ปลูกไม้กระถาง อย่างไรให้งาม ต้นไม่เฉา ใบไม่เหี่ยว - บ้านและสวน
ปลูกไม้กระถาง

ปลูกไม้กระถาง อย่างไรให้งาม ต้นไม่เฉา ใบไม่เหี่ยว

สำหรับผู้ที่มีพื้นที่สวนไม่มาก หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง การปลูกไม้กระถางถือเป็นตัวเลือกที่ดีตัวเลือกหนึ่งในการสร้างพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน แต่บางคนอาจประสบปัญหา ไม่รู้จะเลือกซื้อไม้กระถางอย่างไรจึงจะได้ต้นที่แข็งแรง หรือเมื่อซื้อมาแล้วปลูกเพียงไม่นานต้นไม้ก็เริ่มโทรม เหี่ยวเฉา

คุณศิริวิทย์ ริ้วบำรุง แห่ง Little tree garden มีวิธีการเลือกซื้อและการปลูกไม้กระถาง อย่างเหมาะสมไปจนถึงการเลี้ยงดูให้งอกงามมาแนะนำ

เลือกซื้อไม้กระถาง ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?

เมื่ออยากซื้อต้นไม้มาปลูกในสวน สิ่งที่ควรคำนึงก่อนอื่นควรพิจารณาจาก

  • รูปทรงที่มองเห็นภายนอก ได้แก่ ลักษณะของใบและต้นว่าสมบูรณ์แข็งแรงดีหรือไม่ รวมถึงไม่มีโรคและร่องรอยของแมลง
  • จับดูการยึดเกาะของรากกับวัสดุปลูกให้ดูแข็งแรง ไม่โยกคลอนง่ายหรือเอนเอียง
  • เลือกลักษณะต้นตามวัตถุประสงค์การปลูก หากอยากได้พรรณไม้ที่มีทรงพุ่มกลมก็ต้องเลือกฟอร์มที่กลมมนไม่บิดเบี้ยว หากต้องการต้นเดี่ยว ๆ ก็ควรดูในกระถางว่ามีโคนที่ขึ้นมาเพียงต้นเดียวหรือหลายต้นรวมกัน ซึ่งเลือกได้ทั้ง 2 แบบ ขึ้นกับว่าเราจะเลือกไปปลูกในลักษณะไหน หากเป็นไม้ดอก ควรเลือกที่ดอกกำลังตูม จะได้ชมดอกไม้ได้นานกว่าการเลือกที่ดอกบานเต็มต้นแล้ว
  • ดูสภาพของกระถางด้วยว่าสะอาดหรือไม่ ขนาดของกระถางเหมาะกับต้นหรือเปล่า
  • ไม้กระถางไม่ควรมีรากงอกยาวทะลุออกจากรูระบายน้ำ เพราะนั่นแสดงว่าปลูกไว้นานเกินควร

การดูแลไม้กระถางอย่างเหมาะสม

หลังจากเลือกซื้อไม้กระถางแล้ว ควรดูแลต้นไม้อย่างเหมาะสมเพื่อให้ลำต้นแข็งแรง ตามปกติร้านจำหน่ายต้นไม้จะแนะนำวิธีการดูแลต้นไม้ในเบื้อต้น ซึ่งการดูแลจะแตกต่างกันไปตามชนิดของพันธุ์ไม้ ทั้งปริมาณแสงแดดที่ต้องการ ปริมาณน้ำที่เหมาะสม หรือการใส่ปุ๋ย หากปฏิบัติได้ตามคำแนะนำ ต้นไม้ก็จะเติบโตได้อย่างสมบูรณ์

แต่เมื่อปลูกไปได้ระยะหนึ่ง เมื่อต้นโตจนรากเริ่มแน่นก็ถึงคราวย้ายกระถาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.เลือกขนาดกระถางปลูกให้เหมาะสม

ไม่ควรเลือกกระถางใหญ่เกินไป มีวัสดุปลูกมากไป เพราะจะเสี่ยงเรื่องเชื้อราที่สะสมจากความชื้นในดิน แต่หากกระถางเล็กไป ไม่เหมาะกับทรงต้น อาหารก็อาจไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงควรเลือกกระถางที่มีขนาดพอเหมาะกับต้นไม้ที่เราเลือกปลูก

2.เตรียมวัสดุปลูกให้พร้อมสำหรับการย้ายกระถาง

หากกระถางที่เลือกใช้เป็นกระถางทรงลึก และวาในตำแหน่งที่ไม่ได้เคลื่อนย้ายบ่อย อาจใช้วิธีทุบอิฐมอญหรือใส่หินภูเขาไฟรองก้นก่อน จากนั้นตามด้วยจีโอเท็กซ์ไทล์ (ผ้าใยสังเคราะห์) และใส่หินขนาดใหญ่เล็กเรียงลำดับก่อนถึงชั้นดิน หรือวัสดุปลูกก็ได้ เพื่อให้ระบบน้ำไหลเวียนดีและไม่เกิดคราบดินเลอะพื้น

แต่หากต้องการให้กระถางมีน้ำหนักเบาเหมาะสำหรับการเคลื่อนย้าย อาจวางกระถางพลาสติกคว่ำ หรือเศษโฟมเหลือใช้ไว้ที่ก้นกระถาง ก่อนเติมวัสดุปลูกตามลำดับชั้นก็ได้เช่นกัน

3.แก้ปัญหาอย่างถูกวิธี

การปลูกไม้กระถาง ควรหมั่นสังเกตและดูแลต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ โดยปัญหาที่พบเจอได้บ่อยครั้งได้แก่

  • เกิดน้ำขังในกระถางขนาดใหญ่ เนื่องจากดินหรือรากพืชชอนไชไปอุดตัน แนะนำให้แก้ไขด้วยการเจาะรูระบายน้ำบริเวณด้านข้างกระถางค่อนไปทางก้นกระถาง
  • รากไม้ยาวทะลุก้นกระถาง หากเป็นรากฝอย แนะนำให้ตัดปลายรากออก ซึ่งช่วงแรกต้นไม้อาจเกิดอาการเฉาลงบ้าง ก็ควรบำรุงรดน้ำใส่ปุ๋ยในช่วงนี้มากสักหน่อย และวางไว้ในบริเวณที่แสงแดดไม่จัดมาก
    เพื่อพักฟื้นให้แข็งแรงก่อน เมื่อต้นสมบูรณ์พร้อมค่อยนำกลับออกไปตั้งในบริเวณที่ต้องการ

4.เทคนิคการจัดวางให้มีสไตล์

การจัดวางไม้กระถางควรมีความหลากหลายอาจแตกต่างด้วยชนิดพืช ขนาด หรือความสูง โดยจัดวางให้เกิดมิติทางสายตา มีความสูงต่ำไม่เท่ากัน เช่น ปลูกเลมอนกระถางใหญ่กับโรสแมรี่กระถางเล็กสามสี่กระถางวางไว้ร่วมกัน เป็นต้น แต่ทั้งหมดต้องดูองค์ประกอบโดยรวมให้เหมาะสมด้วย

ปลูกไม้กระถาง ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่รู้เทคนิคการปลูกและดูแลอย่างถูกวิธีก็ทำให้ไม้กระถางเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ แข็งแรง

 

ข้อมูลจาก 100 ความรู้คู่สวน

เรื่อง ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง

ภาพจากหนังสือ Everyday with Plants ทุกวันมีต้นไม้