เรียนรู้วิถีเกษตรแบบครบวงจร บนพื้นที่สร้างสรรค์ใกล้ชิดธรรมชาติ แวดล้อมด้วยบรรยากาศอบอุ่นเหมือนสวนหลังบ้าน แสนสิริสร้างจุดเช็คอินสีเขียวศูนย์เกษตรการเรียนรู้ Sansiri Backyard
คอมมูนิตี้ที่จะทำให้ลูกบ้านใกล้ชิดธรรมชาติที่อบอุ่นเป็นกันเองเสมือนสวนหลังบ้าน สร้างประโยชน์จากพื้นที่ว่างของแสนสิริกว่า 15 ไร่ ที่โครงการ T77 Community ให้กลายเป็นฟาร์มผักปลอดสารพิษ ทำให้คนเมืองมีโอกาศสัมผัสกับวิธีการใช้ชีวิตสุขภาพดีทั้งกายใจและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เพราะคำว่า “คุณภาพชีวิตที่ดี” นั้น นอกจากการอยู่อาศัยในที่พักอาศัยที่ดี นั้นยังรวมไปถึงการใช้วิถีชีวิต การกินอยู่ ที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีด้วย ซึ่งแน่นอนว่าการได้อยู่กับร่วมกับธรรมชาติ เป็นตัวช่วยที่ทำให้สมดุลในการใช้ชีวิตในทุก ๆ เช้าวันใหม่นั้นมีความสุขโดยสมบูรณ์
จากพื้นที่ว่างกว่า 15 ไร่ บริเวณด้านหลังโครงการ ได้จัดสรรให้กลายเป็นแหล่งการเรียนรู้เกษตรแบบครบวงจร โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน เป็นพื้นที่สำหรับปลูกพืชไร่ , ไม้ผล , ผักสลัด , พืชสมุนไพร และพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ ที่มีทั้งบ่อปลาทับทิม และโรงเลี้ยงแม่ไก่อารมณ์ดี ที่ออกไข่อวบ ๆ สด ๆ ให้เราทานแบบสดใหม่ก่อนใครในทุกวัน อ้อ..ใครอยากลองลิ้มรสชาติไข่ไก่สด ๆ ทางศูนย์การเรียนรู้เกษตรก็เปิดให้เก็บไข่ด้วยตัวเองด้วยนะ
เสียงฝีเท้าที่เพิ่งเดินหลุดมาจากบริเวณค้างผัก กลายเป็นตัวเร่งที่ทำให้จังหวะการว่ายของปลาทับทิมในบ่อดินใกล้ ๆ เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งระยะทางลดน้อยลง จังหวะการว่ายของปลาทับทิมก็เร่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ภาพท้องฟ้าที่สะท้อนกับผิวน้ำ สลับกับสีชมพูอมส้มของปลาทับทิมวัยเจริญเติบโตที่มีสุขภาพดีนี้ เป็นภาพที่คุ้นชินของ ศูนย์เกษตรการเรียนรู้ Sansiri Backyard ไปซะแล้ว
เมื่อการทำเกษตรและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีนั้น กลายเป็นเรื่องไม่ไกลตัวมากจนเกินไป ไม่ว่าใครก็สามารถสัมผัสและลองใช้ชีวิตแบบวิถีเกษตรได้ง่าย ๆ และคำว่า “คุณภาพชีวิตที่ดี” นั้น สามารถสร้างได้ด้วยตัวเองบนพื้นที่ว่างใกล้ตัว มาลงมือสร้างบรรยากาศความอยู่สบายตามวิถีแบบธรรมชาติ ด้วยเคล็ดลับการปลูกผักสลัดสำหรับมือใหม่ ปลูกอย่างไรถึงจะถูกวิธี รวมไปถึงการดูแล และนำไปปรุงเป็นเมนูสุขภาพง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำทานได้เองทุกวัน มาเริ่มต้นวันใหม่ไปพร้อมกับชีวิตดี ๆ กันค่ะ
เริ่มแรกก่อนจะเริ่มปลูกอะไร เราต้องมีวัสดุปลูกที่ดีเสียก่อน เริ่มแรกจากการปรุงดินให้เหมาะสมกับการปลูกพืชกันค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียมคือ ดิน , กาบมะพร้าวละเอียด , มูลสัตว์ และใบก้ามปูละเอียด ผสมเข้าด้วยกันในอัตรส่วนที่เท่า ๆ กัน จากนั้นพรมน้ำให้ดินพอชุ่ม ๆ
รู้ได้อย่างไรว่าดินที่ผสมนั้นชุ่มชื้นเพียงพอ วิธีเช็คนั้นก็ง่ายมากให้ลองกำดินที่ผสมขึ้นมา หากก้อนดิบจับตัวกัน ไม่แตกออกจากนั้น และบีบแล้วไม่มีน้ำไหลออกมา นั้นแปลว่าดินที่พอดีค่ะ ทิ้งดินไว้ในที่ร่มให้ดินหายร้อน ก็สามารถนำดินนั้นมาปลูกต้นไม้ได้ค่ะ
ใช่ว่าเมล็ดทุกเมล็ดนั้นจะปลูกขึ้น ก่อนจะนำเมล็ดลงปลูกมาตรวจสุขภาพความสมบูรณ์ของเมล็ดพันธุ์กันก่อนค่ะ เพียงนำภาชนะใส่น้ำสะอาด นำเมล็ดไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 8 ชั่วโมงถึง 1 วัน หากเมล็ดไหนลอยน้ำ แสดงว่าเมล็ดนั้นเสียให้ตักออก นำเมล็ดที่จมมาทำการเพาะกล้าต่อ
ใส่พีทมอสหรือวัสดุปลูกลงในถาดเพาะเมล็ด ใช้ไม้จิ้มเพื่อนำร่องให้เป็นรู จากนั้นใส่เมล็ดที่บ่มไว้ตามลงไป 1 เมล็ด ต่อ 1 ช่อง จากนั้นกลบดินบาง ๆ แล้วฉีดน้ำให้พอชุ่ม วางถาดเพาะเมล็ดไว้ในที่ร่ม มีแสงแดดส่องถึง และมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เขียนป้ายกำกับวันที่ลงเมล็ดไว้ เพื่อความสะดวกในการนับเวลาการเก็บเกี่ยว
เมื่อเวลาผ่านไป 4 – 5 วัน เมล็ดที่เราลงไว้เริ่มโตจนเห็นเป็นต้นอ่อน ๆ ให้นำถาดเพาะไปถูกแสงแดดอ่อน ๆ ในช่วงเช้า เวลาประมาณ 6.00 – 10.00 จะเหมาะสมกับต้นอ่อนของเรามากที่สุด
เมื่อต้นกล้าอายุ 3 สัปดาห์ จึงเริ่มทำการย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูก โดยเตรียมแปลงปลูกให้พร้อมทำแถวขุดหลุมไว้ให้กว้างพอดีสำหรับต้นกล้า ใช้หางช้อนจิ้มต้นกล้าออกจากหลุม นำไปปลูกลงแปลงที่เตรียมไว้ ใช้ดินกลบที่โคนต้นพอประมาณเพื่อค้ำยันไม่ให้ต้นผักล้ม รดน้ำเช้าและเย็นให้พอชุ่ม ใส่ปุ๋ยชีวภาพ 1 – 2 ครั้ง / สัปดาห์ และอย่าลืมดูแลไม่ให้วัชพืชขึ้นบริเวณแปลงปลูกด้วยนะคะ
นับตั้งแต่วันที่ลงเมล็ด เมื่อผักอายุ 30 – 40 วันก็เริ่มเก็บเกี่ยวได้แล้วค่ะ โดยเวลาที่เหมาะสมกับการเก็บจะเป็นช่วงเช้า ผักที่ได้จะกรอบอร่อย และเก็บรักษาไว้ได้นานกว่าผักสลัดที่เก็บในช่วงอื่นของวัน
ในระหว่าง 30 – 40 วัน หากไม่แน่ใจว่าผักสลัดอายุเท่านี้จะอร่อยตรงใจเราหรือไม่ ให้ลองเด็ดชิมดูได้ค่ะ หากรสชาติหวานอร่อย ไม่ขม และลักษณะของต้นไม่ขึ้นยอดแหลมกว่าต้นอื่น ๆ นั้นแสดงว่าใช้ได้แล้วค่ะ ควรใช้มีดหรือกรรไกรคม ๆ ตัดที่โคนต้น ไม่ทับซ้อนกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผักที่ได้ซ้ำ หากผักที่เก็บได้มีจำนวนมากเกินกว่าจะทานรอบเดียวหมด ให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษสีน้ำตาลห่อผักแล้วนำเข้าตู้เย็นโดยไม่ต้องล้างผักซ้ำอีกครั้ง เพราะความชื้นจากการล้างผักนั้นจะทำให้ผักเน่าเร็ว
ก่อนนำผักสลัดไปปรุงอาหาร ให้นำไปล้างทำความสะอาด 2 – 3 ครั้ง โดยน้ำสุดท้ายควรล้างด้วยน้ำเย็นในอุณหภูมิ 10 – 15 องศา เพื่อความกรอบอร่อยของผักสลัด วิธีการทำเมนูจากสลัดนั้นง่ายมากเลยค่ะ เพียงหั่นผักเป็นชิ้นพอดีคำ ทานคู่กับน้ำสลัดที่ชอบ เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูสุขภาพสดใหม่จากพื้นที่เกษตรใกล้ ๆ ตัวแล้วค่ะ
มาสัมผัสกับบรรยากาศที่กระตุ้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกันได้ที่ ศูนย์เกษตรการเรียนรู้ Sansiri Backyard ภายในโครงการ T77 Community ซอยสุขุมวิท 77 ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:00 – 18:00 และพบกับกิจกรรมเก็บผักสด ๆ จากแปลงปลูกแบบเหมา ๆ ในราคา 149 บาท กิจกรรมเก็บไข่ไก่ออร์แกนิคจากฟาร์มแม่ไก่อารมณ์ดีในราคา 99 บาท (6 ฟอง) เปิดบริการทุกวันในเวลา 16:00-18:00 ค่ะ : )
#SansiriBackyard #GrowItForward