บ้านโมเดิร์นสีขาว

บ้านโมเดิร์นสีขาว ที่ให้แสงธรรมชาติขับเคลื่อนความคิด

บ้านโมเดิร์นสีขาว
บ้านโมเดิร์นสีขาว

ภายใต้รูปลักษณ์ บ้านโมเดิร์นสีขาว ทรงเหลี่ยม ดูเรียบง่ายหลังนี้  ได้ซ่อนสวนสีเขียวที่ใช้พรรณไม้เขตร้อนชื้นไว้ในคอร์ต ซึ่งเป็นหัวใจของบ้านที่ออกแบบมาทั้งเพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาสร้างชีวิตชีวาในบ้าน และทั้งเป็นการป้องกันความร้อนจากแสงแดดด้วยการปิดและพรางตามแนวคิด Modern Tropical Design เรื่องการยกใต้ถุนสูงให้ลมผ่าน และการใช้วัสดุอย่าง หน้าต่างบานเกล็ด หรืออิฐช่องลม


DESIGNER DIRECTORY

ออกแบบ: AplusCon Architects

บ้านโมเดิร์นสีขาว
วัสดุที่คุ้นเคยอย่างบานเกล็ด ถูกนำมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานใหม่ให้เป็นฟาซาด นอกจากจะลดความแข็งกระด้างของบ้านเหลี่ยมสีขาวลงแล้ว ยังช่วยสื่อถึงความเป็นภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของที่ตั้งได้

บนที่ดินขนาดไม่ถึง 50 ตารางวา ผืนหนึ่ง ในย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่นของสุขุมวิท “บ้านวชิรธรรม” ตั้งอยู่ในที่ตั้งที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดของพื้นที่ รูปร่างของที่ดิน รวมถึงทิศทางของที่ดิน ซึ่งทำให้หน้าบ้านต้องหันหน้าออกรับทิศที่อากาศร้อนที่สุดของไทยอย่างทิศใต้

บนความท้าทายต่าง ๆ ดังกล่าว คุณวัชรพันธ์ นราพงษ์พันธ์ จาก AplusCon Architects Co.,Ltd. ผู้เป็นทั้งสถาปนิกและเจ้าของ บ้านโมเดิร์นสีขาว หลังนี้ เล่าว่าเขาต้องการออกแบบบ้าน 2 ชั้น พร้อมชั้นดาดฟ้าในรูปแบบสถาปัตยกรรมโมเดิร์น (Modern Architecture) ตามแนวทางที่เขาถนัด หากแต่ต้องสอดคล้องกับสภาพอากาศและธรรมชาติของที่ตั้งด้วย โดยเริ่มจากการพิจารณาขนาดพื้นที่ตั้ง ซึ่งมีหน้ากว้าง 8 เมตร และมีความลึกมากถึง 24 เมตร การออกแบบจึงทำให้ตัวบ้านมีลักษณะยาวเต็มพื้นที่ และใช้การไล่เรียงลำดับการเข้าถึงมาเป็นตัวกำหนดลักษณะของพื้นที่ใช้สอย

สวนหน้าบ้านที่อยู่ในส่วนคอร์ตยาร์ดในใจกลางบ้าน ประกอบด้วยพรรณไม้ที่หาซื้อได้ง่าย เหมาะกับสภาพอากาศ และดูแลรักษาง่าย เช่น ต้นชะพลู ต้นจั๋ง บอนกระดาด เฟินสไบนาง เฟินข้าหลวงหลังลาย เฟินอุ้งตีนหมี ฯลฯ

“เราออกแบบให้มีการค่อย ๆ ไล่ลำดับพื้นที่การเข้าถึง หรือ Transition Area” คุณวัชรพันธ์เล่า “คือการค่อย ๆ ปรับตัวก่อนที่จะเข้าบ้าน ถึงแม้พื้นที่เราจะแคบ แต่เราอยากได้ชมสวนก่อน ได้ปรับอารมณ์ก่อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านจริง ๆ อย่างที่สองคือเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งการสร้างความปลอดภัยทำได้หลายแบบ ส่วนผมเลือกใช้ต้นไม้กั้น รวมถึงการยกพื้นเพื่อให้พ้นระดับสายตา”

หากไล่ลำดับจากหน้าบ้านจะพบว่า จากบ้านที่มีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสีขาวทรงเหลี่ยม ดูเรียบ ๆ และแข็งแรงหลังนี้  ได้ซ่อนสวนสีเขียวพร้อมต้นไม้จำนวนมากไว้ตรงใจกลาง จนเมื่อทะลุผ่านสวนสีเขียวส่วนนี้เข้าไปแล้ว ถึงจะพบกับตัวบ้านที่แท้จริง ซึ่งอยู่ในลำดับสุดท้าย การไล่ลำดับการใช้งานเช่นนี้ยังเป็นการไล่ความสูงจากระดับดินที่หน้าบ้าน สู่พื้นที่ใช้สอยภายในที่ถูกยกให้สูงกว่าระดับดินถึง 1.5 เมตร

พื้นที่นั่งเล่นกึ่งกลางแจ้ง หน้าห้องนั่งเล่นที่ติดกับสวน เป็นการสร้างพื้นเล็ก ๆ ให้กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนของบ้าน

ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการออกแบบ 3 อย่าง คือ 1. ต้องการสร้างภาพลักษณ์แบบ “แข็งนอก อ่อนใน”  เป็นความต้องการให้กล่องสีขาวทรงเหลี่ยมที่ดูเหมือนลอยอยู่อย่างแข็งแรงภายนอก ซ่อนสวนสีเขียวกับพื้นที่ใช้สอยที่ตกแต่งด้วยสีโทนมืดไว้ภายใน  2. เรื่องความปลอดภัย ใช้ต้นไม้และการยกระดับดินช่วยซ่อนมุมมองจากผู้ที่เดินผ่านไปมาภายนอก และประการสุดท้ายคือ การวางพื้นที่ใช้สอยไว้ด้านทิศเหนือ เพื่อให้ตัวบ้านที่ยื่นล้ำไปในทิศใต้ช่วยบังแสง และความร้อนที่จะส่องเข้าสู่พื้นที่ใช้งานหลัก

“สถาปัตยกรรมของเราค่อนข้างที่จะแข็ง ๆ เป็นสีขาว แล้วก็เหลี่ยมเลย โดยผมอยากให้โทนสีข้างล่างเป็นสีเทาที่ดูเคร่งขรึม เพื่อให้รู้สึกว่าก้อนสีขาวข้างบนนั้นลอยอยู่” คุณวัชรพันธ์กล่าว

“และผมชอบสวนที่เป็นแบบเมืองร้อน เพราะรู้สึกว่ามันให้อารมณ์ที่ตรงข้ามกับตัวสถาปัตยกรรม” คอร์ตใจกลางบ้านที่โปร่งโล่งโดยตลอดนั้น ตั้งใจให้เป็นคอร์ตที่สามารถมอบทัศนียภาพสีเขียวให้กับทุกมุมในบ้าน ไม่ว่าจะมองมาจากมุมไหนก็ตาม โดยเจ้าของบ้านผู้ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ เขาเป็นผู้เลือกชนิดพรรณไม้และออกแบบสวนเองทั้งหมด โดยเน้นเลือกพรรณไม้ที่หาได้ทั่วไป เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย และดูแลรักษาง่าย เพื่อให้สวนยังคงความสวยงามไปนาน ๆ ทั้งนี้พรรณไม้ที่นำมาปลูกส่วนใหญ่คุณวัชรพันธ์ได้เน้นไม้พุ่มเตี้ย เพื่อให้สามารถชื่นชมได้ยามอยู่ในห้องนั่งเล่น

ระเบียงของห้องนอนหลัก เชื่อมต่อกับคอร์ตยาร์ดใจกลางบ้าน เป็นส่วนนั่งเล่นและช่วยนำความโปร่งโล่งมาสู่ภายในห้องได้

สวนที่อยู่ใจกลางนี่เองถือเป็นหัวใจของคอนเซ็ปต์การออกแบบบ้าน ดังที่เจ้าของบ้านกล่าวว่า ได้หยิบยกแนวคิดด้านสถาปัตยกรรมมาจากเลอ กอร์บูซิเย (Le Corbusier) สถาปนิกผู้ทรงอิทธิพลด้านสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 20 กับคำกล่าวที่ว่า “บ้านเป็นดังเครื่องจักรสำหรับการอยู่อาศัย” หรือ “A House is a Machine for Living In” ก่อนนำมาต่อยอดสู่ “A Machine for Living In the Garden” หรือการเป็นเครื่องจักรสำหรับการอยู่อาศัยที่ทันสมัยภายใต้ภูมิอากาศในเขตร้อน

“ผมอยากทำให้รู้สึกว่าความเป็นโมเดิร์นมันเป็น Universal สามารถใช้ได้กับทุกที่” คุณวัชรพันธ์กล่าว โดยเฉพาะถ้าเป็น “Modern Tropical” อย่างเรื่องการยกใต้ถุนสูงให้ลมผ่าน หรือการใช้วัสดุอย่าง หน้าต่างบานเกล็ด หรืออิฐช่องลม ที่ประเทศในภูมิภาคอื่น ๆ อาจจะไม่มี “มันคือวัสดุที่แสดงอัตลักษณ์ของความเป็น Modern Tropical พอเราเดินเข้ามาก็อยากให้รู้สึกว่าภายในพื้นที่ของบ้านมีอัตลักษณ์ความเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่”

โถงทางเดินบนชั้น 2 นำไปสู่ชั้น 3 กรุผนังด้วยผนังกระจกบ้านเลื่อนที่เปิดไปสู่คอร์ต ตามแนวคิดที่ต้องการให้ทุกส่วนในบ้านมองเห็นสวนด้านล่างและได้แสงสว่างทั่วถึงกัน

ส่วนสุดท้ายของบ้านที่น่าสนใจ จึงเป็นการเล่นกับวัสดุที่เอื้อให้คอนเซ็ปต์การอยู่อาศัยอย่างพึ่งพาสภาพแวดล้อมและธรรมชาตินั้นชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างบานเกล็ดที่เห็นได้ตั้งแต่หน้าบ้าน โดยนำมาออกแบบใหม่ด้วยการนำมาติดตั้งแบบสลับแนวตั้งและนอน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนวัสดุที่คุ้นเคยให้แปลกใหม่ขึ้น รวมถึงอิฐช่องลมที่ติดตั้งในบริเวณคอร์ตบนผนังชั้น 2 เพื่อปิดมุมมองด้านทิศตะวันตก นอกจากการนำอิฐมาสลับแพตเทิร์นการวาง โดยคำนึงถึงการปิดมุมมองเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวเป็นสำคัญ

ห้องนั่งเล่นเปิดผนังด้านหน้าเป็นบานเลื่อนกระจก เมื่อเปิดออกจะสามารถเชื่อมต่อพื้นที่จากภายในสู่ภายนอกให้รู้สึกกว้างขวางขึ้น รวมถึงสามารถเปิดรับลมและระบายอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ภายในโถงนั่งเล่นเชื่อมต่อกับครัวแบบโอเพ่นแปลน มีการออกแบบช่องหน้าต่างไว้ในจุดต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเปิดรับลมและระบายอากาศได้
โถงนั่งเล่นถูกรวมเข้ากับส่วนรับประทานอาหาร ภายในตกแต่งด้วยโทนสีเข้มตามความชอบส่วนตัว รวมถึงได้ตกแต่งรอบ ๆ ด้วยภาพงานศิลปะที่เป็นของสะสมของเจ้าของบ้านเอง

ห้องนอนหลักตกแต่งด้วยโทนสีเข้มเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ เช่น การใช้พื้น Engineering Wood สีดาร์กโอ๊ก กับผนังกระจกเงาสีเทา
ห้องนอนในอีกฟากหนึ่งของบ้าน ใช้โทนสีสว่างสร้างบรรยากาศที่แตกต่างจากส่วนอื่น ๆ ในบ้าน
บ้านโมเดิร์นสีขาว
อิฐบล็อกช่องลมเป็นอีกหนึ่งวัสดุคุ้นเคยในบ้านเรา ได้รับการนำมาออกแบบใหม่โดยการสลับแพตเทิร์น และไล่ความทึบ-โปร่ง จากด้านล่างที่ค่อนข้างทึบ ค่อย ๆ โปร่งขึ้นเรื่อย ๆ ด้านบน ตามแนวคิดการซ่อนมุมมอง สร้างความเป็นส่วนตัว และนำแสงสว่างมาสู่บ้านนั่นเอง

สิ่งสำคัญคือการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับการใช้อิฐช่องลม ทำหน้าที่ระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์การอยู่ร่วมกับธรรมชาติของบ้าน  จึงไม่เกินจริงหากสถาปนิกผู้ควบตำแหน่งเจ้าของบ้านจะกล่าวว่า เขาสามารถออกแบบให้บ้านใช้อยู่อาศัยได้ทั้งวัน โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศเลย

ออกแบบ: AplusCon Architects Co.,Ltd.

ออกแบบแสง: Lumen Light

เจ้าของ : คุณวัชรพันธ์ นราพงษ์พันธ์

เรื่อง: กรกฎา

ภาพ: ศุภกร ศรีสกุล, รุ่งกิจ เจริญวัฒน์


อ่านเรื่องที่น่าสนใจ

บ้านโมเดิร์นทรงกล่อง ของพี่น้องที่แชร์คอร์ตเพื่อขยายความสุข

บ้านโมเดิร์นมินิมัลที่อยู่สบายเหมือนรีสอร์ท

บ้านโมเดิร์นอยู่สบายที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดการออกแบบ