นท พนายางกูร หรือ “นท เดอะสตาร์” สาวน้อยเสียงใสที่หลายคนรู้จักเธอจากเวทีประกวด “เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว” เมื่อหลายปีก่อน มาวันนี้เธอมีอีกหนึ่งบทบาทที่สะท้อนความสามารถผ่านงานศิลปะในฐานะศิลปิน ซึ่งคนในแวดวงศิลปะต่างรู้จักเธอในนามว่า โน-เท็ป กับการจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวครั้งที่2 Energy Diary 02 ขึ้นที่ Warehouse 30 ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ต้องการบอกเล่าว่าศิลปะมีส่วนช่วยบําบัดและยกระดับจิตวิญญาณภายในของมนุษย์ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งงานดี ๆ ที่ไม่ว่าคุณจะชื่นชมในตัวนท หรือว่าชื่นชมในงานศิลปะ ควรค่าแก่การสละเวลามาชมด้วยตัวเองให้ได้สักวันหนึ่ง
ในพาร์ตดนตรีเราคงไม่ต้องพูดถึงมากนัก เพราะคุณนททำได้ดีและมีเอกลักษณ์เป็นที่จดจำของเหล่าเเฟนเพลงอยู่แล้ว หากแต่ในด้านของงานศิลปะ เราเคยเห็นเธอในภาพของผู้หญิงที่มีความสดใสร่าเริงมาโดยตลอด จึงแทบไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าเธอจะสงบนิ่ง เยือกเย็น มุ่งเน้นสมาธิ และดำเนินการนำเสนอความสนใจของเธอเกี่ยวกับศาสตร์ด้านพลังงานกับจิตวิญญาณได้อย่างยอดเยี่ยม จนจบการเวิร์กชอป Energy Collecting ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงานเปิดนิทรรศการ Energy Diary 02 ครั้งนี้
กิจกรรมเวิร์กชอป Energy Collecting เริ่มต้นด้วยการที่คุณนทนั่งลงหลับตา ตั้งสมาธิกำหนดลมหายใจ แล้วใช้ลมหายใจของเธอวาดภาพศิลปะผ่านเครื่องเป่าชิ้นใหญ่ เส้นสายและสีสันจากปลายพู่กันยักษ์เกิดขึ้นโดยใช้ลมหายใจมีส่วนร่วมทั้งหมด หากคุณหายใจแรง เจ้าเครื่องนี้ก็จะหมุนเร็วตามลมหายใจของคุณ แต่หากคุณค่อย ๆ หายใจเข้าลึก ๆ เเละหายใจออกเบา ๆ เครื่องเป่าก็จะค่อย ๆ หมุนไปช้า ๆ ตามจังหวะลมหายใจที่เกิดจากการกำหนดอย่างมีสมาธิ ซึ่งสะท้อนได้ถึงการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบัน อย่างที่เธอได้กล่าวสั้น ๆ หลังการแสดงจบลงว่า “แค่เราหายใจให้ถูกวิธี และมีสติกับทุกลมหายใจ เราก็สามารถที่จะมีชีวิตที่มีคุณภาพได้”
จากนั้นเมื่อคุณนทลืมตาขึ้น กระบวนการต่อมาคือการชักชวนผู้เข้าชมนิทรรศการให้นั่งหลับตาลงบนผืนผ้าขาว พร้อมกำหนดลมหายใจเข้า-ออกผ่านการนั่งสมาธิ โดยมีเธอและคุณแม่เป็นผู้ถ่ายทอดพลังของเสียงดนตรี สะกดให้ทุกคนจดจ่อ และรับมือกับสิ่งรบกวนที่เกิดขึ้นรอบตัว ซึ่งเปรียบเสมือนกับการสะท้อนถึงสภาวะของคนที่กําลังเผชิญ หรือถูกกดดันจากความคาดหวังของสังคม
ระหว่างนั้นเราเฝ้าสังเกตว่า ในขณะที่เสียงดนตรีแต่ละชิ้นดังขึ้นในขณะที่ทุกคนนั่งสมาธิอยู่นั้น ผู้ชมบางคนกลับสงบนิ่งและไม่สั่นไหวต่อสิ่งเร้าที่คุณนทและคุณแม่พยายามสร้างมันขึ้น ทั้งการตีฆ้องร้องเป่า หรือนำวัตถุที่สร้างความรู้สึกน่ารำคาญไปจ่อใกล้ ๆ แต่รู้ไหม ลึก ๆ แล้วพวกเขารู้สึกอย่างไร
“ความรู้สึกในตอนแรกที่เดินเข้ามาในงาน ทุกคนจะพบกับภาพศิลปะที่ติดอยู่บนผนังเหมือนการจัดนิทรรศการศิลปะทั่วไป แต่พอได้ดูการแสดงของนทแล้วรู้สึกว่ามันไม่เหมือนใคร” ผู้ชมที่ร่วมเวิร์กชอปท่านหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์ออกนามบอกความรู้สึกประทับใจนั้นกับเรา
“เป็นการแสดงดนตรีที่ผสมผสานกับงานศิลปะได้อย่างลงตัว โดยการใช้ลมหายใจสร้างสรรค์งานศิลปะ การได้นั่งสมาธิในความคิดเห็นส่วนตัว ในช่วงแรก ๆ รู้สึกหงุดหงิด กดดัน อยากให้เสียงเหล่านี้หายไปไว ๆ แต่พอช่วงจังหวะกลาง ๆ กลับเป็นจังหวะที่สนุก ทำให้รู้สึกเคลิ้มไปกับเสียงเพลง รู้สึกผ่อนคลาย สบาย ๆ ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนช่วงแรก ๆ เหมือนนทจะสื่อความรู้สึกของคนเราที่มีความกดดันมาจากข้างใน แต่ยังมีบางสิ่งที่สามารถมาช่วยเยียวยาจิตใจเราได้ ทำให้รู้สึกว่างานนี้คนเข้าถึงได้ รู้สึกกับมันจริง ๆ เเละเข้าใจว่านทอยากจะสื่ออะไร”
ในขณะที่อีกคนหนึ่งอธิบายว่า “เสียงที่เกิดขึ้นมาในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งจากเครื่องดนตรีหลายแบบ เสียงช่วงแรกเป็นเสียงที่สงบ เมื่อหลับตาฟังจะรู้สึกถึงความสงบ ผ่อนคลาย รู้สึกถึงสายน้ำที่ไหลเย็น ต่อมาดนตรีก็เริ่มเปลี่ยนจังหวะไปเป็นจังหวะที่เร็วขึ้น คล้าย ๆ เป็นการกระตุ้นเพื่อให้เกิดการปลดปล่อย ผสมผสานกับดนตรีที่สงบนิ่งได้อย่างลงตัว เมื่อจบการแสดงจะรู้สึกได้ถึงการผ่อนคลายในจิตใจ” สองคำตอบที่ได้เเม้จะฟังดูคล้ายคลึงกัน เเต่ทว่ามีความแตกต่างด้านปัจเจกที่ผู้ชมต่างคนต่างรับรู้ และตีความออกมาไม่เหมือนกัน นั่นเองที่สะท้อนว่าศิลปะไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูกจริงไหม
Energy Diary 02 นิทรรศการศิลปะที่ก่อให้เกิดคุณค่าทางจิตวิญญาณนี้จะจัดแสดงที่โกดังหมายเลข 1 โครงการ Warehouse 30 ไปจนถึงวันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2562 ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.
โดยในนิทรรศการครั้งนี้คุณจะได้พบผลงานศิลปะที่เกิดจากการกำหนดลมหายใจของคุณนทในแต่ละช่วงเวลากว่า 30 ชิ้น พร้อมทั้งมีเวิร์ชอป Energy Collecting สร้างงานศิลปะร่วมกับคุณนทโดยใช้ลมหายใจและสมาธิ ซึ่งหากถามว่านิทรรศการนี้บอกอะไรเกี่ยวกับตัวเธอได้ดีที่สุด คำตอบคงเป็นความหลงใหลในการสร้างสรรค์สิ่งที่รักออกมาด้วยความตั้งใจและเปี่ยมด้วยพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
Energy Diary-02 โดย นท พนายางกูร
- Energy Diary-02 มีจุดเริ่มต้นมาจากเมื่อปี พ.ศ. 2548 ที่คุณนทพยายามค้นคว้าหาวิธีปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์เป็นผลงานต่าง ๆ จุดประกายให้เธอรักในการสร้างสรรค์งานศิลปะของตนเองเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ความทุ่มเท และตั้งใจในการทํางานตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา นําพาให้เธอค้นพบสิ่งที่รักและหลงใหลอย่างแท้จริง ซึ่งนั่นคือการใช้ศิลปะมาช่วยบําบัด และยกระดับจิตวิญญาณ อันเป็นที่มาของการจัดนิทรรศการครั้งนี้ โดยมุ่งหวังที่จะช่วยให้ผู้ชมได้ลบล้างสิ่งที่ปิดกั้นในใจ เพื่อใช้ศิลปะเป็นใบเปิดทางไปสู่การเยียวยาจิตใจ งานแสดงศิลปะเดี่ยวครั้งที่ 2 ของเธอจึงเปรียบเสมือนการได้ถ่ายทอดความสนใจเกี่ยวกับศาสตร์ด้านพลังงานกับจิตวิญญาณ โดยเน้นที่เรื่องลมหายใจและสมาธิเป็นใจความสำคัญ
- ชุดงาน Energy Diary ของคุณนท ออกแบบมาเพื่อที่จะให้ทุกคนได้ค้นพบแหล่งพลังงานบริสุทธิ์ในตัวเอง และปลดปล่อยมันออกมาอย่างไร้ข้อจํากัด ผ่านรูปแบบของภาพและเสียงสําหรับคนที่กําลังเผชิญ หรือถูกกดดันจากความคาดหวังของสังคม โดยเธออยากให้ผู้เข้าชมนิทรรศการได้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย พร้อมกันนั้นยังได้ปลดปล่อยความคิดเพื่อพบกับความสงบจากภายในตัวเอง เปรียบเหมือนการเปิดประตูเพื่อไปค้นพบความจริงของชีวิต อันนําไปสู่หนทางในการใช้ ชีวิตอย่างสมดุล โดยเฉพาะในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและการสื่อสาร
เรื่อง: ND24 (เขียน/เรียบเรียง)
ภาพ: สุณิสา ปะปาทานัง