ฟักทองบัตเตอร์นัท

วิธีการปลูก ฟักทองบัตเตอร์นัท ในกระถาง ปลูกอย่างไรให้ติดผลกินตลอดปี

ฟักทองบัตเตอร์นัท
ฟักทองบัตเตอร์นัท

การปลูกผักไว้ทานหลังบ้านเป็นหนึ่งในวิธีการเลือกบริโภคอาหารจากแหล่งที่ปลอดภัยไว้ใจได้ใคร ๆ ก็ทราบ แต่สำหรับหลาย ๆ คน การปลูกพืชผักสวนครัวไว้หลังบ้านนั้น อาจจะกลายเป็นแค่ความฝัน เพราะพื้นที่ของที่อยู่อาศัยไม่เอื้ออำนวยต่อการทำแปลงปลูกที่ดูจริงจัง ไม่มีพื้นที่รอบบ้านมากมายแบบบ้านเดี่ยว วันนี้บ้านและสวนมีทางออกดี ๆ สำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย ปลูกง่าย ใช้พื้นที่ไม่มาก เก็บผลผลิตทานได้ตลอดทั้งปี ด้วยพื้นที่เพียง 10 ตารางนิ้ว

ผักที่บ้านและสวนจะมาแนะนำการปลูกวันนี้นั่นก็คือ ฟักทองบัตเตอร์นัท “ซันไลท์” ทางเลือกใหม่ของผักที่อุดมไปด้วยประโยชน์นานาชนิด ทั้งวิตามินเอ , สารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดรอยเหี่ยวย่น แถมยังปลูกง่าย ติดผลตลอดทั้งปี นำมาปรุงอาหารก็ง่ายไม่ยุ่งยาก รสชาติอร่อย เก็บเกี่ยวแล้วเก็บไว้ได้นานโดยไม่เสียรสชาติ ฟังดูง่ายขนาดนี้ ตามมาดูขั้นตอนการปลูกทีละสเต็ปกันเลยค่ะ

ขั้นตอนการปลูกฟักทองบัตเตอร์นัท “ซันไลท์”

การเตรียมดินเพาะเมล็ด

ใส่พีทมอสลงในถาดเพาะ โดยให้มีให้พีทมอสต่ำกว่าขอบถาดเพาะประมาณ 1 เซนติเมตร เหตุผลที่ใช้พีทมอสแทนวัสดุปลูกชนิดอื่น ๆ เพราะพีทมอสมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และของเมล็ดพันธุ์ ทำให้ช่วงระยะแรกเมล็ดเติบโตท่ามกลางแหล่งอาหารที่ดีและเหมาะสม

หยอดเมล็ดลงหลุม

หยอดเมล็ดพันธุ์ฟักทองบัตเตอร์นัท “ซันไลท์” ลงถาดเพาะ โดยนำส่วนแหลมปักลงไปในพีทมอส หยอดลึกลงไปประมาณ 1 – 2 เท่าของความสูงเมล็ดพันธุ์ หยอดแค่หลุมละ 1 – 2 เมล็ดก็เพียงพอค่ะ จากนั้นโรยพีทมอสกลบหน้าหลุมบาง ๆ

สเปรย์น้ำให้ทั่วทั้งถาดเพาะเมล็ด พอให้พีทมอสชุ่ม

หลังจากหยอดเมล็ดลงหลุม 8 – 10 วันก็สามารถย้ายต้นอ่อนลงกระถางปลูกได้

ผสมดินสำหรับปลูก

ผสมดินสำหรับใช้ในการปลูกต้นกล้า โดยใช้ดินร่วน 1 ส่วน , ขุยมะพร้าวสับ 1 ส่วน , ใบก้ามปูแห้ง 1 ส่วน และปุ๋ยหมัก 1 ส่วน

ผสมส่วนผสมดินปลูกทั้งหมดเข้าด้วยกัน นำดินที่ผสมเรียบร้อยแล้วใส่กระถางขนาด 10 นิ้ว รองก้นกระถางด้วยปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยมูลไส้เดือน จากนั้นใส่ดินที่ผสมลงในกระถาง ให้ต่ำกว่าขอบกระถางประมาณ 2 เซนติเมตร

ย้ายต้นกล้าลงกระถางปลูก

ขุดหลุมเป็นแนวในการวางต้นกล้าด้วยช้อนปลูกให้ขนาดหลุมใหญ่กว่าขนาดตุ้มดินของต้นกล้าประมาณ 2 เซนติเมตร  จากนั้นใช้ช้อนปลูกค่อย ๆ ตักต้นกล้าออกจากถาดเพาะ แล้ววางลงหลุมที่ขุดเตรียมไว้เมื่อซักครู่อย่างเบามือ กลบดินรอบ ๆ โคนต้นแล้วออกแรงกดเบา ๆ ให้ใบล่างสุดของต้นกล้าโผล่พ้นดินขึ้นมา

กระถางปลูก 1 ใบ สามารถปลูกต้นกล้าได้ถึง 3 ต้น เมื่อย้ายทั้ง 3 ต้นลงกระถางเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้รดน้ำให้ชุ่ม สังเกตได้จากน้ำที่ไหลซึมออกมาที่บริเวณก้นกระถางถือว่าเพียงพอ จากนั้นนำกระถางปลูกไปวางไว้ในพื้นที่ที่มีแสงเข้าถึง เมื่อต้นกล้าเริ่มยืด ให้นำไม้ไผ่มาทำเป็นค้างเพื่อให้ลำต้นเลื้อยขึ้น

วิธีการใส่ปุ๋ย

เมื่อต้นกล้าอายุได้  21 วัน ให้ใส่ปุ๋ยยูเรียขนาด 10 กรัม ,  เมื่อต้นกล้าอายุ 28 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อีก 15 กรัม , เมื่อต้นกล้าอายุ 35 วัน ใส่ปุ๋ยยูเรียเพิ่มอีก 10 กรัม และเมื่อต้นกล้าอายุได้ 42 วันให้ใส่ปุ๋ยสูตร 0-0-60 อีก 10 กรัม หมั่นดูแลความชุ่มชื้นภายในดินให้เพียงพอ

การเก็บเกี่ยว

เมื่อมีอายุ 75 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยสามารถปลูกและเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี แม้ปลูกในกระถางก็ยังติดผลดก ลักษณะผิวของฟักทองบัตเตอร์นัทค่อนข้างเรียบ ลื่น สีครีมนวล เนื้อหนา สีเหลืองทอง น้ำหนักของผลเฉลี่ยอยู่ที่ 0.6 – 0.8 กิโลกรัม รสชาติหวาน มัน สามารถเก็บไว้ได้นานโดยสี และรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง

ผลของฟักทองบัตเตอร์นัท “ซันไลท์” สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ทำให้ผิวพรรณดี ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดรอยเหี่ยวย่น สามารถนำมาประกอบได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน อีกหนึ่งพืชทางเลือกที่สามารถปลูกได้ง่าย ๆ ในกระถาง

สามารถสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ ฟักทองบัตเตอร์นัท “ซันไลท์” จาก ศรแดงได้ที่

LAZADA : https://uqr.to/ewslzd2  , SHOPEE : https://uqr.to/ewsshp2   , www.sorndaengseed.com  และร้านตัวแทนจำหน่ายศรแดงทั่วประเทศ หรือโทร :   0996098504 (เฉพาะเวลาทำการ)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็ปไซต์ : http://th.eastwestseed.com/

เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/Sorndangseed/