สว่านไร้สายหรือมีสาย แบบไหนเหมาะสำหรับช่างประจำบ้าน
สว่านไฟฟ้าไร้สาย หรือมีสาย แบบไหนเหมาะสำหรับช่างประจำบ้าน
ข้อดีของ สว่านไฟฟ้าไร้สาย คือ ความสะดวก ถือไปทำงานตามที่ต่างๆได้ ไม่ต้องมองหาปลั๊กไฟและสายไฟมาพ่วงต่อความยาวให้หงุดหงิด แต่ถ้าเราซื้อสว่านไร้สายรุ่นต่ำๆ แม้จะเป็นยี่ห้อติดตลาดคุ้นหูมานาน ก็จะมีความเร็วรอบต่ำ มีแรงบิด กำลังน้อย ที่ความเร็วรอบสูง แรงบิดสูง กำลังมากๆ ก็จะมีราคาสูงเช่นเดียวกับสว่านไฟฟ้า และข้อเสียที่ต้องพิจารณาด้วยก็คือ แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่มีอายุการใช้งาน หากเก็บไว้เฉยๆ ไม่ถูกชาร์ตไฟเลยเป็นปีเรียกว่าไม่มีการกระตุ้นแบต แบตจะเสื่อมอย่างถาวร ซื้อใหม่ก็มีราคาแพงเอาการ ถ้าจะดัดแปลงแบตเตอรี่เอง ก็ต้องใช้ความรู้พอสมควร
เมื่อเทียบกับระดับราคาเท่าๆกัน สว่านไฟฟ้าแบบมีสาย มีแรงบิดสูงกว่า ความเร็วรอบสูงกว่า และใช้งานหนักได้ดีกว่า สว่านแบบเจาะไม้ เจาะเหล็ก พร้อมระบบกระแทกเพื่อเจาะปูน กำลังไฟ 650 วัตต์ ราคายังไม่ถึง 1,000 บาท ในขณะที่ส่ว่านไร้สาย แบบที่มีเจาะกระแทกในระดับพอใช้งาน ซึ่งก็ไม่ได้เหมาะกับการเจาะปูนนัก เพราะถูกออกแบบเพื่อช่วยในการขันสกรูซะมากกว่า หากเลือกซื้อยี่ห้อที่คุ้นเคย เชื่อถือได้ ก็มากกว่า 3,000 บาท แน่นอน
ถ้าให้แนะนำว่าซื้อแบบไหนดี หากเป็นสว่านตัวแรกเพื่อการใช้งานที่คุ้มค่า เน้นเรื่องการเจาะเป็นหลัก ให้ซื้อสว่านไฟฟ้าแบบมีสายที่มีระบบเจาะกระแทก ปรับความเร็วรอบได้ เพราะราคาเบา ใช้งานหนักๆ ได้ดี เลือกขนาดประมาณ 600 – 750 วัตต์ ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในบ้านที่ส่วนมากหนีไม่พ้นเรื่องการเจาะผนังปูน เพื่อแขวน หรือติดตั้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และสว่านที่ปรับความเร็วรอบได้ โดยสามารถปรับไปที่รอบต่ำสุด นำมาใส่ดอกไขควง เพื่อใช้ไขสกรูได้ด้วย แต่ต้องระวังไม่ใช้ความเร็วรอบสูง เพราะอาจทำให้หัวสกรูเสียหายได้ง่าย
แต่ถ้าใช้งานนอกบ้านเป็นประจำ หรือกำลังหาสว่านตัวที่สองเพิ่มความสะดวกสบาย สว่านแบบไร้สายก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี หรือถ้าเป็นเพียงงานเจาะเล็กน้อย ชิ้นงานไม่หนามาก ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อสว่านไร้สายแบบเจาะกระแทก ราคาก็จะถูกลง
เรื่องและภาพ บ้านนายช่าง