เกร็ดจากเวทีเสวนาในงาน TSX กับประเด็น ออกแบบอย่างไรให้ยั่งยืน ยั่งยืนอย่างไรให้เป็นจริง

เกร็ดจากเวทีเสวนา Designer Panel ในหัวข้อ Sustainability Design Cycle ออกแบบอย่างไรให้ยั่งยืน ยั่งยืนอย่างไรให้เป็นจริง ส่วนหนึ่งของงาน TSX ณ สามย่านมิตรทาวน์

หนึ่งในความท้าทายที่สุดของแนวคิดความยั่งยืน คือทำอย่างไรให้ลงมือทำและขับเคลื่อนสังคมได้จริง กิจกรรมเสวนาภายใต้หัวข้อ “Sustainability Design Cycle ออกแบบอย่างไรให้ยั่งยืน ยั่งยืนอย่างไรให้เป็นจริง” ในงาน Thailand Sustainability Expo 2020 ( TSX ) จึงชักชวน 4 นักออกแบบ และ 1 สื่อด้านการออกแบบมาร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งหลายท่านไม่ได้เริ่มต้นงานออกแบบที่ปลายทางเท่านั้น แต่ยังคิดวิเคราะห์เพื่อมุ่งเข้าไปปรับกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นทาง จนขับเคลื่อนสู่ตลาดและสังคมได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม

TSX

ใครพลาดไม่ได้มาร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ Sustainability Design Cycle ในงานนี้ นี่คือบทสรุปข้อคิดและแนวทางที่ประสบความสำเร็จให้นำไปตั้งคำถามและหาคำตอบกับตัวเองต่อไปว่า จะยั่งยืนอย่างไรให้เป็นจริง

TSX

คุณเจรมัย พิทักษ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด(มหาชน) ผู้ดำเนินรายการ
คุณเจรมัย พิทักษ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด(มหาชน) ผู้ดำเนินรายการ

“ถ้าความยั่งยืนกลายเป็น passion จึงไม่ควรมีผลิตภัณฑ์ไหนที่ไม่ยั่งยืนอีกแล้ว มันควรเป็นเรื่องปกติของการทำงานและใช้ชีวิตจริง ๆ

TSX
คุณยศพล บุญสม ภูมิสถาปนิกจาก Shma ผู้ก่อตั้งโครงการ We!Park เพื่อเชื่อมโยงพื้นที่สีเขียวในเมืองอย่างสร้างสรรค์

“ศักยภาพของภูมิสถาปนิกไม่ใช่เพียงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เมือง แต่เป็นการเชื่อมผู้คนแต่ละส่วนให้มาเจอกัน นี่แหละคือความยั่งยืนในกระบวนการของเรา”

“กรุงเทพฯมีพื้นที่สีเขียวต่ำกว่าเกณฑ์ที่ WHO ตั้งไว้ แต่กลับมีพื้นที่รกร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์มากมายกว่า 120 ตารางกิโลเมตร ผู้คนต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแม้ว่าจะอยู่ที่ไหนจะตาม ทั้งคอนโดสมัยใหม่ อาคารพาณิชย์ที่ขาดพื้นที่สีเขียว หรือห้องเช่าขนาดเล็กซึ่งขาดพื้นที่สันทนาการ จึงมีแนวคิดเชื่อมโยงความร่วมมือเพื่อให้เกิดเป็นผลลัพธ์จริงจึงเกิดขึ้นเพื่อทุกๆ คน”

“เรามีความคิดเริ่มต้นว่า เราเป็นภูมิสถาปนิกจะทำอะไรเพื่อช่วยแก้ปัญหาของเมืองได้บ้าง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราพบว่าทุกคนผจญปัญหาร่วมกันทั้งมลภาวะ ขาดพื้นที่สีเขียว แต่ต่างคนต่างแก้ไข ไม่มีการเชื่อมโยงกัน ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขที่ดี We!Park จึงเกิดขึ้นเพื่อช่วยเชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆ ให้เกิดความร่วมมือ เราสนใจในพื้นที่รกร้างที่มีมากมายในเมือง นำมาพัฒนาเป็น Pocket park เช่น การพัฒนาพื้นที่ใค้ทางด่วนเป็นสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นความร่วมมือจากภาครัฐที่เป็นเจ้าของที่ดิน นักลงทุน คนในชุมชน และนักออกแบบ”

“กระบวนการออกแบบที่ดีจะนำไปสู่ความยั่งยืนได้ อย่างการออกแบบสวนสาธารณะที่ทำร่วมกับคนในชุมชน ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม ซึ่งเมื่อชุมชนรู้สึกเป็นเจ้าของด้วย ผลสุดท้ายทุกคนก็จะช่วยกันดูแลเอง”

TSX
คุณศุภพงศ์ สอนสังข์ นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์จาก Jird Design Gallery ผู้ปลูกป่ากว่า 70 ไร่ เพื่อนำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์ของตัวเอง

“ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงเรื่องวัสดุเท่านั้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับการปลูกป่า คนในชุมชน และการออกแบบที่ดีด้วย”

เมื่อเริ่มคิดว่าทำอย่างไรให้ตัดไม้ไม่เท่ากับทำลายป่าอีกต่อไป คุณศุภพงศ์ สอนสังข์ นักออกแบบมืออาชีพที่เคยไปแสดงงานยังต่างประเทศ และออกแบบคอลเล็กชั่นขายดีให้กับแบรนด์ไทย กลับมาตกผลึกความคิดและลงลึกถึงต้นทางของวัสดุอย่างไม้ที่นำมาใช้งาน

“เพราะอาชีพนักออกแบบผลิตภัณฑ์ในเมืองไทยนั้นอยู่รอดยาก และมักต้องออเดอร์เป็นส่วนใหญ่ เราจึงอยากหาความยั่งยืนจากแก่นของงานและความถนัดของเรา จึงกลับไปเริ่มจากจุดเริ่มต้น คือการปลูกป่าซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 25 ปี จึงจะได้ไม้ที่มีคุณภาพสูงมาใช้ โดยระหว่างนั้นจึงใช้ไม้เก่าจากชุมชุนใกล้บ้าน และสร้างช่างฝีมือจากคนในชุมชุม ร่วมกับการออกแบบที่ไม่ยากเกินไป แต่มีเทคนิคการประกอบเพื่อให้ได้คุณภาพดี “

“การใช้ไม้เป็นหนึ่งในวิถีที่ยั่งยืน เพราะไม้เป็นวัสดุชนิดเดียวที่มนุษย์ผลิตได้เองในธรรมชาติ เมื่อต้นไ้ม้ล้มตายจะทำให้ต้นอ่อนมีโอกาสเติบโตขึ้น ซึ่งการตัดที่เรียกได้ว่าทำลายป่า คือ การตัดทีเดียวเกลี้ยงเลย แต่ถ้าตัดอย่างรู้จักธรรมชาติต้นไม้แต่ละชนิด และวางแผนหมุนเวียนก็จะทำให้มีต้นไม้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

“เรื่องคนก็เป็นหนึ่งในความยั่งยืน เราตั้งใจสร้างคนในชุมชน ปั้นคน โดยวิธีการออกแบบของเราคือ ออกแบบให้ง่ายขึ้น ทำให้คนเข้ามามีส่วนร่วมจริงๆ มิฉะนั้นชุมชนจะกลับไปทำสงครามด้านราคากัน เมื่อแข่งกันลดราคา ก็จะกลับไปสู่จุดเดิมที่ใช้ทรัพยากรอย่างไม่รู้คุณค่า ธุรกิจที่เราทำจะเติบโตแบบแปลก ๆ ไม่ใช่การขยายกิจการ แต่เมื่อเติบโตจะเป็นการเพิ่มที่ดินเพื่อใช้ในการปลูกป่าเพิ่มขึ้น”

TSX
คุณสมชนะ กังวารจิตต์ นักออกแบบบรรจุภัณฑ์แห่ง Prompt Design และถูกยกให้เป็น Best Design Agency อันดับ 4 ของโลก โดย World Brand Design Society กับกว่า 70 รางวัลทั่วโลก

“เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเทรนด์โลก ไม่มีเทรนด์อะไรที่ดีไปกว่านี้แล้ว เราจึงต้องตระหนักถึงสิ่งที่เรากำลังทำ เพราะถ้าโลกไม่น่าอยู่ การมีชีวิตยืนอยู่บนโลกก็อาจไร้ความหมาย”

“ในทุกวินาทีจะมีขยะเพิ่มจากบรรจุภัณฑ์อย่างมหาศาล บรรจุภัณฑ์จึงถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายมาโดยตลอด แต่ที่จริงแล้วการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไม่ใช่เพียงเพื่อความสวยงามที่ใช้แล้วทิ้งเท่านั้น แต่มันมีหน้าที่รักษาคุณภาพสินค้าเพื่อส่งให้ถึงมือผู้บริโภค ฉะนั้นเมื่อเราทิ้งบรรจุภัณฑ์จึงเป็นเหมือนการทิ้งวัสดุที่ยังมีคุณภาพดี เราควรจะต้องทิ้งเพราะมันหมดหน้าที่ของมันเท่านั้น”

“จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในการประกวด จะมีหัวข้อด้านการออกแบบเพื่อความยั่งยืนซึ่งเป็นทั้งการส่งเสริมการออกแบบ และผลักดันให้เกิดกระบวนการสู่ความยั่งยืน อย่างงานบรรจุภัณฑ์ข้าว Sangdao rise ที่ได้รางวัล เป็นการนำแกลบเหลือทิ้งจากโรงสีมาขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์”

“เป็นการนำแกลบซึ่งเป็นเปลือกข้าวกลับมาห่อหุ้มผลิตภัณฑ์ข้าวอีกครั้ง และเมื่อใช้เสร็จก็สามารถทำเป็นกล่องกระดาษทิชชู่ได้ ซึ่งจะเห็นว่าการออกแบบที่มีประสิทธิภาพหนึ่งอย่างจะส่งผลต่อทั้งกระบวนการผลิต การใช้นำไปใช้งาน และการกำจัดขยะ ซึ่งนำไปสู่ความยั่งยืนได้อีกทางหนึ่ง”

คุณสเริงรงค์ วงษ์สวรรค์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Rubber Killer สร้างผลิตภัณฑ์รักโลกให้เท่อย่างยั่งยืน
คุณสเริงรงค์ วงษ์สวรรค์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Rubber Killer สร้างผลิตภัณฑ์รักโลกให้เท่อย่างยั่งยืน

“เราไม่ได้เริ่มต้นจากแนวคิดความยั่งยืนทั้งหมด เราคิดเพียงว่าต้องการเอาชนะวัสดุ ทำวัสดุให้ใช้ได้หลายอย่างและคุ้มค่าในตัวมันเองเป็นผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้ขายได้ในตลาดจริง”

“แนวคิดของผลิตภัณฑ์คือช่วยลดขยะให้กับโลกกลายมาเป็นกระเป๋าจากยางรถยนต์สุดเท่ ที่ขายได้จริงทั้งในและต่างประเทศ ทำอย่างไรให้สินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมอยู่ในตลาดจริง และต่อยอดไปสู่สินค้าอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย และยังคงมีความสร้างสรรค์ในผลงานอยู่ตลอดเวลา”
.
“Rubber Killer ก่อตั้งมาร่วม 10 ปีมาแล้ว ช่วงเริ่มต้นผมไม่ได้รู้จักเรื่องความยั่งยืนเท่าไร แต่เราเป็นสถาปนิกจึงชอบคิดในเรื่องวัสดุ เริ่มจากทำกระดาษจากต้นกล้วย เพราะเห็นต้นกล้วยตายแล้วเสียดายจึงนำมาทำเป็นกระดาษ เป็นความบังเอิญนำมาที่ต่อยอดและขายได้ และเมื่อเห็นยางในรถจักรยานก็คิดสนุกๆ นำมาเย็บเป็นสันสมุด และต่อยอดมาเป็นธุรกิจในปัจจุบัน”
.
“เราใช้ยางในรถมากว่าห้าหมื่นเส้นแล้ว เป็นการเพิ่มอีกชีวิตให้วัสดุ และสร้างวิถีชีวิตให้ชุมชน ด้วยการผลิตจากคนในชุมชนที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นคราฟต์คอมมูนิตี้ที่เข้มแข็ง เราคิดว่าความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ต้องสมดุลทั้งแนวคิดและรายได้ที่ต้องใช้ในชีวิตจริง”

เรื่อง: ศรายุทธ ทิพย์อาศน์
ภาพ: อภิรักษ์ สุขสัย