ซ่อมสีเฟอร์นิเจอร์เหล็ก ให้กลับมาสวยใหม่ด้วยสีสเปรย์
เฟอร์นิเจอร์เหล็กในบ้านไม่ว่าจะเป็นชั้นวางรองเท้า ชั้นวางของ โต๊ะ เก้าอี้ หรือโครงเตียงนอน ส่วนใหญ่จะทำสีมาจากโรงงานด้วยการอบเคลือบเพื่อให้สีติดทนนาน แต่การใช้งานในบริเวณที่ต้องสัมผัสแดดลมฝน หรือพื้นที่นอกบ้าน ก็เป็นสาเหตุทำให้สีซีดจาง เกิดรอยถลอก สีลอกล่อน และเกิดสนิมกัดกินตามมา ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของเฟอร์นิเจอร์เหล็กที่พบเห็นได้เสมอ
งานซ่อมเฟอร์นิเจอร์เหล็กด้วยตนเองนั้นมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงแต่ต้องรู้ขั้นตอนการพ่นสีที่ถูกต้องและรู้จักเลือกผลิตภัณฑ์สีสเปรย์ที่สามารถช่วยให้มือสมัครเล่นสามารถพ่นสีได้อย่างสวยงามเหมือนมืออาชีพ ซึ่งมีข้อควรรู้ดังนี้
การเลือกผลิตภัณฑ์สีสเปรย์
สำหรับการเคลือบสีเหล็ก โดยทั่วไปมี 3 รูปแบบ คือ การทาด้วยแปรง การพ่นด้วยกาพ่นสี และการพ่นด้วยสีสเปรย์สำเร็จรูป ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบนี้แตกต่างกันตามรูปแบบของงาน อย่างการทาด้วยแปรงจะเหมาะกับงานที่มีพื้นที่ไม่มาก ทำได้ง่ายด้วยตัวเอง ไม่ต้องใช้ความประณีตละเอียดหรือโชว์ความสวยงามมากมาย อย่างเช่นโครงสร้างบ้าน รั้วบ้าน เป็นต้น ส่วนการพ่นด้วยการพ่นสี มักทำมาจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ที่พ่นครั้งละมาก ๆ ต้องการความรวดเร็ว สำหรับสีสเปรย์สำเร็จรูปเหมาะกับงานที่มีขนาดเล็กไปถึงกลาง รวมถึงชิ้นงานขนาดใหญ่ เป็นการเก็บงานหรือการซ่อมงาน ที่ทั้งช่างและเจ้าของบ้านสามารถทำได้เอง เพราะใช้งานได้สะดวก เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ เป็นต้น
การเลือกสีสเปรย์สำเร็จรูปควรพิจารณาคุณสมบัติของสีให้ตรงกับการใช้งานเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นเกรดธรรมดา หรือเกรดพรีเมี่ยมที่มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้นก็มีส่วนช่วยให้งานพ่นสีเป็นเรื่องง่าย อย่างสีสเปรย์ Pylac Pro ผลิตภัณฑ์สีสเปรย์รุ่นใหม่เกรดพรีเมี่ยมจาก นิปปอนเพนต์ ที่สามารถพ่นทับพื้นผิววัสดุได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก ซีเมนต์ พลาสติก ด้วยฟิล์มสีสูตรพิเศษที่ออกแบบมาให้พ่นง่าย สีไม่เยิ้ม มีเนื้อสีมาก และหัวพ่นที่ช่วยให้งานพ่นสีเป็นเรื่องง่ายขึ้น กลบงานได้ไว สวยเนี๊ยบ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้การซ่อมสีเฟอร์นิเจอร์เป็นเรื่องง่าย ที่ทุกคนสามารถทำได้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นช่างซ่อมเฟอร์นิเจอร์เสมอไป
ขั้นตอนการซ่อมสีเฟอร์นิเจอร์เหล็ก
1. เลือกพื้นที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้ดีแต่ไม่มีลมแรง เพื่อป้องกันไม่ให้สีสเปรย์ปลิวกระจายในขณะพ่นงาน และควรหลีกเลี่ยงวันที่อากาศชื้น เนื่องจากความชื้นจะทำให้ฟิล์มสีเกิดฝ้า และควรสวมถุงมือและหน้ากากป้องกันสารเคมีขณะพ่นด้วย
2. กำจัดสนิมที่ติดอยู่กับชิ้นงานด้วยการใช้กระดาษทรายหรือแปรงขนทองเหลืองขัดสนิมออกให้หมด จากนั้นใช้ทินเนอร์เช็ดทำความสะอาด และรอให้แห้งสนิท
3. เริ่มขั้นตอนการพ่นสีด้วยสีรองพื้นกันสนิมเทา P-32 Surfacer Grey Primer จะช่วยป้องกันสนิมไม่ให้กลับมาทำลายชิ้นงานอีก โดยเขย่ากระป๋องให้เนื้อสีเข้ากันประมาณ 1-2 นาที แล้วจึงทำการพ่น และรอให้สีแห้งประมาณ 10 นาที
4. จากนั้นเลือกสีทับหน้าเฉดใดก็ได้ของ Pylac Pro โดยเขย่ากระป๋องให้เนื้อสีเข้ากันประมาณ 1-2 นาที และขณะพ่นควรตั้งกระป๋องให้ตรงหรือเอียงไม่เกิน 45 องศา ให้กระป๋องสีกับชิ้นงานห่างกันประมาณ 20-30 เซนติเมตร พ่นแบบโปรยในตำแหน่งที่ต้องการซ่อม ระวังเรื่องการกดแช่หัวพ่นนานจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาสีเยิ้ม เมื่อพ่นเสร็จให้รอสีแห้ง หากฟิล์มสีกลบพื้นผิวเดิมได้แล้วไม่จำเป็นต้องพ่นซ้ำ แต่หากต้องการความแข็งแรงของฟิล์มสี สามารถพ่นซ้ำอีกรอบได้
5.หลังจากพ่นสีเป็นที่เรียบร้อยควรพ่นเคลือบด้วยสีเคลือบเงาใส P-01 Clear อีกรอบเพื่อให้สีติดทนนาน และควรทิ้งชิ้นงานให้แห้งอย่างน้อย 3 ชั่วโมงในอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส ก่อนใช้งานจริง
Tips
ในกรณีที่เลือกสีสเปรย์ให้ตรงกับสีเดิมของเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้ หรือต้องการพ่นซ่อมบางจุดด้วยสีเดิมของเฟอร์นิเจอร์ แนะนำให้พ่นใหม่ทั้งชิ้นงาน เพื่อสีเรียบเนียนสวยเท่ากันทั้งชิ้นงาน และต่ออายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ด้วย
กรณีที่สีเฟอร์นิเจอร์เป็นสีเข้มและต้องการเปลี่ยนเป็นสีอ่อน เช่น เหลือง เทาอ่อน แนะนำให้พ่นด้วยสีรองพื้นขาวเบอร์ P-33 Flat White Primer ก่อน แล้วพ่นทับด้วยสีทับหน้าเฉดอ่อน จะช่วยให้สีทับหน้ากลบตัวได้ดีขึ้น และช่วยร่นระยะเวลาในการพ่นสีให้เร็วขึ้นได้ด้วย
ระบบสีสเปรย์ไพแลค โปร
สำหรับพื้นผิวเหล็ก
สีรองพื้นกันสนิมเทาเบอร์ P-32 Surfacer Grey Primer
สีทับหน้าของ Pylac Pro เฉดใดก็ได้
สำหรับพื้นผิวอื่น ๆ สามารถพ่นสีทับหน้าได้เลยโดยไม่ต้องใช้สีรองพื้น