ช่วงปลายฤดูฝนกับฝนระลอกสุดท้ายของปี “บ้านและสวน” มีโอกาสกลับมายังจังหวัดอุดรธานีเมืองศูนย์กลางแห่งอีสานเหนืออีกครั้ง เราแวะมาเยือนสวนจัดเองของ คุณนุช -วุฑฒิยา นาถมทอง
สวนแห่งนี้เป็นหนึ่งในสวนที่ได้รับรางวัลสวนจัดเองประจำปี 2554 ความเปลี่ยนแปลงที่เราเห็นหลังจากผ่านไป 4 ปีคือ ต้นไม้หลายต้นเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บางต้นก็โยกย้ายออกไป บ้างก็ล้มหายตายจาก แต่กระนั้นสวนแห่งนี้ก็ยังเต็มไปด้วยความงดงามไม่เปลี่ยนแปลง
คุณนุชซื้อที่ดินแปลงนี้โดยเลือกจากวิวที่เธอสามารถมองเห็นแม่น้ำได้เต็มที่ แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าที่ดินแปลงอื่นในขนาดที่เท่ากัน
“แม่น้ำจะไหลผ่านไปทางโน้น เราจะได้ดูดวงอาทิตตย์ตกทางด้านนี้ด้วย” นั่นคือเหตุผลง่าย ๆที่เป็นคำตอบว่าช่วงเวลาเย็นเมื่อมองจากหน้าบ้านออกไป มุมนี้เป็นมุมที่สวยจริง ๆ
“พี่ชอบแต่งบ้านมาตั้งแต่เด็ก เพราะดูจากหนังสือแล้วเรามีความฝันว่าถ้ามีบ้านก็จะจัดสวนแบบนี้ อีกอย่างเคยไปเที่ยวแคนาดา เห็นบ้านเล็กบ้านน้อยในประเทศเขา คุณภาพชีวิตเขาดี ขนาดบ้านหลังเล็กๆ สวนยังสวยมาก พี่จัดสวนนี้โดยอิงรูปแบบสวนอิงลิชคันทรี ดูอบอุ่นและน่ารักสไตล์ผู้หญิง มีเพิ่มต้นไม้ใหญ่คือหลิวลู่ลม ซื้อมาตั้งแต่ต้นเล็กๆ เส้นผ่านศูนย์กลางสองนิ้วเท่านั้นเอง ปลูกเป็นไม้ประธานของสวน ดูอ่อนช้อย อ่อนหวาน แล้วเราก็ชอบความพลิ้วไหวของต้น ทำให้สวนดูมีชีวิตชีวา”
สำหรับการดูแลต้นไม้แต่ละต้น คุณนุชก็มีเทคนิคแตกต่างกันไป เธอค่อย ๆสังเกต ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง โดยเฉพาะบรรดาไม้ที่ออกดอกสวยตลอดทั้งปี
“พยับหมอก ช่วงแรกจะให้ปุ๋ยคอกก่อน พอใบออกใหม่เขียวดีแล้วจึงให้ปุ๋ยเร่งดอก แต่นานๆใส่ทีค่ะ ต้องมีระดับการให้ปุ๋ย พอดอกร่วงหมดจะปรับแต่งกิ่งแล้วพรวนดิน จากนั้นจะใส่เศษใบไม้ที่เรากวาดรวมลงไป ตามด้วยปุ๋ยคอก ไม่ต้องใส่เยอะเพราะดินจะเค็ม
“กุหลาบ พอตัดแต่งกิ่งแล้วจะแตกดอกเลย เราจะตัดตรงเหนือข้อนิดหนึ่ง จะไม่แต่งเป็นฟอร์ม ชอบให้โตตามธรรมชาติ เพราะสัญชาตญาณของกุหลาบพอตัดแต่งยอดแล้วจะแตกดอกทันที กุหลาบนี้มีมาตั้งแต่สร้างบ้าน เพราะชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เห็นจากในนิตยสารบ้านและสวนนี่ล่ะค่ะ
“ไฮเดรนเยีย ค่อนข้างดูแลยาก ถ้าใส่ปุ๋ยไม่ถูกใบจะเปลี่ยนทันที เราจะรู้เลยว่าเป็นเพราะดินเค็มมาก ต้นนี้ไม่ชอบปุ๋ยเท่าไหร่ เคล็ดลับในการดูแลคือจะตัดแต่งกิ่งแล้วให้ปุ๋ยนานๆครั้ง ที่บ้านต้นสนเยอะเลยต้องปลูกไฮเดนเยียใส่กระถาง เพราะรากของต้นสนจะแย่งอาหาร พี่ยังขยายพันธุ์ไฮเดนเยียเอง โดยโน้มกิ่งลงมาแล้วเอาดินถมไว้ตรงกิ่ง รากก็จะออกตรงนั้น จึงค่อยเอากรรไกรตัดไปปลูกใหม่
“ทุกมุมในสวนของพี่เป็นมุมพิเศษ ตรงไหนที่เป็นมุมอับยิ่งต้องจัดสวนให้ดูไม่รก ส่วนด้านหลังจะเป็นมุมเพาะชำและปลูกสมุนไพรไว้ใช้ในครัวเรือน พี่จะปลูกไว้ในกระบะ เพราะเรามีพื้นที่จำกัด”
นอกจากปลูกดอกไม้ไว้ในสวน ภายในบ้านของเธอเองก็ยังสะพรั่งด้วยไม้กระถางและไม้ตัดดอกที่ตัดมาจากในสวนนั่นเอง
“เราชอบดอกไม้อยู่แล้ว เวลาแอฟริกันไวโอเล็ตบานก็จะนำมาวางเพราะดอกสวยดี ทำให้รู้สึกสดชื่น แต่ตัวนี้จะออกเป็นฤดู ในบ้านพี่จะมีดอกไม้ผลัดเปลี่ยนตลอด ส่วนใหญ่ยกมาทั้งกระถาง อยู่ได้ประมาณอาทิตย์หนึ่งก็จะเปลี่ยน โดยเฉพาะไฮเดรนเยียจะมีดอกตลอด เพราะเราดูแลตัดแต่ง ขยายพันธุ์เอง ใครเห็นก็จะบอกว่าเหมือนอยู่เมืองนอกเลย เหมือนบ้านฝรั่ง เราก็มีความสุขที่เห็นต้นไม้เติบโต ถ้าเราใส่ใจกับเขา เขาก็ออกดอกให้ แต่ถ้าเราปล่อยไม่สนใจก็จะไม่ออกดอก พี่จะใช้เวลาอยู่ในสวนวันเสาร์-อาทิตย์ ดื่มกาแฟเสร็จก็จะเดินรอบบ้าน เอากรรไกรมาตัดโน่นเด็ดนี่ทิ้ง มันก็เป็นความภาคภูมิใจของเรา”
ต้นไม้ที่ค่อยๆเติบโตจากความรักและเอาใจใส่ของเจ้าของบ้านหลังนี้ ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความงดงามและความสุขที่คุณนุชถ่ายทอดลงไปในสวน ดอกไม้ผลิบานและร่วงโรยลงไป แต่กระนั้นดอกไม้ดอกใหม่ก็บานขึ้นมาแทนที่หมุนเวียนแบบนี้ไปทุกวันและตลอดทั้งปี
เรื่องโดย : “วรัปศร”
ภาพโดย : ศุภกร ศรีสกุล
เจ้าของสวน – จัดสวน : คุณวุฑฒิยา นาถมทอง