บ้านหลังใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมให้กลิ่นอายของบ้านริมทะเล ทว่ากลับตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ที่แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับการปลูกพืชผักไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ รวมทั้งขยับขยายไปถึงการเลี้ยงไก่ไข่และกุ้งก้ามแดงหรือที่เรียกกันว่าล็อบสเตอร์น้ำจืด จึงมีผลผลิตพร้อมให้เก็บกินได้ทุกวัน ในอนาคตยังตั้งใจให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่ช่วยถ่ายทอดส่งต่อแรงบันดาลใจในเรื่อง “เกษตรแบบง่ายๆ ไม่มีทฤษฎีแต่ได้ผลดี” ที่เปิดให้เด็กๆและครอบครัวเข้ามาเรียนรู้ธรรมชาติอีกด้วย เกษตรในเมือง
เจ้าของ : คุณอรรถกานท์ พิมพ์วงศ์ คุณเบญจมาศ อ่อนกล่ำผล และเด็กชายในศีล พิมพ์วงศ์ เกษตรในเมือง เกษตรในเมือง
บ้านหลังใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมกินพื้นที่ไม่มากเมื่อเทียบกับพื้นที่สวนภายในรั้วเดียวกัน คุณเจ๋ง – อรรถกานท์ พิมพ์วงศ์ คุณเบญ – เบญจมาศ อ่อนกล่ำผล และน้องโอเซน – เด็กชายในศีล พิมพ์วงศ์ เจ้าของบ้านต้อนรับพวกเราแต่เช้าด้วยรอยยิ้ม และพาพวกเราเดินเที่ยวชมสวนพร้อมกับลูกสมุนอีกหลายตัวที่วิ่งตามอยู่ไม่ห่าง บนพื้นที่ 1 ไร่แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับการปลูกพืชผักไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ มีทั้งแปลงที่ปลูกผักไว้หลากหลายชนิด อย่างผักคอส เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค กวางตุ้ง คะน้า และมีอีกหลายแปลงที่เตรียมดินไว้รอการลงเมล็ด อีกฝั่งยังมีพืชผักสวนครัวอีกมากมายอย่างพริก แตงกวา มะเขือ มะละกอ เรียกได้ว่าพร้อมให้เก็บกินได้ทุกวัน โดยคุณเจ๋งบอกว่าเป็นหลักในการปลูกคืออยากกินอะไรก็ปลูกเลย
“ตอนแรกที่นี่เป็นสวนมะม่วง สวนผลไม้ พอมีลูกก็เริ่มคิดว่าเราอยากหาอะไรให้เขาเล่นให้เขาได้อยู่กับธรรมชาติ ก็เริ่มจากการปลูกผักไม่กี่แปลง ชวนเขาเล่น ชวนเขาเลอะดิน ให้เขาได้ขยำดินเล่น พอเขาเห็นเราขุดดิน เขาก็มาเล่นด้วย เขาไม่รู้หรอกว่าเราจะปลูกผัก พอปลูกไปเรื่อยๆก็รู้สึกว่าทำได้ดี ก็ลองปลูกผักชนิดอื่นๆ ใครอยากกินอะไรก็ลองปลูกเลย”
นอกจากการปลูกพืชผักต่างๆแล้ว สวนในศีลยังขยับขยายไปเลี้ยงไก่ไข่และกุ้งก้ามแดงหรือที่เรียกกันว่าล็อบสเตอร์น้ำจืด “ตอนนั้นเป็นช่วงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต จึงได้มีโอกาสทำรายการสารคดีเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่อยู่ 3-4 เดือน ได้เจอปราชญ์เกษตรที่นำทฤษฎีของท่านไปใช้ และได้ผลจริงๆ ได้ความรู้ได้แรงบันดาลใจ ก็นำมาปรับใช้กับที่บ้าน พื้นที่เรามีไม่เยอะก็เน้นว่าอยากกินอะไรก็ปลูก ปลูกเล่นๆ แต่จริงจัง มีการเตรียมดิน ปรุงดิน ทำแปลง ทำเองทุกขั้นตอน ว่างก็ทำ ไม่ว่างก็ทิ้งไว้ก่อน ทำไปเรื่อยๆมาปรับให้เข้ากับชีวิตเรา จนได้มาเจอลุงประทีป มายิ้ม ตอนที่ไปทำสารคดี ซึ่งเน้นเรื่องกุ้งก้ามแดง ลุงก็คะยั้นคะยอให้เอาลูกกุ้งกลับมาลองเลี้ยงดู ซึ่งเราก็พยายามปฏิเสธเพราะเป็นสัตว์ต้องดูแล กลัวจะเป็นเรื่องใหญ่ ไหนจะเรื่องที่อยู่อีก แต่ลุงก็บอกให้เอาไปเถอะเลี้ยงง่าย แค่ข้าวสุกวันละเม็ด ลุงให้ลูกกุ้งมา 20 ตัว พอเริ่มโตก็ใส่ในวงบ่อ จำนวนมากขึ้นก็เพิ่มเป็นสองบ่อ พอตอนหลังเริ่มเข้าใจวิธีเลี้ยงก็สร้างเป็นบ่อกุ้งก้ามแดงเลย ในใจตอนแรกคืออยากเผยแพร่ตามโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในมุมเล็กๆของเรา เพราะกุ้งก้ามแดงเป็นสิ่งที่ท่านให้ชาวเขาเลี้ยงในนาข้าว เพราะไม่ทำร้ายข้าว และระหว่างที่รอเก็บเกี่ยวชาวเขาจะได้มีกุ้งกิน เลยเอามาเตือนใจ และเขียนเลข ๙ ไว้ที่ผนัง เพื่อรำลึกถึงท่านที่ช่วยเหลือคนไทยอีกด้วย”
นอกจากกุ้งแล้วยังมีไก่ไข่ สมาชิกใหม่ที่เพิ่งเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน แต่ก็เริ่มออกไข่ให้น้องโอโซนได้เก็บทุกวัน “มีไก่ทั้งหมด 5 ตัว ซึ่งน้องโอโซนจะมีหน้าที่ผสมอาหารให้ไก่กิน พอทำทุกวันเขาก็ได้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งจริงๆก็เหมือนเขาได้เรียนรู้เรื่องเกษตรและได้สนุกไปด้วย ได้วิ่งเล่น ขุดดิน หัวเลอะทราย เลอะขี้วัว ขี้ไก่ มันสอนให้เขารู้จักธรรมชาติ ทำให้เขาอารมณ์ดี ยิ้มได้ หัวเราะได้ มีเรื่องสนุกให้ทำเยอะแยะ ได้เก็บไข่ พอปลูกผักเหลือก็เอาไปขาย พอขายได้เขาก็ดีใจ หรือถ้าไข่มีมากพอก็เอาไปฝากขายแบบไข่อารมณ์ดีปลอดสารพิษ ถ้ามองในแง่ธุรกิจมันไม่คุ้มหรอก แต่ถ้ามองในแง่ของประสบการณ์ ธรรมชาติที่เขาได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ความสุข ความสบายใจในแง่ของเกษตรอินทรีย์มันคือกำไร อยากให้เป็นแรงบันดาลใจว่าเราทำแล้ว ทำได้ไม่ยาก น้องโอโซน 7 ขวบยังทำได้เลย แค่ขอให้เริ่มต้น ปลูกเองกินเอง ถึงไม่สวยงามแต่สุขใจ”
เหนื่อยจากการทำสวนจนถึงช่วงสายๆของวัน คุณเจ๋งพาพวกเราเดินหลบแดดเข้าบ้านสีขาวทรงสี่เหลี่ยมที่ชวนให้นึกถึงบ้านบนเกาะริมทะเล “เป็นคนชอบทะเลมาก ชอบไปเที่ยวทะเล พอจะสร้างบ้านก็เลยอยากให้เหมือนรีสอร์ตริมทะเล จึงออกแบบให้เหมือนบ้านบนเกาะมิโคนอสที่เป็นสีขาวแล้วผนังบ้านเป็นคลื่นๆไม่เรียบเหมือนไม่ตั้งใจ ข้างในก็เปิดให้กว้างโล่ง เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เหมือนเวลาเราไปเที่ยว ทำให้รู้สึกเหมือนเราได้ไปเที่ยวทุกวัน ในบ้านเย็นสบาย มีลมพัดผ่านตลอดทั้งวัน ถ้าช่วงฤดูหนาววันไหนที่อากาศเย็นมากๆเราก็เก็บฟืนมาจุดไฟผิง ชวนกันทำอะไรสนุกๆอย่างทำไข่ป่าม ทำข้าวจี่กินกัน เหมือนได้ไปเที่ยวบนดอยอีกด้วย”
บ้านที่อยู่กับธรรมชาติ เติมกิจกรรมต่างๆเข้าไป ทั้งเพื่อความสนุกและให้เด็กได้เรียนรู้ ไม่แปลกใจที่ตลอดเวลาที่เราอยู่ที่นั่นจะได้ยินเสียงหัวเราะสนุกสนานของน้องโอโซนกับการชี้ชวนพาไปดูต้นนั้นต้นนี้ในสวนตามสไตล์เด็กอารมณ์ดีที่มีธรรมชาติและประสบการณ์อีกมากมายรอให้เขาได้เรียนรู้
ในอนาคตคุณเจ๋งอยากให้ “สวนในศีล” เป็นพื้นที่ที่ช่วยถ่ายทอดส่งต่อแรงบันดาลใจในเรื่อง “เกษตรแบบง่ายๆ ไม่มีทฤษฎีแต่ได้ผลดี” เปิดให้เด็กๆและครอบครัวเข้ามาเรียนรู้ธรรมชาติ สอนให้เด็กๆได้รู้ว่ามีเรื่องสนุกกับธรรมชาติอีกมากที่จะได้เรียนรู้ เริ่มต้นจากการแบ่งปันความรู้เชิงเกษตรแบบง่ายๆผ่านทาง เพจสวนในศีล
เรื่อง : jOhe เกษตรในเมือง
ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม
สไตล์ : วรวัฒน์ ตุลยทิพย์
สวนครัวดาดฟ้า และวิธีการเตรียมพื้นที่สำหรับทำสวนครัวดาดฟ้า