พักผ่อนตลอด 365 วัน ในบ้านชั้นเดียวกลิ่นอายชนบท อยู่สบาย ผ่อนคลายทุกเวลา
บ้านไทยสไตล์รีสอร์ทที่บริเวณรอบๆเป็นทุ่งนาโล่งเปิดรับลมได้เต็มที่ เหมาะกับการออกแบบเป็นบ้านที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ห่างไกลจากสังคมที่วุ่นวาย ดังที่เจ้าของบ้านต้องการ
บ้านชั้นเดียวบรรยากาศรีสอร์ท
สถาปนิก : คุณคเณศวร์ ไชยนาพงษ์ / ตกแต่ง : คุณจุฑามณี พิพิธปิยะปกรณ์ ไกรคุณาศัย / เจ้าของ : คุณเศรษฐพล ไกรคุณาศัย – คุณจุฑามณี พิพิธปิยะปกรณ์ ไกรคุณาศัย
หลังจากต้องเจอกับงานหนักมาตลอดทั้งวัน การได้กลับมาพักผ่อนในบ้านที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ น่าจะเป็นความสุขอย่างหนึ่งของคนเรา หลายคนจึงพยายามหาโอกาสสร้างบ้านบนทำเลที่ตัวเองชื่นชอบ เพื่อให้ทุกนาทีที่อยู่บ้านเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข
คุณเศรษฐพล ไกรคุณาศัย และคุณจุฑามณี พิพิธปิยะปกรณ์ ไกรคุณาศัย ก็เป็นผู้หนึ่งที่เคยมีบ้านอยู่ในสถานที่ทำงาน จึงทำให้ทั้งคู่รู้สึกเหมือนต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีโอกาสสร้างบ้านใหม่ สิ่งแรกที่เจ้าของบ้านทั้งสองทำก็คือ ตระเวนหาทำเลบ้านที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ห่างไกลจากสังคมที่วุ่นวาย จนพบที่ดินที่ถูกใจแถบชนบทของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ และแวดล้อมด้วยทุ่งนาอันเงียบสงบ เพื่อสามารถสูดกลิ่นอายแห่งพืชพรรณของรวงข้าวที่ตนเองชอบได้อย่างเต็มที่ จากความตั้งใจที่จะให้บ้านหลังใหม่แตกต่างจากบ้านตึกหลังเดิมที่เคยอยู่ ทั้งสองจึงตัดสินใจสร้างบ้านไทยสไตล์รีสอร์ทตรงตามความต้องการ
คุณคเณศวร์ ไชยนาพงษ์ สถาปนิกผู้รับหน้าที่ออกแบบบ้านหลังนี้เล่าให้เราฟังว่า “ครั้งแรกที่มาดูที่ดินกับเจ้าของบ้าน ก็คิดว่าที่นี่เป็นทำเลสร้างบ้านที่ดีมากครับ เพราะบริเวณรอบๆเป็นทุ่งนาโล่งเปิดรับลมธรรมชาติได้เต็มที่ เหมาะกับการออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทอย่างที่เจ้าของบ้านต้องการ อีกทั้งยังมีต้นไม้ใหญ่หลายต้นขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ไม่ต้องซื้อต้นไม้ใหม่มาปลูก ถ้าจะมีปัญหาก็แค่บริเวณนี้เป็นที่ลุ่มน้ำขังเท่านั้นครับ
“ขั้นแรกของการออกแบบผมจึงเน้นเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วมก่อน โดยใช้วิธีขุดดินบางส่วนในบริเวณบ้านมาถมตรงตำแหน่งที่จะปลูกบ้านแทนการซื้อดินจากที่อื่นมาถม เพื่อช่วยเจ้าของบ้านประหยัดค่าใช้จ่าย ลักษณะของที่ดินจึงเป็นเหมือนเกาะที่มีบ่อน้ำล้อมรอบ ซึ่งบ่อน้ำนี้ยังช่วยในเรื่องความปลอดภัยด้วยครับ”
แนวคิดในการออกแบบบ้าน
“เจ้าของบ้านต้องการบ้านพักผ่อนสไตล์รีสอร์ท และต้องการเก็บต้นไม้ใหญ่ไว้ให้มากที่สุด ซึ่งสมาชิกภายในครอบครัวประกอบด้วย สามี ภรรยา และคุณแม่ของสามี ผมจึงออกแบบบ้านเป็น 2 หลัง คือ เรือนของครอบครัวเจ้าของบ้าน และเรือนของคุณแม่เจ้าของบ้าน โดยมีสระว่ายน้ำกั้นกลางระหว่างเรือนทั้งสอง เพื่อให้เรือนแต่ละหลังมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด อีกทั้งการกระจายตัวบ้านยังช่วยให้หลบตำแหน่งของต้นไม้ใหญ่เดิมที่ขึ้นอยู่บนที่ดินได้ง่ายด้วย”
ส่วนรูปแบบของบ้าน
“ผมพยายามนำคาแร็กเตอร์ของบ้านไทย และวัสดุที่ให้กลิ่นอายชนบทมาใช้ให้มากที่สุด เพื่อให้บ้านกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม เพราะนี่เป็นหัวใจหลักในการออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทครับ
“ฟังก์ชันการใช้งานของเรือนทั้งสองค่อนข้างใกล้เคียงกัน คือ มีห้องนอนเพียงหลังละ 1 ห้อง ขนาดพื้นที่ใช้สอยจึงไม่ต่างกันมากนัก การสร้างลำดับความสำคัญให้หน้าตาของเรือนทั้ง 2 หลังดูแตกต่างกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการออกแบบบ้านด้วย”
คุณคเณศวร์ได้นำลักษณะของอาคารไทย 2 แบบมาใช้ออกแบบ เพื่อสร้างความแตกต่างให้เรือนทั้ง 2 หลัง โดยเรือนหลังเล็กของคุณแม่ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายบ้านชนบทริมน้ำ สัดส่วน ขนาด และองค์ประกอบของบ้านจึงเหมือนบ้านชาวนาไทยภาคกลางทั่วไป ส่วนเรือนอีกหลังสถาปนิกเลือกเอาคาแร็กเตอร์แบบอาคารสาธารณะซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ามาประยุกต์แทน
สำหรับงานตกแต่งภายใน
“ส่วนใหญ่ผมจะออกแบบให้วัสดุ และโครงสร้างบ้านเป็นส่วนเดียวกับงานตกแต่งภายในเลย เช่น ฝ้าเพดานเปิดโล่งโชว์โครงสร้างหลังคา หรือใช้สีผนังคอนกรีตขัดมันเป็นผนังตกแต่งบ้านไปในตัว และงานเฟอร์นิเจอร์ไม้บิลท์อินภายในก็ออกแบบให้เป็นส่วนเดียวกับผนังไม้ภายนอก เพื่อประหยัดค่าโครงสร้าง และสร้างความกลมกลืนระหว่างภายนอกกับภายในบ้าน อีกทั้งช่องว่างภายในตู้จะเป็นฉนวนกันความร้อนไปในตัวด้วยครับ
“สำหรับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวก็จะเลือกแบบทรอปิคัลซึ่งใช้วัสดุธรรมชาติ เจ้าของบ้านเป็นคนจัดการเองทั้งหมด โดยผมจะคอยให้คำปรึกษาว่าเฟอร์นิเจอร์แบบไหนจึงจะเข้ากับบ้านสไตล์รีสอร์ทครับ”
บรรยากาศอันร่มรื่นใต้เงาไม้ใหญ่ และธรรมชาติสะอาดๆของชนบทในสวรรค์บ้านทุ่งหลังนี้ น่าจะช่วยให้เจ้าของบ้านได้พักผ่อนอย่างที่ตั้งใจไว้ไม่ยากเลยครับ บ้านชั้นเดียวบรรยากาศรีสอร์ท
บ้านสไตล์รีสอร์ทในมุมมองของคุณคเณศวร์ ไชยนาพงษ์ ผู้ออกแบบบ้านหลังนี้
“ผมคิดว่าการออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทน่าจะมีปัจจัยหลักๆอยู่ 3 ข้อด้วยกัน
อย่างแรก คือ บ้านต้องอยู่สบาย ผู้อาศัยต้องรู้สึกผ่อนคลายตลอดเวลา
สอง คือ ควรเลือกวัสดุที่ดูกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด อย่าไปคิดว่าจะต้องใช้วัสดุหรูหรา ควรเลี่ยงวัสดุที่ดูเป็นอุตสาหกรรมเกินไป เนื่องจากจะทำลายบรรยากาศในการพักผ่อน และให้ความรู้สึกไม่ต่างจากบ้านในเมือง อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงเรื่องแสงสว่างภายในบ้านด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าบ้านต้องมีแสงสว่างมากนะครับ แต่ควรจะมีความสว่างพอเหมาะไม่จ้าหรือมืดจนเกินไป รวมถึงการระบายอากาศภายในบ้านต้องสามารถรับลมธรรมชาติได้ดีด้วย แม้จะติดเครื่องปรับอากาศก็ตาม
สุดท้ายที่คิดว่าสำคัญที่สุดก็คือ ธรรมชาติ โดยเฉพาะธรรมชาติรอบบ้านที่มีอยู่เดิม หากเป็นไปได้ควรเก็บรักษาไว้ให้มากที่สุด เพราะธรรมชาติของเดิมย่อมดีกว่าต้นไม้ใหม่ที่เราเอามาปลูกภายหลัง
บ้านสไตล์นี้จำต้องสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติบริเวณนั้นด้วย ซึ่งเจ้าของบ้านควรยอมรับและพยายามทำตัวกลับไปสู่ธรรมชาติ อย่ากลัวฟ้า กลัวฝน แล้วเราจะสามารถอยู่บ้านสไตล์รีสอร์ทได้อย่างมีความสุข”
เรื่อง : ศราวุธ จินตชาติ
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข
นิตยสารบ้านและสวนฉบับพฤศจิกายน 2548