เลือกประกันอย่างไรให้เหมาะสมกับที่อยู่อาศัย

ในยุคนี้ ประกันภัยที่อยู่อาศัย หรือประกันอัคคีภัย เป็นอีกหนึ่งสิ่งจำเป็นสำหรับบ้าน ด้วยสภาวะในปัจจุบันที่ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นได้ในทุกฤดู อย่างฤดูฝนที่เสี่ยงต่อน้ำท่วม หรือพายุลมแรงกระหน่ำสร้างความเสียหายให้บ้านแสนรักที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรงของเรา

หรือจะเป็นอุบัติภัยอย่างเหตุไฟไหม้ที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงฤดูร้อนก็พบเห็นได้บ่อยเช่นกัน ประกันภัยที่อยู่อาศัยจึงเป็นเสมือนหลักประกันอย่างหนึ่งที่ทำให้มั่นใจได้ว่า หากเกิดอุบัติภัยขึ้น บ้านของเรา จะมีผู้ดูแลความเสียหายให้อย่างมั่นใจ

โดยทั่วไปแล้ว หากเราซื้อบ้านโดยยื่นกู้กับสถาบันการเงิน ก็จะต้องให้ทำประกันภัยบ้านควบคู่ไปด้วย เพื่อเป็นหลักประกันว่าหากเกิดอุบัติภัยใดๆ ขึ้น เจ้าของบ้านจะได้ค่าสินไหมชดเชยกลับคืนเพื่อเป็นค่าซ่อมบำรุง หรือชดเชยแทนทรัพย์สินที่เสียไป ซึ่งนั่นเป็นประโยชน์ของเจ้าของบ้านโดยตรง แต่หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าเราสามารถเลือกกรมธรรม์ในแบบที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเราได้  ในขณะเดียวกันบ้านที่ไม่ได้มีข้อผูกมัดกับทางสถาบันการเงินก็ควรมีประกันภัยเพื่อคุ้มครองบ้านด้วยเช่นกัน แต่จะเลือกประกันอย่างไรให้เหมาะกับรูปแบบที่อยู่อาศัยนั้น เราจะพาไปรู้จักข้อควรพิจารณาที่จะทำให้การซื้อประกันบ้านเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

รู้จักประเภทของประกันอัคคีภัย

โดยทั่วไปแล้วประกันอัคคีภัย แบ่งตามลักษณะการใช้งาน คือ สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย และเป็นสถานที่ประกอบธุรกิจ หรือทั้ง 2 อย่างควบคู่กัน เช่น บ้านที่แบ่งพื้นที่ทำร้านอาหารหรือคาเฟ่ หรือโฮมออฟฟิศที่ใช้ประกอบธุรกิจ ก่อนจะเลือกซื้อประกันจึงควรพิจารณาก่อนว่าเข้าข่ายประเภทไหน เพื่อให้ตรงกับการใช้งานมากที่สุดซึ่งครอบคลุมถึงเงื่อนไข ความคุ้มครอง และคุ้มค่ากับเบี้ยประกันภัยที่จ่ายในแต่ละปีด้วย

พิจารณาความคุ้มครองและผลประโยชน์

แน่นอนว่าการเลือกซื้อประกันภัย เงื่อนไขความคุ้มครอง เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยทั่วไปแล้วจะมีความคุ้มครองมาตรฐานหลักๆ คือ ภัยไฟไหม้ ฟ้าผ่า ภัยระเบิด ภัยยวดยานพาหนะ ภัยอากาศยาน ภัยเนื่องจากน้ำ ภัยลมพายุ ภัยน้ำท่วม ภัยลูกเห็บ ภัยแผ่นดินไหว เป็นต้น นอกเหนือจากที่กล่าวมายังมีความคุ้มครองเพิ่มเติมที่เหมาะกับการใช้ชีวิตหรือความเสี่ยงภัยของผู้ซื้อ เช่น ในบ้านมีวัตถุโบราณ งานศิลปะที่มีมูลค่า ควรเลือกประกันภัยที่ครอบคลุมความเสี่ยงจากการโจรกรรมด้วย

ประกันอัคคีภัย ทรัพย์สินที่เอาประกันได้แก่ สิ่งปลูกสร้าง ซึ่งหมายถึงตัวบ้าน (ไม่รวมฐานราก) โรงรถ ครัวเรือน กำแพง รั้ว ส่วนต่อเติมและทรัพย์สินภายในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ อย่าลืมพิจารณาผลประโยชน์ที่ผู้ทำประกันภัยจะได้รับประกอบกัน ซึ่งทุนประกันภัยควรที่จะต้องใกล้เคียงกับมูลค่าของบ้านและทรัพย์สินทั้งหมด

บริษัทประกันภัยที่เชื่อถือได้

ความน่าเชื่อถือ ล้วนต้องใช้เวลาสะสมคุณภาพ การให้บริการ เพื่อให้เกิดความไว้ใจและเชื่อมั่นในสายตาผู้บริโภคให้บริษัทประกันภัยนั้นๆ ดูแล การเลือกซื้อประกันภัยจึงควรพิจารณาหลายองค์ประกอบ เช่น ความมั่นคงทางการเงินของบริษัท การให้บริการที่มีคุณภาพ ช่องทางในการติดต่อทั้งสำนักงานขาย ตัวแทน/นายหน้า และจุดบริการประกันภัย ที่สะดวกรวดเร็ว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้นอกจากจะช่วยสร้างความมั่นใจก่อนซื้อประกันภัยแล้วยังเพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินการเมื่อยามเกิดอุบัติภัยกับบ้านเราด้วย

กรุงเทพประกันภัย เข้าใจทุกรูปแบบของการอยู่อาศัย ด้วยประกันภัยสำหรับที่อยู่อาศัยที่ออกแบบได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันอัคคีภัยพื้นฐานทั่วๆ ไป ให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อประกันภัยให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ความต้องการได้ โดยขอแนะนำแผนประกันอัคคีภัยที่น่าสนใจ ดังนี้

ประกันอัคคีภัยที่เหมาะสำหรับที่อยู่อาศัย

  • ประกันภัยรักษ์บ้าน เหมาะสำหรับบ้านอยู่อาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม คุ้มครองสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินภายในบ้านจากภัยต่างๆ อาทิ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า การระเบิด น้ำท่วม รวมถึงภัยธรรมชาติ พร้อมวงเงินสำหรับคุ้มครองศิลปวัตถุอันมีค่า และค่าที่พักชั่วคราว รายละเอียดความคุ้มครอง
  • ประกันภัยพร้อมสรรพสำหรับเจ้าบ้าน เหมาะสำหรับบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม ให้ความคุ้มครองมากกว่าประกันภัยรักษ์บ้าน โดยครอบคลุมถึงการโจรกรรม ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก อุบัติเหตุส่วนบุคคลพร้อมค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ และค่าที่พักอาศัยชั่วคราวหรือการสูญเสียรายได้จากการให้เช่า รายละเอียดความคุ้มครอง

ประกันอัคคีภัยที่เหมาะสำหรับสถานประกอบการ

  • ประกันอัคคีภัยสำหรับสถานประกอบการ เหมาะสำหรับสถานประกอบการ เช่น คลินิก หอพัก โรงเรียน สำนักงาน ออฟฟิศ หรือเป็นบ้านที่ตกแต่งให้เป็นสถานประกอบการอย่างคาเฟ่ ร้านอาหาร หรือโฮมออฟฟิศ ซึ่งจะคุ้มครองทั้งสิ่งปลูกสร้าง เครื่องตกแต่ง อุปกรณ์ไฟฟ้า และสินค้าภายในร้านด้วย รายละเอียดความคุ้มครอง
  • ประกันภัยร้านค้าอุ่นใจ เหมาะสำหรับร้านค้าที่เป็นธุรกิจสร้างรายได้ โดยจะมีความคุ้มครองมากกว่าประกันอัคคีภัยสำหรับสถานประกอบการ เช่น ความคุ้มครองกระจก ประกันภัยสำหรับเงิน การโจรกรรม ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่อกิจการ ประกันภัยร้านค้าอุ่นใจจะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงิน และช่วยให้กิจการสามารถกลับคืนสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว รายละเอียดความคุ้มครอง

เลือกแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับบ้านคุณได้เพิ่มเติม
หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อทีมพัฒนาลูกค้ารายย่อย โทร. 0 2285 8585 อีเมล [email protected]