สมดุลของเส้นสายและธรรมชาติ

ธรรมชาติ เช้าตรู่ที่ซอยศรีปิงเมือง วันนี้เรามาเยี่ยมบ้านของสถาปนิกท่านหนึ่งซึ่งคร่ำหวอดอยู่ในวงการก่อสร้างของภาคเหนือ ครั้งนี้เขาได้ออกแบบบ้านที่อาศัยอยู่เองร่วมกับพ่อแม่และพี่สาว เจ้าของบ้านเปิดประตูบานใหญ่ออกมาต้อนรับเราที่หน้าบ้านอย่างเป็นกันเอง สถาปนิกท่านนี้คือ คุณโจ้ – ฐิติเวท กิตติรัตน์ 

ธรรมชาติ แม้ว่าสภาพโดยรอบจะเป็นอาคารบ้านจัดสรรแน่นขนัด แต่เมื่อเราก้าวผ่านประตูใหญ่ของบ้านเข้าไปกลับสัมผัสได้ถึงความร่มรื่นอย่างน่าประหลาด
“พี่ชอบธรรมชาติ พยายามนำ ธรรมชาติ มาช่วยพาเราออกจากความวุ่นวายของสภาพโดยรอบ”
ธรรมชาติ
เห็นจะจริงตามที่คุณโจ้กล่าวไปข้างต้น เพราะพื้นที่หน้าบ้านจัดเป็นสวนเล็กๆได้อย่างชาญฉลาด พร้อมทำเป็นลานนั่งเล่นที่ต้อนรับแขกได้อย่างอบอุ่น ที่ขาดไม่ได้เลยคือต้นไม้ใหญ่ที่คุณโจ้เลือกปลูกในพื้นที่ได้อย่างลงตัว ต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ช่วยให้ร่มเงาในตอนกลางวัน กิ่งก้านที่แผ่ปกคลุมของไม้ใหญ่ยังเข้ามาเติมเต็มความเป็นธรรมชาติให้บ้านได้เป็นอย่างดีด้วย ดูเป็นความจงใจที่ลงตัว เช่น มุมนั่งเล่นของระเบียงชั้นสองซึ่งมีกิ่งไม้ยื่นเข้ามาอย่างได้จังหวะจะโคน
ธรรมชาติ
ธรรมชาติ เราเดินซึมซับบรรยากาศรอบๆบ้าน น่าแปลกใจที่แม้คุณโจ้จะเลือกใช้โครงสร้างหลักเป็นเหล็ก H – Beam แต่บ้านกลับดูสบายๆและอบอุ่น
“ชอบเส้นสายที่สะอาดตาจึงเลือกใช้โครงสร้างเหล็ก H – Beam ต้องเล่าถึงที่มาก่อนว่า กว่าจะเป็นเส้นสายที่สะอาดตาได้ต้องผ่านการคิดมามากมาย ทั้งในแง่ของการใช้งาน การซ้อนทับกันของพื้นที่ต่างๆ และความสวยงาม เมื่อเข้าใจพื้นที่ดีแล้วจึงตัดทอนเอาเพียงสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น จะเห็นได้ว่าในหลายส่วนมีการสร้างกรอบของพื้นที่เอาไว้ ไม่ว่าในระนาบของพื้นและผนัง หรือแม้แต่เพดาน เป็นภาพสะท้อนของจังหวะภายในบ้าน เน้นย้ำถึงสิ่งที่ตั้งอยู่ตรงนั้น การปล่อยที่วางและการสร้างกรอบนี้เองที่ทำให้บ้านไม่น่าเบื่อ”
เมื่อเราถามถึงเคล็ดลับในการสร้างความอบอุ่นแลดูสบายๆของบ้านหลังนี้ คุณโจ้เผยว่า “ไม้จริงไงครับ เราเลือกใช้ไม้จริงเป็นองค์ประกอบควบคู่ไปกับโครงสร้างที่หนักแน่นอย่างเหล็กและปูน ความเป็นไม้ก็คือธรรมชาติ เราดึงธรรมชาติมาเคียงคู่กับความเป็นมนุษย์ เหล็กและปูนเป็นสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น ส่วนไม้จริงก็คือความเป็นธรรมชาติ เมื่อ ธรรมชาติ และ มนุษย์มีความสมดุลกันแล้ว บ้านก็จะมีทั้งเส้นสายที่เฉียบคม สะอาดตา และยังอบอุ่นในคราวเดียวกันด้วย”
ธรรมชาติ
แสงแดดส่องผ่านระแนงข้างบ้านลงมาเป็นเส้นสายสวยงาม เรานั่งคุยกันที่ระเบียงชั้นสองของบ้าน อากาศกำลังดี ลมเย็นพัดผ่านจากหน้าบ้าน สวนทางกับภายนอกบ้านที่เริ่มร้อนระอุด้วยแดดยามบ่าย อีกหนึ่งลูกเล่นที่คุณโจ้ทำก็คือเปลือกของบ้านหลังนี้ซึ่งเป็นเสมือนโครงหลังคาอีกชั้นหนึ่งครอบบ้านไว้ เพื่อป้องกันความร้อนและสภาพอากาศอันไม่พึงประสงค์ไม่ให้กร้ำกรายเข้ามาภายในบ้าน และผลลัพธ์ก็เกิดเป็นภาวะน่าสบายภายในบ้านจริงๆ ใครว่าบ้านสมัยใหม่ซึ่งใช้วัสดุเชิงอุตสาหกรรมจะแลดูแข็ง บ้านคุณโจ้เป็นตัวอย่างที่ดีว่า หากเราใส่ใจในการออกแบบและเลือกใช้วัสดุ รู้จักสร้างสมดุลภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านแบบไหน สไตล์ใด ความอบอุ่นสามารถสร้างขึ้นได้เสมอ

เรื่อง: ศุภชาติ บุญแต่ง
ภาพ: ฤทธิรงค์ จันทองสุข