เมื่อพูดถึงการทำความสะอาดคราบ หลายคนถึงกับเบือนหน้าหนี เพราะขึ้นชื่อว่าคราบแล้ว ต้องลงแรงทุ่มเวลาไปกับการกำจัดออกไป ซึ่งบางทีผลลัพธ์ของการลงแรงนั้นอาจจะไม่เป็นผลทำให้ท้อใจ อยากจะถอยดีกว่า ไม่ทำดีกว่า ตัดใจทิ้งให้คราบสกปรกติดอยู่อย่างนั้น น้ำยาทำความสะอาด
แต่วันนี้ my home มีไอเท็มเด็ดสำหรับนักรบผู้กล้าหาญ ผู้ล้มลุกคลุกคลานต่อสู้กับคราบสกปรกมานักต่อนัก วันที่เราจะกำจัดคราบหนัก ๆ ให้หายไปแบบเบาแรง สะอาดทุกซอกทุกมุมกับกองทัพ 9 น้ำยาทำความสะอาด ตัวช่วยให้เราออกแรงนิดเดียว แต่ขจัดคราบโหด ๆ ได้อย่างอยู่หมัด !
1. น้ำยาทำความสะอาด คราบหินปูน
น้ำยาสำหรับทำความสะอาดห้องน้ำที่มีทั้งคราบหินปูน คราบสนิม หรือจะเป็นคราบเหลืองจากปัสสาวะทั้งบนพื้นผิวโครเมี่ยม สแตนเลส เซรามิค กระเบื้อง กระจก พลาสติก หรือแก้ว เอาเป็นว่าทุกพื้นผิวที่มีอยู่ในห้องน้ำ น้ำยาทำความสะอาดขวดนี้ก็เอาอยู่ค่ะ นอกจากพื้นผิวต่างๆแล้วยังสามารถทำความสะอาดหัวฝักบัวที่อุดตันได้ด้วย
ขั้นตอนการทำความสะอาด
- สำหรับการทำความสะอาดทั่วไป ผสมน้ำยาเข้ากับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1 ต่อ 10 หากเป็นคราบฝังแน่นให้ผสมเข้มข้นกว่านั้น
- ใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำยาที่เจือจางแล้วเช็ดลงบนคราบสกปรกทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ขนาด 250 กรัม ราคา 179 บาท
ข้อคิดเห็นหลังจากการใช้งาน
- การทำความสะอาด : การกำจัดคราบทำได้ดีเลยค่ะ คราบสกปรกที่เคยต้องใช้แรงเยอะ ๆ ขัด ตอนนี้แค่เพียงใช้ฟองน้ำลูปก็หลุดออกอย่างง่ายดาย
- กลิ่น : กลิ่นเคมีค่อยข้างชัด
ข้อควรระวัง : ขณะผสมและขณะทำความสะอาดต้องใส่ถุงมือและหน้ากากควบคู่ไปด้วย ห้ามใช้ทำความสะอาดหินอ่อน หินขัด และวัสดุต่าง ๆ ที่มีความไวต่อกรด
2.น้ำยาขจัดสิ่งอุดตันในท่อน้ำทิ้ง
จากปัญหาที่เคยก่อกวนจิตใจของคนใช้และทำความสะอาดห้องน้ำโดยเฉพาะสาว ๆ นั่นก็คือมักจะมีเศษผมที่รวมตัวกับกากสบู่เกาะเหนียวหนึบอยู่ที่บริเวณท่อน้ำทิ้ง ทำให้ไม่น่ามองแถมยังส่งกลิ่นเหม็นรบกวน บางบ้านกว่าจะรู้ตัวว่ามีสิ่งแปลกปลอมเกาะในท่อน้ำทิ้งก็ผ่านไปเนิ่นนานจนทำความสะอาดได้ยากเสียแล้ว และสิ่งเหล่านี้นี่แหละค่ะที่เป็นตัวการทำให้น้ำระบายออกไปได้ช้า
ขั้นตอนการทำความสะอาด
- ก่อนจะใช้งานผลิตภัณฑ์ต้องทำให้พื้นที่นั้นๆแห้งเสียก่อน
- เทน้ำยาขจัดสิ่งอุดตันในท่อลงไปประมาณครึ่งขวด ( 450 มิลลิลิตร) ลงไปในท่อ
- เทน้ำเปล่าตามลงไปอีก 450 มิลลิลิตร
- ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน ไม่ควรใช้ห้องน้ำในระหว่างนี้
- เมื่อครบเวลาที่กำหนด ให้เทน้ำเปล่าลงท่อเพื่อเป็นการชำระล้างน้ำยาออกให้หมด คราบที่เคยเกาะติดก็จะหลุดออกอย่างง่ายดาย หากยังมีคราบหลงเหลือให้ทำซ้ำขั้นตอนแรกใหม่อีกครั้ง
ขนาด 900 มิลลิลิตร ราคา 159 บาท
ข้อคิดเห็นหลังจากการใช้งาน
- การทำความสะอาด : กำจัดคราบเหนียว ๆ ที่เคยเกาะท่ออยู่นานแสนนานได้แบบที่เราไม่ต้องเหนื่อย แค่ใช้เวลาแลกมา ไม่ต้องใช้แปรงขัดซ้ำเลย
- กลิ่น : กลิ่นสารเคมีค่อนข้างแรง เพราะตัวน้ำยามีฤทธิ์กัดกร่อน
ข้อควรระวัง : ขณะใช้งานแนะนำให้สวมถุงมือยาง และรองเท้าพื้นยางเพื่อป้องกันอัตรายจากสารเคมี ระวังอย่าให้ถูกผิวหนังเพราะจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนและผิวไหม้ได้
3.น้ำยาทำความสะอาดหนัง สูตรน้ำ
ไหนใครเปนคนใช้ของสมบุกสมบันบ้างยกมือขึ้น ใช้อะไรก็เปื้อนก็เป็นคราบไปเสียหมด นอกจากระเป๋า และรองเท้าหนังคู่เก่ง ก็ยังขยันทำคราบให้เปื้อนโซฟาหนังเป็นว่าเล่น จะลงมือขจัดคราบเองก็กลัวว่าจะยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์หนังนั้นด่างมากขึ้นไปอีก หรือถ้าใช้น้ำยาสูตรแรงมาก ๆ ก็อาจจะทำร้ายหนังของเราได้ ทางออกที่ดีสำหรับคนสมบุดสมบันนั่นก็คือ เจ้าน้ำยาทำความสะอาดหนังสูตรน้ำอ่อนโยน ขวดนี้แหละค่ะ สูตรน้ำไม่ทำลายพื้นผิว เห็นว่าอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอนะคะเพราะสามารถขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างลึก สามารถใช้กับหนังได้เกือบทุกประเภท ! (ยกเว้นหนังกลับ)
ขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์
- เขย่าขวดก่อนเปิดใช้
- ใช้ผ้าสะอาดชุบผลิตภัณฑ์ แล้วเช็ดบนคราบเบา ๆ ให้ทั่วรอยเปื้อน
- ปล่อยทิ้งไว้ 10 – 30 วินาที แล้วใช้ผ้าสะอาดอีกผืนเช็ดออก
- ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
ขนาด 250 กรัม ราคา 399 บาท
ข้อคิดเห็นหลังจากการใช้งาน
- การทำความสะอาด : สูตรน้ำรู้สึกไม่ทำลายพื้นผิวของหนัง ไม่ว่าจะหนังสีไหนก็เอาอยู่ นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้วยังสามารถทำความสะอาดกระเป๋าหนังได้ด้วย ไม่ต้องออกแรงมากคราบก็หายเกลี้ยง
- กลิ่น : กลิ่นหอมสะอาด ลบภาพจำของน้ำยาทำความสะอาดหนังที่กลิ่นไม่ค่อยสู้ดีไปเกลี้ยงเลยค่ะ
ข้อควรระวัง : ผู้ที่มีโอกาสจะแพ้สารเคมีควรสวมถุงมือยางขณะใช้ผลิตภัณฑ์
4.สเปรย์ทำความสะอาดตู้เย็น
เคยเปิดตู้เย็นออกมาแล้วถึงกับผงะ ! กันไหมคะ ไม่ใช่เพราะมีของที่อยากกินอยู่เต็มตู้ไปหมดหรอกนะคะ แต่เป็นพวกคราบสกปรก คราบเหนียว ๆ จากอาหารจานโปรดซักจานที่หกเลอะเทอะ หรือจะเป็นกลิ่นของ (ที่เคย) สดกองทบถมอยู่ในช่องแช่ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ความสุขของการเปิดตู้เย็นกลับหลายเป็นความทุกข์ในทันที แต่จะเริ่มทำความตู้เย็นครั้งใหญ่ ก็คงหมดเวลาไปเป็นวัน ๆ ไหนจะคราบไหนจะกลิ่น แต่เมื่อมีสเปรย์ขวดนี้ก็เหมือนได้ไอเทมซื้อเวลาที่เคยใข้ไปอย่างมากมายกลับมาทำนู้นทำนี่ได้อีกเพียบ ขวดเดียวสามารถทำความสะอาดได้ทั้งภายนอกและภายในตู้เย็นเลยหละค่ะ
ขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์
- นำอาหารและสิ่งของต่างๆภายในตู้เย็นออกให้หมด
- ฉีดสเปรย์ลงในบริเวณที่ต้องการจะทำความสะอาด
- ใช้ผ้าสะอาดเช็ดจนแห้งสนิท
- ในกรณีที่มีคราบฝังแน่น ให้ฉีดสเปรย์ทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 นาที แล้วค่อยเช็ดทำความสะอาดโดยไม่ต้องล้างออกด้วยน้ำ
ขนาด 500 กรัม ราคา 250 บาท
ข้อคิดเห็นหลังจากการใช้งาน
- การทำความสะอาด : ทำความสะอาดง่ายไม่ต้องถอดชั้นออกมาล้างและต้องรอให้แห้งแบบเมื่อก่อน แถมยังได้กลิ่นหอมสดชื่นมาเป็นของแถมอีกด้วย จัดการกับคราบฝังแน่นได้ดีทีเดียวค่ะ
- กลิ่น : ตัวผลิตภัณฑ์ที่กลิ่นหอมอ่อน ๆ คล้ายกลิ่นของเลม่อน สดชื่นดีค่ะ รู้สึกสะอาดขึ้นอีกนิดเพราะมีกลิ่นนี่แหละ
ข้อควรระวัง : ไม่ควรฉีดสเปรย์ขณะที่ยังมีอาหารอยู่ และห้ามฉีดเข้าตรงบริเวณช่องปรับอากาศ