เซอร์ไพร้ส์ตั้งเเต่เปิดประตูบ้านกับการ รีโนเวตทาวน์เฮ้าส์ ให้ใช้งานได้อย่างโปร่งโล่ง ทำลายความเป็นกล่อง สร้างห้องน้ำบรรยากาศรีสอร์ต ระเบียงสุดชิล เเละห้องนอนครบฟังก์ชัน ใช้ได้ทั้งให้เช่าเเละอยู่เอง
ราว 5 ปีก่อน หลังจากเกษียณงานที่ทำอยู่ในต่างประเทศคุณดอน เบเกอร์ และภรรยา คุณรุจิรา เตปา ตัดสินใจย้ายกลับมาสร้างบ้านอยู่ที่เชียงใหม่ แถววัดพระธาตุดอยคำ เพื่อใช้ชีวิตผ่อนคลายไปกับธรรมชาติอันร่มรื่นรอบตัว พร้อมการหาบ้านในเมืองสักหลังเพื่อให้ลูก ๆ เดินทางมาเยี่ยมเยือนได้สะดวก เเละสามารถเปิดให้เช่าเป็นรายได้พิเศษในอนาคต กระทั่งเจอกับทาวน์เฮ้าส์เก่าหลังนี้ ก่อนจะเป็นหน้าที่ของคุณดอนในการเป็นผู้จัดการ รีโนเวตทาวน์เฮ้าส์ หลังเก่าอายุกว่ายี่สิบปี ให้กลายเป็นบ้านในเมืองสุดเท่
ทลายความเป็น Boxy ของทาวน์เฮ้าส์ที่เเสนน่าเบื่อ
เพราะคุณดอนมีความสนใจและศึกษาเรื่องการแต่งบ้านมาอยู่แล้วจึงมีแนวคิดดี ๆ เก็บไว้มากมาย แต่เพื่อให้ถูกหลักในเรื่องโครงสร้างและการออกแบบ คุณดอนจึงนำแนวคิดทั้งหมดไปปรึกษา คุณแป๊ก-ศตวัชร ขัตลิวงศ์ สถาปนิกแห่ง Blank Studio
“แนวคิดหลักเลยคือคุณดอนอยากทำลายความเป็น Boxy ของทาวน์เฮ้าส์ออก และต้องการใช้พื้นที่ทุกมุมให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นแทนที่จะกั้นห้องเป็นฉากตรง ผมก็เลยใช้เส้นเฉียงมาสร้างดีไซน์ของผนังส่วนต่าง ๆ ในบ้านเพื่อไม่ให้สเปซดูเป็นกล่องที่น่าเบื่อ” คุณแป๊กเล่าให้ฟัง พลางยกตัวอย่างตั้งแต่จุดแรกคือ ผนังเฉียงตรงห้องเก็บของชั้นล่างหน้าบ้าน ที่แบ่งพื้นที่กับส่วนจอดรถด้วยระแนงอะลูมิเนียมเฉียง ตามมาด้วยผนังทางเข้าพื้นที่ชั้นล่าง ซึ่งต่อกับระเบียงชั้น 2 และผนังห้องน้ำชั้น 3
เปลี่ยนแปลงแปลนเดิมใหม่จนเกิดสเปซที่ชวนเซอร์ไพร้ส์
ด้วยแนวคิดที่ต้องการแยกพื้นที่ใช้งานออกเป็นสองยูนิตคล้ายกับบ้านเล็ก ๆ สองหลังในอาคารเดียวกัน ทำให้ต้องมีทางเข้าบ้านสองด้านคือทางเข้าพื้นที่ชั้นล่าง และบันไดทางเข้าสำหรับพื้นที่ชั้น 2-3 โดยชั้นล่างมีฟังก์ชันครบถ้วนในตัวคล้าย ๆ ห้องชุดในคอนโดมิเนียม พร้อมดีไซน์พิเศษที่ห้องน้ำด้านในสุด ซึ่งคนส่วนใหญ่มักต่อเติมพื้นที่ด้านหลังนี้ให้เป็นครัว แต่ที่นี่ตกแต่งเป็นห้องน้ำไว้อย่างหรูหรา เพราะมีทั้งส่วนชาวเวอร์ อ่างอาบน้ำ และห้องสตรีม ล้อมรอบด้วยผนังกระจกโปร่งไปถึงส่วนเพดาน เเละมีกำแพงรั้วด้านนอกคอยกั้นความเป็นส่วนตัวไว้อยู่แล้ว
วิธีแก้ไขความทึบตันของทาวน์เฮ้าส์“ปัญหาหลักของทาวน์เฮ้าส์คือ ขาดช่องแสง เพราะไม่มีหน้าต่าง ผมเลยพยายามเปิดช่องแสงให้ทุกชั้น เพราะแสงและลมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้บ้านอยู่สบาย” อย่างชั้นล่างนอกจากแสงที่เข้าทางด้านหน้าแล้วก็ยังแชร์ช่องแสงด้านหลังบ้านจากชั้นสองผ่านผนังกระจกลงมาในห้องน้ำ เป็นดีไซน์พิเศษ ๆ ที่ผมพยายามใส่ไว้ในทุกชั้นให้แตกต่างกันไป”
ชั้น 2-3 เป็นเหมือนบ้านอีกหลังที่เริ่มต้นด้วยโซฟานั่งเล่น ซึ่งสามารถเลื่อนประตูกระจกเชื่อมต่อออกไปถึงระเบียงกว้างได้ ด้านในเป็นครัวบิลท์อินติดผนัง และโต๊ะรับประทานอาหารดีไซน์พิเศษ ซึ่งทำจากไม้มะค่าแผ่นหนายึดด้วยฐานคอนกรีตเฉพาะด้านหลังที่เป็นส่วนของเตากับอ่างล้างจาน แต่ส่วนหน้าของโต๊ะปล่อยให้ดูเหมือนลอยจากพื้นโดยมีเส้นอะลูมิเนียมยึดติดผนังไว้ให้ดูเเข็งเเรง เพราะคุณดอนไม่ต้องการให้มีขาโต๊ะมาเกะกะการใช้งาน
ชั้นบนสุดของบ้านคือส่วนของ 2 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว ดีไซน์พิเศษอยู่ที่ผนังกระจกปรับแสงในห้องน้ำที่สามารถเลือกเปิดให้โปร่งตาหรือปรับฟังก์ชันให้เป็นกระจกฝ้าเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ พร้อมกับส่วนชาวเวอร์กึ่งกลางแจ้งที่มีระแนงอะลูมิเนียมกั้นพรางสายตาภายนอกไว้ ขณะที่อีกห้องมีฝ้าเพดานสูงพิเศษจึงเพิ่มฟังก์ชันให้มีชั้นลอยเป็นที่นอนเล่นอีกส่วนหนึ่ง โดยทำบันไดทางขึ้นที่สามารถเก็บซ่อนไปกับตู้เก็บของติดผนังได้เวลาไม่ใช้งาน เป็นไอเดียที่คุณดอนได้มาจากงานดีไซน์ของญี่ปุ่น
กว่าจะได้งานออกแบบที่ซ่อนฟังก์ชันอย่างละเอียดลออมากมายขนาดนี้ ก็ต้องอาศัยการพูดคุยและพัฒนาแนวคิดระหว่างเจ้าของบ้านกับสถาปนิกไปด้วยกัน เหมือนอย่างที่คุณแป๊กบอกไว้ว่า
“ผมว่านิยามของงานนี้คือโจทย์ที่ละเอียดและแตกต่างจากทาวน์เฮ้าส์ทั่วไป ซึ่งสิ่งที่ผมรักในงานนี้ก็คือการได้ทำงานร่วมกับเจ้าของอย่างเต็มที่ เวลามีปัญหาจึงสามารถปรับเปลี่ยนได้ทันที ทำให้งานออกมาดีและเจ้าของก็ได้ตามที่ต้องการมากที่สุดด้วย”
เรื่อง: ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ: สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
สไตล์: วรวัฒน์ ตุลยทิพย์