“หมู่บ้านวันเดอร์” โดย วันเดอร์ฟรุ๊ต ความมหัศจรรย์ครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้วที่ เดอะฟิลด์ส แอท สยามคันทรีคลับ พัทยา
ชุมชนแห่งการเฉลิมฉลองศิลปะ วัฒนธรรม และวิถียั่งยืน 4-6, 11-13, 25-27 ธันวาคม 2563 และ 8-10, 15-17 มกราคม 2564
บริษัท สแครชท์ เฟิร์สท์ จำกัด ผู้สร้างสรรค์ วันเดอร์ฟรุ๊ต ไลฟ์สไตล์เฟสติวัลระดับโลกโดยคนไทย ได้ริเริ่มโปรเจกต์เฉพาะกิจขึ้นมาในระหว่างที่เลื่อนจัดงานวันเดอร์ฟรุ๊ตไปในปี 2564 โดยจัดในรูปแบบเฟสติวัลขนาดย่อมในชื่อว่า “หมู่บ้านวันเดอร์” เปิดต้อนรับผู้มาเยือนทุกกลุ่มวัยและทุกไลฟ์สไตล์ให้ได้มาร่วมเฉลิมฉลองกันที่ เดอะฟิลด์ส แอท สยามคันทรีคลับ พัทยา พื้นที่เดิมที่ใช้จัดงานวันเดอร์ฟรุ๊ต หมู่บ้านวันเดอร์จะเกิดขึ้นทั้งหมด 5 รอบในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของเดือนธันวาคม 2563 และ มกราคม 2564 โดยเนื้อหาที่เกิดขึ้นในงานจะเป็นการนำภูมิปัญญา คุณค่า และเอกลักษณ์ความเป็นไทยท้องถิ่นมาประยุกต์เข้ากับกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นขึ้นมาให้ผู้มาเยือนได้มาร่วมสนุกกันในงาน ในราคาบัตรที่เข้าถึงได้ทุกกลุ่มวัย เริ่มต้นที่ 690 บาท สำหรับบัตรรายวัน และ 2,190 บาท สำหรับบัตรสุดสัปดาห์
แต่ละสัปดาห์มีไลน์อัพกิจกรรมที่ไม่ซ้ำกัน ประกอบไปด้วยการแสดงดนตรีและดีเจกว่า 200 รายการ เวิร์คช็อปกว่า 40 กิจกรรม ร้านค้าอาหารและเครื่องดื่ม 40 กว่าร้าน และร้านสินค้าไทยดีไซน์กว่า 80 ร้านด้วยกัน สำหรับความบันเทิงในสัปดาห์แรก (4-6 ธันวาคม) ได้แก่ DOTT, Hugo, Sarayu, Sunju Hargun, Supersonic, Twopee Southside และ Yellow Fang สำหรับสัปดาห์ที่ 2 (11-13 ธันวาคม) เดอะฟิลด์ส จะเปิดเวทีต้อนรับ บุรินทร์, ลูกทุ่งทรีโอ้ กับ สิงโต นำโชค, Sabai Sabai Radio, เดอะจั๊กส์, Transport และโชว์ไลฟ์สตรีมมิ่งจากนิวยอร์กโดย Colleen ‘Cosmo’ Murphy และสัปดาห์ที่ 3 ของงาน (25-27 ธันวาคม) ไปสนุกกับ Greasy Cafe, H3F, Isaac Aesili, Noxnoi และ Trojan Sound System ที่จะไลฟ์สตรีมมิ่งมาจากลอนดอน นอกจากนี้ตลอดทั้งสามสัปดาห์ หมู่บ้านวันเดอร์จะเปิดเวทีนอกโรงละครให้กับโชว์สุดอลังการของเหล่าสาวงามจาก ทิฟฟานี่โชว์ คณะคาบาเรต์โชว์ที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียจากเมืองพัทยา ในส่วนของงานศิลปะและโครงสร้างอินสตอลเลชัน มีนักออกแบบและสถาปนิกมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานน่าสนใจมากมายทั้ง สาธิต รักษาศรี, Eric Tobua, PO-D Architects, Sanitas Studio และ Bangkok Project Studio
หมู่บ้านวันเดอร์ต้อนรับทั้งเด็กและครอบครัวด้วยกิจกรรมกลางแจ้งและเวิร์คช็อปมากมายที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เด็กจะได้ออกผจญภัยโลกกว้างและใช้ความคิดสร้างสรรค์เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติแวดล้อม ทีมจาก Little Fields ได้ออกแบบกิจกรรมที่เด็กและผู้ปกครองจะได้ใช้เวลาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเวิร์คช็อปงานเพนต์เซรามิค ทำปุ๋ยอินทรีย์ ย้อมผ้าสีธรรมชาติ วาดภาพระบายสี เพาะพันธุ์พืช ทำอาหาร ไปจนถึงประดิษฐ์งานฝีมือจากวัสดุเหลือใช้
ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม Fruitfull แพลตฟอร์มน้องใหม่จากทีมผู้สร้างวันเดอร์ฟรุ๊ต หลังจากประสบความสำเร็จจากการจัดอีเวนต์อาหารครั้งแรกที่พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน จะมาพร้อมกับโปรเจกต์ป๊อปอัพ Fruitfull Presents: Mae Oui Ama กับการปรับโฉม Theatre Stage โดย Mpd Studio ให้เป็นคาเฟ่ริมน้ำบรรยากาศผ่อนคลาย ควบคุมการผลิตโดยเชฟปริญญ์และมิ้นต์ สองหัวเรือใหญ่ของร้านสำรับสำหรับไทย ที่จะมาพร้อมเมนูอาหารจานเดียวจากสูตรอาหารไทยเหนือที่ได้อิทธิพลจากล้านนา มอญ พม่า และจีนยูนนาน ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาอาหารที่ตกทอดมาจากแม่อุ้ยของเชฟปริญญ์ ผสมผสานกับอาหารจีนแต้จิ๋วและวัฒนธรรมการกินของชาวจีนโพ้นทะเลที่สืบทอดจากก้นครัวอาม่าของมิ้นต์
เดินเล่นเพลิดเพลินท่ามกลางทัศนียภาพของเดอะฟิลด์ที่ตกแต่งใหม่ให้เขียวสดชื่น พร้อมทุ่งดอกไม้ และฟาร์มเกษตรสาธิต และงานศิลปะที่จัดวางตามจุดต่างๆ ร่วมชมซาวด์อินสตอลเลชัน Sonic Elements โดย Musicity Studio ที่ให้ผู้ชมเข้าไปรับรู้ถึงธาตุทั้งดิน น้ำ อากาศ และโลหะ ผ่านการใช้ประสาทสัมผัส ผลงานจากการร่วมงานระหว่างศิลปินนานาชาติ และนักบันทึกเสียงสนามมืออาชีพและสมัครเล่นที่สมัครเข้ามาร่วมโครงการ นอกจากนี้ยังมีการจัดฉายแอนิเมชั่น Wild Card Show สร้างสรรค์โดย Fossick Project กระตุ้นจิตสำนึกปกป้องสัตว์ป่าใกล้สูญพันธ์ุที่ถูกล่าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ
การจัดงานหมู่บ้านวันเดอร์ยังคงยึดแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนสืบเนื่องจากงานวันเดอร์ฟรุ๊ต โดยตั้งเป้าหมายลดขยะต้นทางให้เหลือส่งไปทิ้งอย่างไร้ค่าที่หลุมฝังกลบให้น้อยที่สุด (zero landfill) ด้วยเหตุนี้จึงมีการบังคับใช้ข้อปฏิบัติต่างๆ อย่างเคร่งครัดในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว เช่น การงดเว้นการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้งโดยเด็ดขาด การแยกถังขยะทิ้งงานเพื่อให้ง่ายต่อการบำบัดและจัดการต่อตามแต่ละประเภท การใช้ภาชนะและบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ รวมถึงการย่อยสลายวัตถุอินทรีย์เหล่านี้ที่โซนจัดการขยะในบริเวณงาน นอกจากนี้ยังคำนวณการใช้พลังงานในแต่ละจุดและวางแผนจัดการการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงกำหนดเกณฑ์การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างชิ้นงานต่างๆ ที่มาจากแหล่งท้องถิ่น หรือเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนนำวัสดุเก่าที่เหลือใช้จากวันเดอร์ฟรุ๊ตมาใช้ซ้ำและดัดแปลงให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างสรรค์งานหมู่บ้านวันเดอร์
พีท-ประณิธาน พรประภา ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท สแครทช์ เฟิร์สท์ จำกัด ได้เล็งเห็นความเป็นไปได้ในการจัดงานหมู่บ้านวันเดอร์ครั้งนี้ว่า “สำหรับปีนี้ซึ่งพิเศษกว่าทุกปี ท่ามกลางเงื่อนไขต่างๆ ที่เราต้องเดินหน้าต่อพร้อมกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น เราได้ลองเปิดมุมมองใหม่และค้นหาความน่าสนใจจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวในประเทศ และพิจารณาว่าเราจะนำมาปรับใช้โดยส่งเสริมคุณค่าซึ่งกันและกันได้อย่างไร หมู่บ้านวันเดอร์จึงเกิดขึ้นด้วยความคิดและความรู้สึกที่ต้องการให้เราทุกคนมีกำลังใจก้าวข้ามปีนี้ไปให้ได้ และเชื่อมต่อถึงอีกครั้งกันเพื่อก้าวไปข้างหน้ากันต่อไป”
ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่จะเกิดขึ้นในช่วง 5 สุดสัปดาห์ของการจัดงาน หมู่บ้านวันเดอร์จะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ให้นักท่องเที่ยวได้มาเฉลิมฉลองกันในช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้า โดยจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2563 วันที่ 4-6, 11-13, 25-27 และเดือนมกราคม 2564 วันที่ 8-10 และ 15-17 บัตรเข้างานประเภทรายวัน ราคา 990 บาท (วันศุกร์) 1,290 บาท (วันเสาร์) 690 บาท (วันอาทิตย์) นอกจากนี้ยังมีบัตรประเภทสุดสัปดาห์ (ศุกร์-อาทิตย์) ราคา 2,190 บาท
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้างานได้ทาง www.wonderfruit.co/moobaanwonder
ติดตามหมู่บ้านวันเดอร์ได้ทาง