ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 หลายโรงแรมได้รับผลกระทบอย่างหนัก สวนพฤกษศาสตร์ทวีชลและโรงแรม Horizon Village Resort เชียงใหม่ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่นั้นก็นำไปสู่การค้นพบอีกหนึ่งธุรกิจใหม่ที่กำลังช่วยธุรกิจโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่นั้นคือ การเพาะขายต้นไม้ในสวน
เรามีโอกาสได้พูดคุยกับคุณออมสิน-นันทนิตย์ เสสะเวช รองกรรมการผู้จัดการ โรงแรม Horizon Village Resort เชียงใหม่ โรงแรมในเครือและอยู่ในพื้นที่ของสวนพฤกษศาสตร์ทวีชลได้เริ่มเล่าถึงที่มาของสวนแห่งนี้คร่าวๆว่า
“คุณพ่อ(คุณทวีศักดิ์ เสสะเวช) ตอนที่ท่านดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ท่านได้ใช้พื้นที่บริเวณนี้เพื่อทดลองปลูกและเลี้ยงสัตว์เพราะจะได้เข้าใจปัญหาของเกษตรกรจริงๆ ขณะเดียวกันท่านก็เริ่มสะสมพรรณไม้ทั้งในประเทศและต่างประเทศระหว่างที่มีโอกาสได้ไปทำงานยังประเทศต่างๆมาเรื่อยและหลังเกษียรจึงเปิดเป็นสวนพฤกษาศาสตร์ในที่สุด แล้วก็ขยายเป็นธุรกิจโรงแรมต่อมาถึงแม้จะเป็นสวนพฤกษศาสตร์เอกชนที่เก็บค่าเข้าชม แต่ก็ต้องยอมรับว่ารายได้จริงๆมาจากตัวโรงแรมเป็นหลัก แต่ช่วงวิกฤตโควิด-19ที่ผ่านมาไม่มีธุรกิจตัวไหนสามารถช่วยอุ้มกันได้เลย เราเลยเกิดอีกธุรกิจหนึ่งคือธุรกิจเพาะพันธุ์และจำหน่ายขายต้นไม้ในที่สุด”
ด้วยตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 20 ปีที่คุณทวีศักดิ์ เสสะเวชเริ่มต้นสะสมพรรณไม้และขยายพันธุ์ต่อมาเรื่อยๆทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยพรรณไม้หลายพันชนิด ไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ตระกูลปาล์ม ต้นไม้ตระกูลปรง ต้นไม้ทนแล้งเช่น กระบองเพชรและไม้อวบน้ำต่างๆ ต้นไม้ไม้ดอก เช่น กุหลาบ กล้วยไม้ ชวนชม เฟื่องฟ้า โป๊ยเซียน หน้าวัว เฮลิโคเนีย ดาหลา ขิงแดง ต้นไม้ตระกูลสับปะรดสี และต้นไม้ใบชนิดต่างๆ เช่น อโกลนีมา ฟิโลเดนดรอน โกสน เฟินชนิดต่างๆ ที่ตกแต่งอยู่ตามจุดต่างๆ บางชนิดก็เป็นต้นไม้ที่ปัจจุบันหาได้ยากในท้องตลาด แต่กระนั้นการเพาะพันธุ์ก่อนหน้านี้ก็ทำเพียงเพื่อใช้ตกแต่งภายในสวนพฤกษศาสตร์ทวีชลและโรงแรม Horizon Village Resort เชียงใหม่เท่านั้น
จนกระทั้งช่วงเริ่มแรกของวิกฤตโควิด-19 เริ่มมีการปล่อยข่าวลื่อที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าต้นฟ้าทะลายโจรสามารถรักษาและสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19ได้ ก็เริ่มมีคนมาที่สวนสมุนไพรเพื่อนำเอาต้นฟ้าทะลายโจรไปใช้ ประกอบกับกระแสการซื้อขายไม้ใบเพื่อนำมาแต่งบ้านเริ่มมีมากขึ้น คุณออมสินจึงลองนำต้นไม้ที่เพาะในเนอสเซอรี่ออกมาโพสขายในเฟซบุ๊ค ปรากฎว่าขายดีมาก อย่างต้นมอนสเตร่าไจแอนด์ด่างซึ่งเดิมปล่อยให้ขึ้นตามต้นไม้และนำมาเพาะขายในราคา 20000 บาทก็ยังมีคนต้องการและขับมาซื้อด้วยตนเอง บางคนก็ขับรถเข้ามาแอบอ้างเป็นคนในสวนแล้วบุกเข้ามาเอาต้นไม้ถึงในบริเวณเนอสเซอรี่ ทำให้คุณออมสินตัดสินใจจัดสรรพื้นที่เนอสเซอรี่ใหม่ให้เป็นสัดส่วน และเปิดจุดจำหน่ายต้นไม้ไว้ในบริเวณด้านหน้าสวนทวีชล รวมถึงจัดตั้งเฟสบุ๊คเพจ “สวนทวีชลขายต้นไม้ทุกชนิด” สำหรับสั่งซื้อต้นไม้ออนไลน์พร้อมจัดส่งทั่วประเทศได้อีกช่องทางหนึ่ง
การเพาะต้นไม้จากต้นแม่พันธุ์
แม้ที่นี่จะเพาะเลี้ยงและจัดจำหน่ายต้นไม้หลายชนิด แต่ต้นไม้ที่ขายดีและมีความต้องการในท้องตลาดอยู่เสมอคงหนีไม่พ้นต้นไม้ใบและไม้อวบน้ำอย่างแคคตัส ซึ่งมีวิธีการเพาะและขยายพันธุ์ดังต่อไปนี้
ต้นไม้ใบจะใช้วิธีการปักชำและแยกหน่อเป็นหลัก โดยเลือกตัดกิ่งบริเวณยอดหรือลำต้นที่แข็งแรง หากมีรากเริ่มเดินแล้วควรทำการแยกหน่อที่รากเดินแล้วไปปลูก จากนั้นนำไปแช่น้ำหรือปักชำในภาชนะที่มีวัสดุเตรียมพร้อมไว้แล้ว โดยทั่วไปก็มักจะเป็นวัสดุที่ระบายน้ำง่ายแต่ก็เก็บความชื่นได้ดีอย่างขุยมะพร้าวสับ ขี้เถ้าแกลบและปุ๋ยหมักในสัดส่วนเท่ากัน ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอทุกเดือน
สำหรับต้นไม้อวบน้ำประเภทแคคตัสจะใช้วิธีแยกหน่อกับเพาะเมล็ด การแยกหน่อจะแยกจากหน่อที่สมบูรณ์ของกอแคคตัสหรือไม้อวบน้ำประเภทอื่น โดยใช้คีมบิดออกและนำมาผึ่งไว้ 2-3 วัน จากนั้นจึงมาเพาะโดยทาน้ำยาเร่งรากที่บริเวณรากหรือส่วนที่ตัด แล้วก็นำมาเพาะเลี้ยงในวัสดุปลูกที่ผสมด้วยถ่าน ขี้เถ้าแกลบ ขุยมะพร้าว และทรายในอัตราส่วนเท่ากัน โรยด้วยปุ๋ยละลายช้า
ส่วนการเพาะเมล็ดจะต้องคอยสังเกตช่วงที่ต้นติดฝักให้ดี ซึ่งต้องเก็บเมล็ดจากฝักที่กำลังจะแตกในทุกเช้าก่อนที่จะมันแตกและปลิวไปตามลมอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงค่อยๆแยกเมล็ดมาเพาะในถาดเพาะเมล็ดที่ใช้พีสมอสเป็นวัสดุปลูก บางตัวต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆกว่าจะเริ่มแตกเป็นต้นอ่อน
เพาะอย่างไรให้ทันขายและความต้องการลูกค้า
“เราต้องไม่ตามกระแส เพราะเราต้องเก็บส่วนหนึ่งไว้ทำพันธุ์ ในคลังของเรามีต้นไม้เท่าไหร่ 30 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนทั้งหมดจะต้องถูกเก็บไว้สำหรับเพาะและขยายพันธุ์ต่อ” คุณออมสินเล่า
ต้นไม้ที่จัดจำหน่ายจะเตรียมการไว้แล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือน เตรียมเพาะต้นไม้ในวันนี้ต้องเตรียมไปถึงต้นไม้ที่จะขายในอีก 2 เดือนข้างหน้า เช่นในวันนี้เราเตรียมไม้ฟอกอากาศเช่นลิ้นมังกร ว่านงาช้าง มอนสเตร่าและเดหลีเพื่อรับกับช่วงที่อากาศในเชียงใหม่ไม่ดี สิ่งสำคัญต้องดูแลต้นไม้แม่พันธุ์ที่อยู่ในสวนพฤกษศาสตร์ให้แข็งแรงและเจริญเติบโตได้ดีอยู่เสมอโดยเฉพาะเหล่าแคคตัสและไม้อวบน้ำที่ไม่ใช่ต้นไม้พื้นถิ่นของประเทศไทย ซึ่งปลูกอยู่ในกระโจมที่คลุมด้วยหลังคาพลาสติกโปร่งแสงเพื่อป้องกันฝนและความชื้น
“ก่อนทำกระโจมเราต้องนำวัสดุปลูกที่เป็นดินออก จากนั้นจึงใช้ทรายผสมขี้เถ้าแกลบจากโรงสีและปุ๋ยหมักเป็นวัสดุปลูกทดแทน ทุก 5 ปีก็เปลี่ยนวัสดุปลูกทีหนึ่ง ใส่ปุ๋ยละลายนช้าทุก 3 เดือนพร้อมยาป้องกันเชื้อราและเพลี้ย รดน้ำทุก 3-5 วันครั้ง แต่ต้องดูความชื้นในดินอยู่เสมอก่อนไม่ให้แฉะ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน” คุณตี๋-ธรรมนูญ ศรีสุวรรณ ผู้จัดการสวนพฤกษศาสตร์ทวีชลเล่า
การจัดส่งต้นไม้ทั่วไทย
หลังจากที่ลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ทางสวนทวีชลจะทำการเตรียมแพ็คเพื่อจัดส่งต้นไม้ทางไปรษณีย์ไปยังบ้านลูกค้าตามที่อยู่ที่ได้รับมา สำหรับไม้ใบและไม้ทั่วไปจะทำการหยุดรดน้ำที่กระถางอย่างน้อย 1 วัน ให้แห้งที่สุดก่อน
1.ทำการล้างรากและพันบริเวณรากเป็นตุ้มด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ และนำพลาสติกห่อ สำหรับแคคตัสที่หนามอาจเสียหายได้ง่ายจะทำการห่อด้วยผ้ากระสอบชั้นแรกและกระดาษทิชชูอีกชั้น โดยจะไม่ส่งไปทั้งกระถาง ต้นไม้ ยกเว้นต้นไม้ที่มีกระถางขนาดเล็กน้ำหนักไม่มาก
2.จากนั้นเลือกกล่องที่มีขนาดพอดีกับต้นไม้ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ต้องมีระยะพอให้สามารถยัดบับเบิ้ลรอบต้นไม้อีกชั้นหนึ่ง สังเกตว่าหากคว่ำกล่องแล้วต้นไม้ยังอยู่ในกล่องได้ไม่ขยับหรือมีเศษดินร่วงลงมาถือว่าใช้ได้
3.ในการนำไปฝากส่งกับบริษัทส่งวัสดุภัณฑ์ต้องเลือกบริษัทที่ไว้ใจได้ พร้อมทำการกำชับและเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรถึงของภายใน หากของได้รับความเสียหายถือว่าเป็นความผิดของบริษัทจัดส่งที่ต้องรับผิดชอบ ต้นไม้บางชนิดอย่างไม้ใบที่มีความชื้นสูงบริษัทบางที่อาจไม่รับจัดส่ง
สำหรับไม้ใบหรือต้นไม้ที่เปราะบางและใบสามารถเสียหายได้ง่ายทางสวนทวีชลจะให้ลูกค้าเป็นคนมารับด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรือความเสียหายระหว่างการขนส่ง
อยากฝากอะไรกับผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มหันมาทำธุรกิจจำหน่ายพรรณไม้
“อย่าปลูกตามกระแสแต่ต้องใส่ใจเขาด้วย ไม่งั้นเขาก็จะตาย อย่างแคคตัสและไม้ใบเราต้องมีเวลาดูแล ไม่ให้ทรงยืดและไม่สวย สินค้าต้องมีคุณภาพถึงมือลูกค้าเหมือนในรูปที่เราโฆษณา อย่าขายต้นไม้ทั้งๆที่ยังไม่มีราก ต้นที่พึ่งชำใหม่ต้องแยกว่าต้นไหนรากเดินดีแล้วจึงขายได้และหากรากยังอ่อนเกินไปก็ยังขายไม่ได้ คนที่ซื้อไปแล้วหากมันเจริญเติบโตได้ดี เขาก็จะยิ่งมีกำลังใจกลับมาซื้อต้นไม้ต้นใหม่ ลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่รู้วิธีการดูแลที่พอเหมาะดังนั้นพอซื้อไปก็อาจเลี้ยงตายได้ง่าย ดังนั้นเราที่เป็นผู้จำหน่ายและมีประสบการณ์ในการปลูกมาก่อนต้องให้คำแนะนำกับลูกค้าอย่างละเอียดและถี่ถ้วน ว่าจะเอาไปตั้งอย่างไร เราก็จะช่วยหาสภาวะที่เหมาะสมในการตั้ง สำหรับคนที่เริ่มปลูกก็อยากให้เอาใจใส่ ยังไงก็ไม่ตายแน่นอน” คุณออมสินเล่า
ในวิกฤตที่ไม่มีสิ่งใดแน่นอนของสวนทวีชล และโรงแรม Horizon Village Resort เชียงใหม่ ยังคงหาช่องทางในการแปลงสินทรัพย์ที่มีคือต้นไม้ให้เป็นเงินเพื่อเลี้ยงธุรกิจและพนักงานที่เป็นคนในชุมชนรอบๆให้อยู่ได้ ต้นไม้สมุนไพรต่างๆที่ปลูกเพื่อให้ความรู้ในสวนสมุนไพรเริ่มนำมาทำเป็นเบอเกอรี่ที่มีรสชาติเฉพาะตัวและสรรพคุณเป็นยารักษา ต้นไม่ในโรงเรือนนำเอามาขยายพันธุ์และจำหน่าย ที่ดินเปล่านำมาให้พนักงานปลูกผักไว้บริโภคและจำหน่ายให้กับโรงแรมและร้านอาหารเป็นอีกช่องทางรายได้หนึ่ง ไม่เว้นแม้แต่เศษกิงไม้และขยะมูลฝอยยังนำมาหมักเพื่อผลิตเป็นปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอมคุณภาพดีอีก คุณออมสินทิ้งท้ายว่า
“เราจะต้องทำให้สวนยั่งยืนได้ด้วยตัวเอง สิ่งสำคัญคือนำผลผลิตที่มีมาแปรรูปและสร้างผลผลิตใหม่จากวัตถุดิบที่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่ เพื่อเป็นรายได้ที่สามารถมาช่วยธุรกิจอื่นได้ ช่วยให้ชุมชนและพนักงานของเราก็ยังพอมีรายได้เพิ่มจากการขายผลผลิตไว้กินไว้ใช้ในช่วงที่ยากลำบากนี้”
สถานที่ : สวนพฤกษศาสตร์ทวีชล เชียงใหม่ เลขที่ 118 หมู่ที่ 7 เชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 0-5329-2381-5 และ 08-1443- 9499
www.tweecholbotanicgarden.com
https://www.facebook.com/tweecholandthetrees
เรื่อง : ปัญชัช
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข