“ว่านมงคล” ใช้เรียกกลุ่มต้นไม้หลากหลายชนิดที่เชื่อกันว่ามีคุณค่าทางด้านสมุนไพรและมีความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อ หนึ่งในวัฒนธรรมการปลูกต้นไม้ที่สำคัญและอยู่คู่กับสังคมไทยมานานจนถึงปัจจุบัน แม้กระแสแฟชั่นการจัดสวนจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ว่านก็ยังคงอยู่แทรกไปกับสวนได้อยู่เสมอ
มาดูกันว่ามีว่านมงคลชนิดใดที่ควรจะมีไว้ติดบ้านกัน
1. ว่านเสลดพังพอนตัวเมีย Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau
ไม้รอเลื้อยที่สามารถเติบโตได้ทั้งแสงแดดตลอดวันและครึ่งวัน หากตัดแต่งเสมอจะให้ทรงพุ่มสวยงาม สามารถนำใบสดมาตำแล้วคั้นเป็นน้ำหรือผสมเหล้าขาวทาบริเวณที่แพ้หรือเป็นผื่นคัน รักษาพิษแมลงกัดต่อยและโรคงูสวัดได้ เชื่อว่างูและสัตว์มีพิษจะกลัว
2. ว่านมหากาฬ Gynura pseudochina (L.) DC. var. hispida Thwaites
ไม้ล้มลุก สูง 15 – 30 เซนติเมตร ชอบแสงแดดตลอดวัน ใบมีสีสันสวยงาม นิยมนำใบสดมาโขลกผสมสุราปิดพอกฝี ช่วยถอนพิษ แก้ปวดแสบปวดร้อนแก้อักเสบ เชื่อว่าหากปลูกคู่กับว่านมหาปราบจะสามารถป้องกันอันตรายได้
3. ว่านหางจระเข้ Aloa vera (L.) Burm.f.
ไม้ล้มลุกที่ทุกส่วนอวบน้ำ ภายในเป็นวุ้นใส ชอบแสงแดดตลอดทั้งวัน นำวุ้นภายในใบมาล้างยางสีเหลืองออกแล้วทาปูนแดง ใช้ปิดขมับแก้อาการปวดหัว และยังมีสรรพคุณแก้ระคายเคือ งรักษาแผลสดภายนอก แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และดูดพิษ
4. ว่านหูเสือ Plectranthus amboinicus (Lour.) Spreng.
ไม้ล้มลุกที่ทอดเลื้อยได้เล็กน้อย ใบมีกลิ่นหอม ชอบทั้งแสงแดดครึ่งวันและตลอดทั้งวัน สามารถรับประทานกับน้ำพริก ดับกลิ่นอาหาร นำใบมาคั้นน้ำใช้หยอดหู แก้หูน้ำหนวก รับประทานแก้หวัดคัดจมูก
5. ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว Homalomena lindenii (Rodigas) Lindl.
ไม้ล้มลุก ชอบแดดรำไร สามารถปลูกภายในอาคารได้ มีสีสวยงามและมีกลิ่นหอม เชื่อกันว่าเป็นว่านทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ช่วยให้ค้าขายได้ดี เป็นที่ต้องตาแก่ผู้พบเห็น
6. ว่านสี่ทิศ Hippeastrum striatum (Lam.) H.E. Moore
ไม้ล้มลุก มีลำต้นเป็นหัวใต้ดิน มีดอกหลากหลายสีสวยงามตามแต่ละสายพันธุ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชอบแดดตลอดทั้งวันไปจนถึงครึ่งวัน และจะพักตัวในฤดูหนาว เชื่อว่าปลูกไว้เป็นสิริมงคล ช่วยป้องกันภัยอันตราย นอกจากนี้ยังนิยมปลูกข้างศาลพระพรหมเพื่อเป็นตัวแทนของพระพรหม
ยังมีว่านอีกหลายชนิดในหนังสือ “ว่าน สมุนไพร ไม้มงคลไทย”
สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่นี่
เรื่อง : ปัญชัช
ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน