เปลี่ยนโฉมคอนโดมิเนียมการเคหะแห่งชาติให้กลายเป็นบ้านที่เน้นฟังก์ชันใช้งาน สะดวก สบาย ตอบโจทย์เจ้าของผู้เป็นสถาปนิก ภายในสามารถเปิดรับลมและแสงสว่างได้มากที่สุด ที่สำคัญยังมีบ่อน้ำและระเบียงสวนเล็กๆ ดูแปลกตาและเป็นธรรมชาติ สร้างความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ราวกับบ้านคือสวรรค์เลยทีเดียว
บนชั้น 9 ของคอนโดมิเนียมการเคหะแห่งชาติย่านประชานิเวศน์เป็นที่ตั้งของบ้านหลังนี้ ความสูงระดับนี้ทำให้มุมมองที่ได้รับนั้นเปิดกว้างและสามารถมองออกไปได้ไกลสุดสายตา เมื่อเปิดประตูและช่องระบายอากาศทั้งหมด ห้องเล็กๆ นี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้เครื่องปรับอากาศเลย สถาปนิกซึ่งเป็นคนคนเดียวกับเจ้าของห้องนี้ออกแบบให้ห้องสามารถเปิดรับลมและแสงสว่างได้มากที่สุด ทั้งการใช้สอยพื้นที่และวัสดุก็แสดงถึงความเรียบง่าย เน้นการอยู่อาศัยและทำงานอย่างแท้จริง
“ตั้งแต่เลือกซื้อและปรับปรุงห้องจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาหลายปีมากแล้ว ผมยังไม่รู้สึกเบื่อที่จะอยู่บ้านเลย เหตุผลอาจเป็นอะไรที่เรียบง่าย นั่นก็เพราะบ้านหลังนี้คือบ้านที่ออกแบบจากความต้องการของเรา ออกมาจากการได้รับฟังความต้องการของผู้อยู่อาศัยจริงๆ”
คุณเปี๊ยก – วินัย วงศ์เทพาพิทักษ์ เล่าถึงการปรับปรุงบ้านหลังนี้ว่า “หาบ้านที่จะซื้ออยู่นาน จนมาเจอที่นี่ แม้ว่าด้านนอกตัวอาคารอาจดูไม่ทันสมัยและทึบตัน แต่เมื่อเข้ามาดูข้างในแล้วชอบมาก เพราะการจัดพื้นที่และช่วงเสานั้นกว้างเอื้อให้เราสามารถปรับปรุงได้อย่างที่ต้องการ ภาพในความคิดที่เกิดขึ้นเป็นภาพของห้องที่เปิดโล่งโดยการรื้อผนังเดิมทิ้ง เปิดพื้นที่ทั้งหมดเชื่อมถึงกัน แบ่งพื้นที่โดยการเปลี่ยนวัสดุและยกระดับแทน”
คุณเปี๊ยกทำงานเป็นสถาปนิกมาตลอด ส่วนใหญ่เป็นงานราชการซึ่งเรื่องของการออกแบบนั้นอาจเป็นประเด็นรองลงไปและเมื่อถึงวัยเกษียณได้ออกมาจับงานออกแบบเต็มตัวอีกครั้ง คุณเปี๊ยกก็ไม่ลืมที่จะทำด้วยหัวใจที่เชื่อเรื่องการออกแบบอย่างเต็มที่
สิ่งที่ดูสะดุดตาอีกสิ่งหนึ่งคือ การมีบ่อน้ำเล็กๆ รูปตัวแอล (L) อยู่กลางห้อง บ่อน้ำวิ่งคั่นระหว่างห้องนอนกับระเบียงภายนอก ดูแปลกตาและเป็นธรรมชาติ สร้างความผ่อนคลายได้ดี ทั้งๆ ที่อยู่ในห้องของคอนโดมิเนียม
“ผมว่าบ้านต้องการความเคลื่อนไหว น้ำและต้นไม้เป็นสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตเรามีพลัง ผมจึงเลือกให้มีน้ำมาล้อมรอบห้องนอนเอาไว้ ในแง่ของการออกแบบและก่อสร้าง เราก็ต้องแน่ใจว่าสิ่งที่เราทำจะไม่ส่งผลเสียต่อเพื่อนบ้าน เช่น ปัญหาน้ำรั่วซึม ก่อนที่จะทำเราต้องป้องกันให้มากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะถ้าเกิดปัญหาแล้วจะแก้ไขยาก เราเองก็ไม่มีความสุขที่จะออกแบบห้องอีกต่อไป”
ความลึกของบ่อประมาณ 20 เซนติเมตรเท่านั้น นั่นก็เพื่อไม่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้างเดิมมากนัก และไม่ทุบหรือทำอะไรกับโครงสร้างพื้นเดิมเลย แต่ก่อบ่อน้ำตามขนาดที่ต้องการโดยผสมสารกันซึมลงไปในคอนกรีตด้วย ปลายด้านหนึ่งของบ่อเป็นส่วนของปั๊มน้ำขนาดเล็กซ่อนอยู่ใต้พื้นระเบียง แต่สามารถเปิดได้ สูบและปล่อยน้ำให้วนภายในบ่อพร้อมเลี้ยงปลาหางนกยูงเพื่อความเป็นธรรมชาติ
สำหรับแนวคิดหลักที่ใช้ในการทำงานออกแบบของคุณเปี๊ยกคือเรื่องของการใช้งาน “ผมให้ความสำคัญกับฟังก์ชันมากต้องใช้งานสะดวก สบาย และมีความคล่องตัว ส่วนเรื่องของความสวยงามนั้นเป็นผลที่ตามมาเองโดยธรรมชาติมากกว่า ผมเชื่อว่านักออกแบบทุกคนมีความรู้สึกและรู้ว่าอะไรสวย อะไรน่ามอง อะไรดูดี ฉะนั้น หากออกแบบด้วยความตั้งใจแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สวย เรื่องของการใช้งานหรือเรื่องของฟังก์ชันน่าจะเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้มากมากกว่า”
พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประมาณ 50 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ของส่วนทำงาน ส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหาร ส่วนครัว ห้องน้ำ ห้องนอน และระเบียงไม้ ห้องนอนมีประตูเลื่อน 3 บานกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวด้วย ลูกฟักกระจกฝ้าบานใหญ่สามารถเลื่อนเปิดได้สุดเมื่อต้องการเชื่อมพื้นที่ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ที่มุมโต๊ะทำงานได้รับแสงธรรมชาติอย่างพอดีเพราะด้วยช่องเปิดที่สามารถเปิดโล่งได้สุด และเชื่อมต่อพื้นที่ภายในห้องกับระเบียงเข้าด้วยกันโดยการใช้ผนังสีสดยาวต่อเนื่องกัน ทำให้ห้องดูน่าสนใจและมีชีวิตชีวาขึ้น
ส่วนครัวและห้องน้ำออกแบบให้อยู่ติดกัน ห้องน้ำจึงสามารถเข้าถึงได้ทั้งทางห้องนอนและห้องครัว ส่วนครัวมีเครื่องดูดควัน สามารถเปิดใช้ได้ในกรณีที่มีควันไม่มาก แต่ถ้ามากกว่านั้นก็มีประตูบานเลื่อนที่สามารถปิดกั้นได้เช่นกัน การใช้งานพื้นที่ทั้งหมดจึงเป็นเรื่องราวเดียวกัน ต่อเนื่อง และไม่น่าเบื่อ
การปรับปรุงคอนโดนั้นไม่ต่างอะไรจากการสร้างบ้านใหม่บนพื้นดินเปล่า เพราะทั้งสองสิ่งต่างต้องการแนวคิดและความตั้งใจในการสร้าง ความสุขไม่ได้แปรผันไปตามขนาดของพื้นที่ขอเพียงฟังเสียงความต้องการภายในและแปรออกมาเป็นงานออกแบบเพื่อบ้านของคุณก็เพียงพอแล้ว
เรื่อง : เอกราช ลักษณสัมฤทธิ์
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล