จัดห้องนอนไม่ให้เป็นแหล่งสะสมฝุ่น ป้องกันการเกิดภูมิแพ้

ฝุ่นเป็นสิ่งที่รบกวนการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ เมื่อสัมผัสหรือสูดหายใจฝุ่นเข้าไป จะเกิดอาการต่างๆ ทั้ง คัน จาม ผื่น รบกวนการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะห้องนอน ที่มักจะกลายเป็นแห่งสะสมฝุ่น ที่หลายคนมองข้าม ทั้งที่นอน หมอน ผ้าห่ม วัสดุต่างๆ จึงควรจัดการเพื่อให้ ห้องนอนปลอดฝุ่น นอนหลับได้สบาย หายใจได้สะดวก

การจัดและดูแล ห้องนอนปลอดฝุ่น จึงจำเป็นมาก ไม่ใช่แค่สำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้เท่านั้น แต่ทุกคนก็สามารถ จัดห้องนอนปลอดฝุ่น ได้โดยไม่ต้องรอให้ป่วยก่อน วันนี้ บ้านและสวน มี 10 เคล็ดลับดี ๆ ที่จะทำให้ห้องนอนของเรา ปลอดฝุ่น ตัวการสำคัญที่จะทำให้เราเจ็บป่วยได้

1.ไม่นำของมาไว้ในห้องมากเกินไป

ห้องนอนปลอดฝุ่น

อันดับแรกคือการเลือกเครื่องใช้ และของตกแต่งห้องให้พอดีตามความจำเป็น เพราะการนำทุกอย่างเข้าไปไว้ในห้องนอน จะทำให้ห้องรก เช็ดทำความสะอาดยาก และยิ่งกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นได้ง่าย โดยเฉพาะตุ๊กตาหรือหมอนแฟนซีรูปทรงต่าง ๆ ที่ใครหลายคนชอบนำมากองไว้บนเตียง โดยที่ไม่รู้เลยว่าภายในนั้นถือเป็นแหล่งสะสมชั้นเยี่ยมของฝุ่น เพราะด้านในตุ๊กตาหรือหมอนนั้นจะยัดด้วยนุ่นและใยรูปแบบต่าง ๆ แถมยังได้รับการทำความสะอาดไม่บ่อยเท่าเครื่องนอนชิ้นอื่น ๆ จึงยิ่งมีการสะสมของฝุ่นมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็มีพวกหนังสือหรือของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ควรมีมุมจัดเก็บโดยเฉพาะนอกห้องนอน จะนำมาใช้หรือวางโชว์นิด ๆ หน่อย ๆ เท่าที่จำเป็น

2.จัดห้องให้โปร่งโล่ง ไร้มุมอับ

ห้องนอนปลอดฝุ่น

การจัดห้องนอนให้ดูโปร่งโล่ง สบายย่อมทำให้อากาศถ่ายเทสะดวก และดีต่อการหายใจมากกว่าอยู่แล้ว ส่วนอีกข้อคือ การทำให้เข้าถึงทุกซอกทุกมุมได้อย่างสะดวก เมื่อไม่มีมุมอับ หรือมุมที่มีแต่ของกองเต็มไปหมด ก็จะทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องมีฝุ่นสะสม โดยบนพื้นนั้นควรจะจัดให้โล่งที่สุด ไม่ควรมีของวางแอบอยู่ตามใต้โต๊ะหรือซอกต่าง ๆ นอกจากนี้การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ที่สามารถทำความสะอาดพื้นด้านล่างได้ง่าย ก็เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เหมือนกัน เพราะตรงจุดนี้เป็นมุมอับ ที่ถ้าหากไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำ ก็จะทำให้ฝุ่นสะสมหนาได้เตอะได้เลยทีเดียว

3.เก็บของให้เรียบร้อยในพื้นที่ปิดมิดชิด

สำหรับเสื้อผ้า และของใช้ต่าง ๆ ที่อยู่ในห้องนอนนั้น ก็ควรจะต้องมีที่เก็บเป็นสัดส่วนให้มิดชิด ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บเข้า ตู้ ลิ้นชัก หรือกล่อง ไม่ควรนำมาวางกองกันไว้ ตามหลังตู้เด็ดขาด โดยเฉพาะเสื้อผ้า เครื่องนอนและผ้าขนหนูต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ แน่นอนว่านี่เป็นการเคลียร์ พื้นที่ภายในห้องให้ทำความสะอาดง่าย และอีกอย่างก็เป็นการจำกัดพื้นที่ให้วัสดุต่าง ๆ ที่สามารถสะสมฝุ่น ได้อยู่ภายในพื้นที่ปิด เพื่อไม่ให้ฝุ่น เกิดการฟุ้งกระจาย และปะปนอยู่กับอากาศภายในห้อง ถ้าเป็นของตกแต่งหรือหนังสือ ก็อาจวางไว้ในตู้กระจกแทนชั้นติดผนังแบบเปิดจะดีกว่า

4.ใช้ผ้าคลุมที่ช่วยกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ

ส่วนที่สำคัญและใกล้ชิดกับเรามากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องนอนแต่ละชิ้น ทั้งที่นอน หมอน ผ้านวมและหมอนข้าง ซึ่งภายในแต่ละชิ้นนั้น ก็มีการยัดด้วยนุ่น ใยสังเคราะห์หรือฟองน้ำ โดยแต่ละอย่างก็เป็นวัสดุที่สะสมไรฝุ่นทั้งนั้น การป้องกันไม่ให้ฝุ่น รวมทั้งไรฝุ่น และมูลของมันฟุ้งกระจายออก ก็คือการใช้ผ้าคลุมที่ช่วยกันไรฝุ่นได้เฉพาะปูรองในชั้นแรก ก่อนจะปูทับตามด้วยผ้าปูที่นอน หรือปลอกหมอนตามปกติอีกชั้น ซึ่งผ้าปูกันไรฝุ่นนี้จะผลิตมาจากผ้า พลาสติกหรือวัสดุต่าง ๆ ที่ผ่านการทออย่างแน่นหนา จนรูผ้าเล็กกว่าตัวและมูลของไรฝุ่น ทำให้ไรฝุ่นไม่สามารถเล็ดลอดออกมาสัมผัสกับผิวหรือเข้าไปพร้อมกับการสูดหายใจได้

5.การทำความสะอาดเครื่องใช้ไม่ให้มีไรฝุ่น

การกำจัดไรฝุ่นนั้น จะต้องใช้อุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นจัด โดยช่วงอุณหภูมิที่ทำให้ไรฝุ่น ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้คือความเย็นที่ต่ำกว่า -10 องศาเซลเซียส และความร้อนตั้งแต่ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป การทำความสะอาดที่ง่ายที่สุด เพื่อจะกำจัดไรฝุ่นนั้น ก็คือการนำไปซักด้วยน้ำร้อนนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะใช้ผ้าคลุมกันไรฝุ่นแล้ว ก็ควรทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปอกหมอน รวมทั้งเครื่องใช้อื่น ๆ ด้วยน้ำร้อนเหมือนกัน เพราะจุดสำคัญในการทำความสะอาด เครื่องใช้ให้ปราศจากไรฝุ่น คือการทำให้ไรฝุ่น ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยความร้อน หลังจากนั้น จะต้องกำจัดซากตัวและมูลของไรฝุ่นที่ตายแล้วไม่ให้หลงเหลือ โดยการซักทำความสะอาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กัน การนำไปตากแดด หรือซักตามปกติเพียงอย่างเดียวนั้น จึงอาจไม่เพียงพอ

6.งดการใช้ผ้าจำพวกขนสัตว์หรือผ้าสักหลาดในห้องนอน

ห้องนอนปลอดฝุ่น

เมื่อมีผ้าคลุมกันไรฝุ่นเป็นตัวป้องกันเครื่องนอนในชั้นแรกแล้ว ก็ใช่ว่าจะใช้วัสดุชนิดไหนคลุมทับด้านนอกก็ได้ เพราะแม้จะป้องกันไรฝุ่นจากด้านใน แต่ถ้าด้านนอกใช้ปลอกหมอนที่ทำมาจากขนสัตว์ ผ้าสักหลาด หรือวัสดุที่เก็บฝุ่นได้ ก็ไมมีผล ซึ่งวัสดุเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรนำมาใช้ในห้องนอนเลย การเลือกใช้ผ้าปูหรือปลอกหมอนต่าง ๆ ที่ทำจากผ้าซาติน หรือผ้าคอตตอนทั่วไป จะช่วยลดการสะสมของไรฝุ่น และดูแลง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

7.หลีกเลี่ยงการปูพรมในห้องนอน

การปูพรมที่ทำให้ห้องนอน ดูสวยมีสไตล์อาจต้องแลกกับการเพิ่มแหล่งสะสมของฝุ่น และการปูพรมนั้นอาจไม่จำเป็นเท่ากับ เครื่องใช้ที่รูปแบบอื่น ๆ ด้วย ถ้าอยากลดพื้นที่อยู่ของฝุ่น ก็ไม่ควรปูพรมทุกชนิดในห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นพรมขนสัตว์ พรมลูกฟูก หรือพรมที่ผลิตจากใยสังเคราะห์ประเภทต่าง ๆ และนอกจากจะเป็นการลดพื้นที่สะสมฝุ่นลงไปแล้ว ก็ยังช่วยให้ทำความสะอาดพื้นห้องทุกซอกทุกมุมได้ง่ายขึ้นด้วย

8.เลือกใช้ผ้าม่านที่ถอดซักง่ายหรือติดมู่ลี่

ในบรรดาเครื่องใช้ที่ขาดไม่ได้ ก็มีผ้าม่านที่เป็นตัวสะสมไรฝุ่นมากที่สุด เพราะชุดเครื่องนอนนั้น ยังมีการทำความสะอาด และสับเปลี่ยนอยู่เสมอ แต่การทำความสะอาดผ้าม่านนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นี่จึงเป็นอีกจุดที่อาจถูกละเลย เพราะกว่าจะได้ทำความสะอาดสักครั้ง ก็ค่อนข้างนาน แถมเนื้อผ้าที่ใช้ผลิตผ้าม่านแต่ละชนิด ก็ล้วนแต่เก็บกักฝุ่นได้เป็นอย่างดี การเลือกผ้าม่านเพื่อไม่ให้ฝุ่นมาแอบอาศัยอยู่ได้ จึงควรเป็นผ้าที่ลื่นเงาอย่างผ้าแพรหรือผ้าซาติน สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย หรือไม่ก็อาจเลือกใช้เป็นมู่ลี่ที่ทำจากไม้ หรือพลาสติกไปเลยนั่นเอง

9.ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำความสะอาดง่าย

ห้องนอนปลอดฝุ่น

การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง ก็มีผลต่อปริมาณของไรฝุ่นเหมือนกัน เพราะเฟอร์นิเจอร์แต่ละประเภท ก็มีทั้งวัสดุที่ไรฝุ่นอยู่อาศัยได้และไม่ได้ โดยไรฝุ่นจะไม่สามารถอาศัยอยู่บนเฟอร์นิเจอร์ จากวัสดุที่แข็ง หรือลื่นเงา อย่างพลาสติก ไม้ กระจก และเหล็ก การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการใช้เบาะนวม หวาย ไหมพรม รวมไปถึงผ้าคลุมรูปแบบต่าง ๆ ที่นอกจากจะทำความสะอาดยากแล้ว ไรฝุ่นก็ยังชอบอยู่ตามวัสดุเหล่านี้ด้วย ถ้าหากนำมาไว้ในห้องนอน แล้วก็ต้องหมั่นดูแลและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

10.ดูแลให้อากาศภายในห้องสะอาดบริสุทธิ์

นอกจากการดูแล และ ทำความสะอาดห้องนอนให้สะอาดแล้ว ถ้าได้เครื่องฟอกอากาศสักตัว มาตั้งไว้ในห้องนอนก็จะยิ่งช่วยให้อากาศภายใน สะอาดขึ้นได้อย่างง่าย ๆ ยิ่งเดี๋ยวนี้เครื่องฟอกอากาศหลายรุ่น ก็มีความสามารถในการยับยั้งสารก่อภูมิแพ้ และไรฝุ่น จึงยิ่งช่วยเรื่องนี้ได้อย่างตรงจุดมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังต้องหมั่นทำความสะอาดพัดลม และแผ่นกรองฝุ่น ในเครื่องปรับอากาศด้วยนะคะ ถ้าหากดูแลเครื่องใช้ และอุปกรณ์เหล่านี้ให้สะอาด และทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ อากาศที่หมุนเวียนภายให้ห้อง ก็จะบริสุทธิ์และส่งผลดีต่อระบบทางเดินหายใจแน่นอน

Story : Kamonchanok.L


วิธีการซักหมอนให้กลับมาสะอาดน่าใช้ ไร้คราบสะสม

แก้ปัญหาสารพัดงานซักผ้าด้วยน้ำส้มสายชู

7 วิธีซักผ้าขาว เคล็ดลับการคืนชีวิตให้ผ้าขาว กลับมาขาวจั๊วะเหมือนใหม่