บรรยากาศยามเช้าที่ สวนดอกไม้ แห่งนี้ที่เชียงใหม่ยังคงสวยงามเสมอ โดยเฉพาะเมื่อน้ำค้างที่เกาะบนดอกไม้สีสวยสดดอกเล็กดอกน้อยกระทบกับแสงแดดอ่อนๆ เกิดประกายระยับบนสนามหญ้าของบ้านอันแสนอบอุ่นหลังนี้ ในแวดวงนักอ่านนักเขียนหลายคนคงรู้จักพี่จี๋-บุษกร พิชยาทิตย์เป็นอย่างดี เธอเคยเปิดร้านหนังสือเล็กๆ ที่ถนนพระอาทิตย์ ร้านแห่งนี้เป็นต้นตำรับร้านหนังสือขนาดเล็กที่เกิดตามมาภายหลังอีกหลายร้าน
DESIGNER DIRECTORY : เจ้าของ – จัดสวน : คุณบุษกร พิชยาทิตย์
“อยู่เชียงใหม่มาสักพักแล้วค่ะ ตอนตัดสินใจว่าจะมาอยู่ที่นี่ก็ไม่คิด เหมือนกันว่าจะอยู่ได้นาน เริ่มจากครอบครัวมาอยู่ก่อน พี่จะขึ้นมาเยี่ยมทุกเดือน แล้วก็เอาดอกไม้สวยๆ จากที่บ้านนี้ไปจัดที่ร้านหนังสือซึ่งเป็นร้านเล็กๆ ตอนทำร้านรู้สึกว่า เราทำสิ่งที่มีความสุขไม่ได้คาดหวังอะไรมากทำเพราะชอบและอยากทำ สามสี่ปีแรกสนุกมาก หลังๆ มาเริ่มเหนื่อย วันหนึ่งคิดว่าชีวิตคงจะหยุดได้แล้วกับสิ่งที่มันเคลื่อนไหวเยอะๆ และก็คิดไม่ผิดเลย รู้สึกดีมากกับชีวิต ตอนนี้ให้กลับไปเหมือนเมื่อก่อนก็คงไม่ได้แล้ว
“โชคดีที่มาอยู่แล้วค้นพบว่า นี่คือสิ่งที่เราชอบจริงๆ ตอนนี้เขียนเรื่องเขียนรูปให้เพื่อนประกอบบทกวีซึ่งเราเองก็ไม่ได้เรียนศิลปะมา ตอนเริ่มหัดเขียนรูปมีอาจารย์ที่เคารพนับถือบอกว่า ถ้ารักจะทำจริงๆ ให้มองสิ่งนั้นนานๆ แล้วจะรู้เองว่าสิ่งนั้นมันอยู่ในจิตใจ อย่างเราอยู่กับดอกไม้เยอะก็เขียนดอกไม้จากการมองของเราจริงๆ มองด้านหลัง มองด้านหน้า มองด้านข้าง มองนานๆ เราก็จะเห็นมันด้วยใจ แล้วเราจะพลิกข้อมือทำได้ดั่งใจเราเลยนะ ไม่ได้เขียนเพราะว่าอยากรู้เชิงความรู้ เห็นเส้นสายของดอกไม้ที่เขียนออกมาแล้วรู้สึกมีความสุขจังเล พอเขียนดอกไม้ได้แล้วก็อยากลองเขียนแมลงต่อ การมีเวลาอยู่กับอะไรเล็กๆ น้อยๆ นานๆ ก็ทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน และค้นพบว่า ชีวิตอย่างนี้ละที่ต้องการ”
ที่ดินขนาดหนึ่งไร่ผืนนี้เดิมเป็นสวนลำไย เธอต้องการให้มีบริเวณสักหน่อยสำหรับสมาชิกสี่ขา อันประกอบด้วยแมว 21 ตัว และสุนัขอีก 4 ตัว ขนาดพื้นที่สวนไม่ใหญ่เกินไปนัก พอให้คนรักต้นไม้อย่างพี่จี๋ดูแลไหว ภายในบริเวณประกอบด้วยเรือนขนาดย่อม หลายหลังตั้งขนาบสนามหญ้าตรงกลาง บ้านไม้สองชั้นหลังแรกที่เราเห็นทำเป็น เรือนรับรองแขก โดยเฉพาะเพื่อนฝูงที่แวะเวียนไปมาหาสู่กันเสมอ หลังถัดไปคือห้องทำงาน ซึ่งกรุกระจกให้แสงสว่างลอดเข้ามาด้านในได้เต็มที่ ส่วนอีกฝั่งทำเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง ซึ่งมีทางลาดสำหรับผู้สูงอายุคือคุณแม่ของพี่จี๋ให้ใช้รถเข็นได้สะดวก สำหรับสนามหญ้าตรงกลางมีกลุ่มไม้ดอกหลากสีขึ้นตามมุมนั้นมุมนี้ แบบไม่จงใจนัก
“ตอนแรกตั้งใจว่าจะเก็บลำไยบางต้นไว้ แต่เพราะเราไม่รู้จักธรรมชาติของ ต้นตอนถมดินไม่ได้เปิดรากไว้ แม้ว่าจะถมนิดเดียว แต่พอทำเสร็จ ลำไย ก็ค่อยๆ ตาย เหลือเพียงต้นเดียวหน้าบ้าน ส่วนข้างบ้านมีปีบต้นหนึ่งขึ้นในเขตที่ดินคนอื่น แต่เมื่อเดือนที่แล้วกลิ่นหอมฟุ้งของดอกจากต้นนี้ลอยมาถึงที่บ้านเลย ทำให้รู้สึกว่าบางอย่างเราไม่ต้องครอบครองก็ได้”
“กิจวัตรของพี่ เช้ามาครึ่งวันจะไม่ไปไหนเลย คอยรดน้ำต้นไม้ ตัดกิ่งแห้ง ลิดกุหลาบที่เหี่ยวแห้งให้มันแตกใหม่ หว่านปุ๋ยอินทรีย์เอง บางต้นที่ออกดอกก็จะเก็บเมล็ดไว้ ดอกไม้ทุกต้นส่วนใหญ่ไปเก็บเมล็ดมาหว่านเอง จากข้างทางบ้าง ซื้อจากตลาดคำเที่ยงบ้าง หรือแลกเปลี่ยนกับเพื่อนที่รู้จักกัน พี่ชอบดอกไม้เล็กๆ ไม่ชอบอะไรที่ซื้อมาแพงหรือที่เขาฮิตกัน อย่างดาวกระจายเหลืองอ่อน ไฟเดือนห้า เมียวเมียว บานไม่รู้โรย ดอกหลังชาวไทยใหญ่จะเรียกว่า ‘ปุ่มไหม’”
“ถ้าดอกหญ้าขึ่นก็เก็บไว้ ไม่เอาออกจะไม่ค่อยซื้อไม้กระถาง ยกเว้นเจอราเนียม ชอบนำมาตั้งริมหน้าต่าง อีกต้นที่ชอบคือ เทียนญี่ปุ่น ดูอ่อนโยนดี แต้มสีตรงนั้น ตรงนี้ซุกๆ อยู่ได้เพราะเป็นไม้ร่ม ชอบปลูกทุกอย่างรวมๆ กันเป็นกลุ่มเล็กๆ น้อยๆ อย่างพวงชมพูเป็นไม้เลื้อยเกาะเกี่ยว แต่มันแต้มสีนิดๆ หน่อยๆ ปลูกขจร ให้แทรกกันไป เวลาออกดอกบางทีเหมือนลูกไม้เลย ดอกขจรห้อยมาเป็นสายๆ มันจะสอดเป็นเหมือนลูกไม้ อีกฝั่งระเบียงมีแสแทรกกับลดาวัลย์ เราไม่ชอบอะไรที่ลงตัวเกินไป บางช่วงก็จะปล่อยๆ บ้าง บางช่วงเก็บเมล็ด เก็บไว้ เยอะแยะเลยนะคะ พวกเทียนไทย พอเราไม่เก็บ เมล็ดมันก็จะร่วงลงพื้นงอก เป็นต้นตรงนั้นตรงนี้หรือแต้ว เวลาใบหมดก็จะออกดอกชมพูทั้งต้น ส่วนสารภี ปลูกเพราะว่าที่นี่คืออำเภอสารภี เป็นต้นเดียวที่ซื้อแพงที่สุด เพราะซื้อต้นใหญ่มาเลย ต้นนี้เป็นไม้โตช้า”
ถ้อยคำที่เอ่ยถึงดอกไม้อย่างอ่อนโยนทำให้เราสัมผัสได้ถึงความรักใน ต้นไม้ทุกต้นที่ขึ้นในที่ดินผืนนี้ ฉันขอคัดถ้อยคำในหนังสือเชิงบันทึก “เหมือนมอง ดอกไม้” ที่พี่จี๋เขียนและวาดภาพประกอบเองมาแบ่งปันเพื่อเป็นอีกแรงใจให้คนรัก ต้นไม้หว่านเมล็ดลงดินสร้างเรื่องราวดอกไม้ของตัวเองไปพร้อมๆ กันอย่างมีความสุข “ฉันมักใช้เวลาเดินเล่นในสวนตอนเช้าๆ เก็บเมล็ดเทียนที่แก่จัดรวบรวมมาเก็บไว้ คิดหวังไว้ว่าหากมิตรภาพยังคงมีอำนาจให้เธอแวะมาเยี่ยมเยือน ฉันก็จะฝากเมล็ดเทียนให้เธอนำกลับไปปลูกในสวนที่บ้าน และเมื่อใดที่ต้นเทียนเติบโต แต่งดอก แต่งสี ฉันคิดว่าเราคงจะได้คิดถึงกันด้วยความสุขอันอิ่มงาม –พลังของความอ่อนโยน”
เรื่อง : “วรัปศร”
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ