจาก “โทนสีเข้ม” ที่มักเป็นกลุ่มสีที่ถูกมองข้ามอยู่เสมอเนื่องจากความคิดเดิมๆ ที่ว่าการแต่งบ้านด้วยสีเข้มจะทำให้บรรยากาศโดยรวมภายในบ้านดูมืด คับแคบ และอึดอัด
แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ในปัจจุบันหลายๆ คนตกแต่งบ้านเพื่อสะท้อนความเป็นตัวตนและอัตลักษณ์ของตนเองในการอยู่อาศัย “โทนสีเข้ม” จึงได้ถูกหยิบมาใช้เพื่อส่งเสริมความมีสไตล์ให้กับการตกแต่งมากยิ่งขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นการแต่งบ้านด้วยโทนสีเข้มมักเป็นโทนสีที่ช่วยเสริมความหรูหรา ทันสมัยและงดงามเหนือกาลเวลา วันนี้เราจึงไม่พลาดที่จะนำเคล็ดลับง่ายๆ ในการแต่งบ้านด้วยสีเข้มมาฝากเพื่อนๆ ชาว room กันครับ
1. เลือกใช้โทนสีเข้มในบางจุด
หากกลัวว่าการตกแต่งบ้านด้วยโทนสีเข้มจะยิ่งทำให้บ้านดูคับแคบลงไปจากเดิม การเลือกใช้โทนสีเข้มเพื่อเน้นพื้นที่เฉพาะจุดก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสร้างสไตล์และความโดดเด่นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นอกจากนี้การจับคู่ผนังห้องสีเข้มกับเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบยังเป็นการดึงเอาเสน่ห์ของความเป็นโมเดิร์นแบบเรียบง่ายของห้องและเฟอร์นิเจอร์ออกมาได้อย่างลงตัวโดยไม่ต้องกลัวอึดอัด
2. ใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีสว่าง
เมื่อเราเลือกที่จะตกแต่งผนัง เพดาน หรือพื้นห้องด้วยโทนสีเข้มแล้ว การหยิบเอาเฟอร์นิเจอร์บางส่วนที่มีโทนสีสว่างมาเติมแต่งห้องลงไปก็ถือเป็นการช่วยสร้างชีวิตชีวาและความน่าสนใจเพิ่มได้อีกทาง ไม่ว่าจะเป็น ชุดโซฟา ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน หรือแม้กระทั่งกรอบรูปโทนสีสว่างที่ตัดกันกับผนังห้องสีเข้ม เป็นต้น
3. ยึดตามกฎ 60-30-10
หลักการ 60-30-10 ถือเป็นทฤษฎีในการตกแต่งภายในที่จะช่วยให้เราสามารถคุมโทนของสีและสร้างจุดเด่นภายในห้องให้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยการแบ่งสีทั้งหมดออกเป็น 3 ช่วง คือ สีหลัก 60% (ใช้กับบริเวณผนังหรือพื้นที่ส่วนใหญ่ภายในห้อง) สีรอง 30% (ใช้กับประตู เสา หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ภายในห้อง) และสีไฮไลท์ 10% (ใช้เฉพาะจุดเพื่อเสริมสร้างความโดดเด่น) ทั้งนี้หากเราใช้โทนสีเข้มเป็นสีหลักในการแต่งห้อง การเลือกใช้โทนสีสว่างเป็นสีรองและสีไฮไลท์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยสร้างมิติให้กับตัวห้องได้เพิ่มมากขึ้น
4. เลือกใช้สีเข้มที่มีคุณภาพ
ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาเพิ่มมากขึ้น การเลือกใช้สีเข้มจากแบรนด์ที่มีคุณภาพจะทำให้เราไม่คอยกังวลเรื่องคุณภาพและผลงานที่ได้รับ เนื่องจากแบรนด์เหล่านี้มักจะสอดแทรกนวัตกรรมเกี่ยวกับสีใหม่ๆ ลงไปอยู่เสมอ เช่นเดียวกับการเลือกใช้สีเข้มของผลิตภัณฑ์ “BegerCool” (เบเยอร์คูล) ที่นอกจากจะช่วยเปลี่ยนแนวความคิดแบบเดิมๆ ให้เราสามารถสะท้อนอัตลักษณ์ของตนเองได้ผ่านทางสีทาบ้านแล้วนั้น ผลิตภัณฑ์สีเข้มจากเบเยอร์คูลยังมาพร้อมกับนวัตกรรมอันโดดเด่น อาทิ
- “ไมโครสเฟียร์เซรามิก”นวัตกรรมป้องกันความร้อนที่มีรูปแบบเดียวกันกับกระสวยอวกาศของนาซ่า จึงทำให้สีเข้มจากเบเยอร์คูลสามารถสะท้อนและสกัดกั้นความร้อนได้ “มากกว่า” สีเข้มทั่วๆ ไป
- ความ“เกลี้ยง” ขณะทาที่ทำให้สีเข้มจากเบเยอร์คูลสามารถสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้สูงถึง 4%
- ความ“กลวง” ของเม็ดสีที่เปรียบเสมือนสารกันร้อนคล้ายฟองกาแฟ จะช่วยป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน
- ความ“กลม” ของเนื้อสัมผัสจึงทำให้ฟิล์มสีที่ทานั้นมีความเรียบเนียนจนกระจายแสงได้ดีกว่าเดิม
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้สีเข้มจากเบเยอร์คูลกลายเป็นสีเข้มที่นอกจากจะไม่ทำให้บ้านดูอับทึบแล้วยังช่วยประหยัดค่าไฟสูงถึง 30%* อีกด้วย ชาว room ที่อยากลองออกนอกกรอบ สร้างอัตลักษณ์ความเป็นตัวตนผ่านการตกแต่งบ้านด้วยโทนสีเข้ม จึงไม่ควรพลาดที่จะมองหาสีที่มีนวัตกรรมดีๆ อย่าง “สีเข้มจากเบเยอร์คูล” กันนะครับ สนใจเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2U1Ayv0
*ผ่านการทดสอบและรับรองจากหน่วยงานรัฐบาล พร้อมได้รับมาตรฐาน มอก. 2514, มอก.ลดความร้อน และรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ