พาลุย 7 จุดไฮไลต์ที่ Design Village อาณาจักรของคนรักบ้าน
หากจะมีสถานที่สักแห่งหนึ่งที่เป็นจุดศูนย์รวมทุกสิ่งอย่างเรื่องบ้าน ไม่ว่าจะเป็นวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ ของตกแต่ง เครื่องใช้ไฟฟ้า ไอเดียเด็ดๆโดนใจ วัสดุแปลกใหม่ หรือแม้แต่เป็นแหล่งตามหาช่างซ่อมแซมต่อเติมบ้าน Design Village สาขาราชพฤกษ์แห่งนี้ คือ แหล่งรวมของทุกอย่างที่กล่าวมาภายใต้แนวคิด “One Stop Happening ครบจบที่เดียว”
Design Village สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 14 ไร่ เป็นอาคาร 4 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 17,000 ตารางเมตร เป็นอีกหนึ่งสาขาของบุญถาวรที่เราคุ้นชื่อกันดี เพราะเป็นแหล่งช็อปปิ้งสินค้าตกแต่งบ้านประเภทกระเบื้อง สุขภัณฑ์ และของตกแต่งบ้าน โดย Design Village นั้นได้เพิ่มเติมในส่วนอื่นๆ เพื่อให้ตอบโจทย์คนรักบ้านที่มีไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ มากขึ้น โดยคัดสรรสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกมาไว้ในที่แห่งนี้ พร้อมกับแบ่งพื้นที่เป็น 3 โซนหลักๆ ตามความต้องการของลูกค้า อย่าง Design Space เป็นแหล่งรวมสินค้าสำหรับคนรักบ้าน Life Space ร้านค้าต่างๆ ที่เข้ามาเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ และสุดท้ายคือ Open Space พื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำกิจกรรมที่ออกแบบให้เหมาะกับลูกค้าในแต่ละพื้นที่
ทั้ง 3 โซนนี้จะแบ่งเป็นโซนย่อยตามประเภทของสินค้าเพื่อให้ง่ายต่อการจับจ่ายช็อปปิ้ง ช่างประจำบ้านคัดสรร 7 มุมไฮไลต์ที่น่าสนใจมาให้ชมกัน
1. HOMEMART
หากต้องการปูนยาแนวกระเบื้อง สีทาบ้าน หรือปั๊มน้ำสักตัว ให้นึกถึงโซน HOMEMART เป็นที่แรก เพราะเป็นอีกหนึ่งโซนใน บุญถาวร ทุกสาขา ที่เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรศูนย์รวมอุปกรณ์เพื่องานช่างกระเบื้อง สุขภัณฑ์ ห้องน้ำ ห้องครัว และวัสดุตกแต่งบ้าน รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน สินค้าแต่ละโซนแบ่งประเภทตามการใช้งาน หาง่าย มีราคาบอกชัดเจน แถมยังมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำสินค้าเพิ่มเติมให้ด้วย
2. TILE GALLERY
ถ้าคิดถึงกระเบื้องให้นึกถึง บุญถาวร เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายของกระเบื้องที่มีให้เลือกอย่างครบครันและครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องปูพื้น กรุผนัง โมเสก กระเบื้องสระว่ายน้ำ หรือจะเป็น Big Slab กระเบื้องแผ่นใหญ่ไร้รอยต่อที่ช่วยให้บ้านดูสวยงามเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น แต่ที่ห้ามพลาดเลยคือโซน Gelato กระเบื้องสีสันสดใสที่ออกแบบลวดลายได้ทันสมัยสุดๆ ด้วยเทคโนโลยีพริ้นติ้ง เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้าน ร้านค้า หรือคาเฟ่ให้ดูสนุกสดใส
นอกจากนี้ยังมีกระเบื้องแบรนด์อื่นๆ ให้เลือกซื้ออีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Pariscaza, Porcelanosa, COTTO, GANI Marble Tiles รวมทั้งโซน Décor Tile ที่รวมกระเบื้องตกแต่งทั้งพื้น ผนัง โมเสก และสระว่ายน้ำ ทั้งยังมี TILE GALLERY อยู่บริเวณชั้น 2 ขึ้นบันไดเลื่อนสะดวกสบาย เดินชมเพลินๆ กันได้ทั้งวัน
3. BATH & BATH
ต่อเนื่องมาที่โซน BATH & BATH กับสุขภัณฑ์ในห้องน้ำที่รวบยอดตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักแสนมาไว้ให้เลือกในที่เดียว จากหลายแบรนด์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น KOHLOR, American Standard, COTTO ,TOTO ,Bathroom Design ,MOGAN, Roca ฯลฯ ซึ่งหากใครปรารถนาสินค้าลดราคาด้วยแล้ว โซน BATH & BATH ยังมีสินค้าโปรโมชั่นที่คัดแยกมาไว้ให้เห็นกันชัดๆ อีกด้วย
4. KITCHEN STUDIO
ขึ้นสู่ชั้น 3 โซนนี้เป็นสวรรค์ของคนรักครัวเลยก็ว่าได้ เพราะมีชุดครัวให้เลือกสรร หลากหลายแบบ Absolute Kitchen , ครัวปูน 360 , Kitchen Express , Smart Kitchen ดีไซน์สวยหรูตามการใช้งานของแต่ละบ้านแล้ว ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวให้เลือกอีกด้วย และยังให้บริการออกแบบชุดครัว 3D Design โดยดีไซเนอร์มืออาชีพเพื่อให้ได้ชุดครัวที่ดีที่สุด ในโซนนี้จัดวางแปลนให้เห็นภาพการใช้งานแบบชัดๆ ตั้งแต่พื้นที่ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ จากวัสดุหลากหลายชนิดที่เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละบ้าน ต้องบอกเลยว่าชุดครัวในโซน KITCHEN STUDIO นี้มีดีไซน์สวยงามโดดเด่น จะโชว์ก็ได้จะใช้งานก็ดีไม่แพ้กัน ที่สำคัญยังเป็นที่แรกในประเทศไทยที่ลูกค้าสามารถเข้ามาทดลองใช้งานครัวได้จริง ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้ได้ครัวที่ถูกใจที่สุด
5. LIFESTYLE FURNITURE
เข้าสู่หมวดของคนชอบแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ในโซน LIFESTYLE FURNITURE ที่คละเฟอร์นิเจอร์หลายแบบให้เลือก ใครกำลังมองหาโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ม้านั่ง ชั้นวาง ที่นี่มีครบครัน ภายใต้ดีไซน์เรียบหรูสไตล์โมเดิร์นและคอนเทมโพรารี ซึ่งจะเข้าไปช่วยเติมเต็มบ้านให้ดูสมบูรณ์แบบในราคาที่จับต้องได้ เดินเลือกเพลินๆกัน ในชั้น 3 และชั้น 4 ได้เลย
6. LIGHTING CENTER
อีกมุมหนึ่งที่เป็นศูนย์รวมโคมไฟตกแต่งทุกประเภทและอุปกรณ์ส่องแสงสว่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นแชนเดอเลียร์ โคมไฟแบบตั้งโต๊ะ แบบตั้งพื้น หรือแบบติดผนัง หากใครยังไม่มีแบบโคมไฟในใจแล้วไปที่นี่รับรองว่ามีแบบที่ถูกใจอย่างแน่นอน ด้วยโคมไฟทั้งจากในประเทศและต่างประเทศกว่า 5,000 รายการ รวมถึงไฟดาวน์ไลท์ หลอดไฟคุณภาพดี ในราคาที่จับต้องได้แต่ดีไซน์สวยเกินราคา
7. WORKSPACE
จุดสุดท้ายเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ นั่นคือ WORKSPACE พื้นที่ส่วนกลางสำหรับค้นหาแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้านบนพื้นที่กว่า 1,400 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วย Material Library รวบรวมวัสดุสำหรับตกแต่งบ้านไว้ให้ชมกันแบบจุใจกว่า 20,000 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ทำงานส่วนกลางแบบ Free Co-working Space ที่เปิดให้สมาชิกเข้ามาใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ (ค่าสมัครสมาชิกยังฟรีอีกด้วย) และสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย Lifestyle Café & Restaurant พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารรับประทานง่ายๆ สำหรับรองท้องขณะคุยงานในโซนนี้
นอกเหนือจาก 7 จุดไฮไลต์ที่กล่าวไปแล้ว Design Village สาขาราชพฤกษ์ ยังมีร้านคู่ค้าเข้ามาเพิ่มสีสันในการ ช็อปปิ้งของแต่งบ้านอย่าง JYSK (จุสก์) จากประเทศเดนมาร์ก จำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องนอน เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวีย และร้าน ZWILLING หนึ่งในแบรนด์เครื่องครัวที่มีเครื่องหมายการค้าเก่าแก่ที่สุดในโลก และได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมคุณภาพ จุดที่พลาดไม่ได้อีกแห่งคือ ร้านอาหาร Basilico บริการอาหารอิตาลีสไตล์ออริจินัล คัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ อาหารทุกจานผ่านฝีมือการปรุงโดยเชฟมืออาชีพ ที่นี่เด็ดเรื่องของพิซซ่าสูตรดั้งเดิม แป้งบางกรอบอร่อย หากได้ชิมแล้วรับรองว่าถูกใจอย่างแน่นอน
มาที่เดียวจบ ครบทุกสิ่งเรื่องบ้าน อิ่มท้องสบายใจ และได้ไอเดียกลับไปเต็มกระเป๋าแบบนี้ ต้องแวะมาเดินเล่นกันสักครั้ง Design Village สาขาราชพฤกษ์ เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00 น. – 20.00 น. โซน WORKSPACE เปิดทำการ เวลา 08.00 น.– 22.00 น.