รูปแบบการใช้ชีวิตของคนเราที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดในปี 2020 คือการก้าวสู่ยุคดิจิตัลอย่างเต็มรูปแบบ ทุกกิจวัตรประจำวันล้วนเปลี่ยนสู่แบบฟอร์มดิจิตัล โดยมี smart phone เป็นจุดรวบรวมทุกความสะดวกสบายมาไว้ในมือ ทั้งการช้อปปิ้งออนไลน์ การสั่งอาหารและส่งของผ่านแอปพลิเคชั่น ไลฟ์สไตล์การดูหนังฟังเพลง การเสพข้อมูลข่าวสารรอบโลก และการใช้จ่ายผ่าน Digital Wallet สังคมไร้เงินสดที่เพิ่มทางลัดที่รวดเร็วในการซื้อขาย
ซึ่งข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่าช่วงระหว่างที่มีการแพร่ระบาด COVID-19 ผู้บริโภคไทย 73% มีการโอนเงินและชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน Mobile Banking และ e-Wallet เพิ่มขึ้น จากเดิมก่อนการแพร่ระบาดอยู่ที่ประมาณ 9 ครั้งต่อสัปดาห์ เพิ่มเป็น 17 ครั้งต่อสัปดาห์ นั่นยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า Contactless Payment เป็นเทรนด์ที่ร้านค้าไม่สนใจไม่ได้แล้ว
รูปแบบการชำระเงินแบบ Digital พกแค่มือถือเครื่องเดียวก็ใช้จ่ายได้ทุกอย่าง เป็นปัจจัยหนึ่งที่สร้างยอดขายและความสำเร็จให้ผู้ประกอบการในยุคนี้ เช่นคุณธนพล มธุปยาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิลก แอทเลติก (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของร้าน Dilok Store (ดิลก สโตร์) ร้านจำหน่ายสินค้าบาสเกตบอลอันดับหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งมีหน้าร้านหลายรูปแบบทั้งแบบออฟไลน์ที่มีอยู่ 5 สาขา และร้านค้าออนไลน์ในแพลตฟอร์ม โซเชียลมีเดีย และมาร์เก็ตเพลสต่างๆ ซึ่งนอกจากต้องเพิ่มช่องทางการขายเพื่อเข้าถึงลูกค้า แล้วยังต้องเพิ่มความสะดวกในการชำระเงิน รวมถึงความหลากหลายของช่องทางการชำระเงินที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้กลุ่มลูกค้ามีทางเลือก โดยร้านดิลก สโตร์ เป็น 1 ในร้านค้าที่เลือกใช้บริการ K PLUS shop เป็นตัวช่วยให้การรับชำระเงินจากลูกค้าง่ายดายมากยิ่งขึ้น ผ่านการสแกน QR Code ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ใช้งานเป็นอยู่แล้ว
ร้านดิลก สโตร์ มองว่าข้อดีสำหรับร้านค้าในของการรับเงินผ่าน QR Code คือความปลอดภัยและลดการโจรกรรม ลดปัญหาการเตรียมเงินทอน และลดการสัมผัสเงินสดอันเป็นสะสมของเชื้อโรคด้วย นอกจากนี้ K PLUS shop ยังมีข้อดีอีกอย่างคือเมื่อลูกค้าโอนเงินเข้ามาแล้ว หากลูกค้าเกิดเปลี่ยนใจ อยากจะเปลี่ยนเป็นสินค้าอื่นที่ราคาแตกต่างกัน K PLUS shop สามารถกดคืนเงินให้กับลูกค้าภายในแอปฯ ได้เลยทันที นั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ช่วยปิดการขายและกระตุ้นยอดขายให้ร้านได้เป็นอย่างดี
K PLUS shop ไม่ใช่แค่แอปพลิเคชั่นชำระเงินจากการซื้อขายสินค้าเท่านั้น แต่เป็นแอปพลิเคชั่นร้านค้าบนมือถือที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้เจ้าของร้านจัดการยอดชำระในแต่ละวันได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบที่ให้กดปิดยอดและโอนเงินเข้าบัญชีได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง แจ้งเตือนเงินเข้าแบบเรียลไทม์พร้อมเสียงพูด หากผู้ซื้อเปลี่ยนใจสามารถยกเลิกคำสั่งการชำระเงินได้พร้อมคืนเงินให้ทันทีผ่านแอป K PLUS shop
ความสะดวกรวดเร็วของ K PLUS shop มาพร้อมระบบจัดการร้านที่เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบ QR API ที่ทำงานร่วมกับ Partner เพื่อช่วยร้านค้าในการขาย จัดการ Stock สินค้า การขนส่ง อาทิ Food Story,Store Hub, BentoWeb, Code Connect , ZORT ซึ่งถูกรวบรวมไว้ในหนึ่งเดียว ทั้งนี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษ ส่ง “บิลแมวเขียว” เรียกเก็บเงินทาง Social Media โดยที่ผู้ซื้อไม่ต้องกรอกเลขที่บัญชีและจำนวนเงินเอง เมื่อยอดถูกชำระร้านค้าจะรู้สถานะการจ่ายเงินของผู้ซื้อได้ทันที
ฟีเจอร์เด็ดที่ช่วยจัดการร้านแบบครบครันไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะล่าสุด K PLUS shop ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ “QR รับบัตรเครดิต” เป็นอีกหนึ่งช่องทางในเพิ่มโอกาสทางการขายผ่านการชำระด้วย QR รับบัตรเครดิต ทำรายการชำระสินค้าได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพกบัตรติดตัว ช่วยลดความกังวลของผู้ซื้อในเรื่องของการโจรกรรมขโมยข้อมูลที่เกิดขึ้นได้ง่ายและในขณะเดียวกันร้านค้าก็แน่ใจได้ว่าลูกค้าเป็นเจ้าของบัตรที่แท้จริง ฟีเจอร์ใหม่นี้รองรับทั้ง Thai QR, APWC และ Credit Card พร้อมทั้งสามารถ Void ยกเลิกรายการได้หากเกิดความผิดพลาด
ความปลอดภัยและสะดวกรวดเร็วเหล่านี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดจากกระดาษสลิป ลดขั้นตอนการรูดบัตรใช้การซื้อขายรวดเร็วขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อหาและดูแลรักษาอุปกรณ์อย่างเครื่องรูดบัตร (EDC) ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนเพิ่ม
ความสะดวกรวดเร็วที่มาพร้อมโอกาสในการขายที่มากขึ้นกับการเข้าถึงในวงกว้างเพราะรองรับทุก QR Code ของทุกธนาคารและทุกคนสามารถใช้งาน K PLUS shop ได้ง่ายเพียงแค่ดาวน์โหลดติดตั้ง พร้อมกรอกข้อมูลของร้านค้า เพียงเท่านี้ก็เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวเพิ่มทำหน้าที่จัดการยอดขายให้เป็นระบบอย่างง่ายดาย