1 ห้องนอนกลางทุ่งนา ในบ้านชั้นเดียวสไตล์โคโลเนียล

บ้านพักผ่อนสไตล์โคโลเนียลที่มีเพียง 1 ห้องนอน 1ห้องนั่งเล่น โดยออกแบบให้พื้นห้องมีระดับต่างกัน เพื่อเป็นการแยกสัดส่วนแทนการทำกำแพง จึงได้ความรู้สึกเหมือนว่าทั้งบ้านมีห้องเดียว 

บ้านชั้นเดียวสไตล์โคโลเนียล

เจ้าของ-ออกแบบตกแต่ง : คุณสุริยา เสาร์หมื่น

บ้านชั้นเดียวอยู่สบาย
นอกเขตแนวรั้วคือทุ่งนาซึ่งมีสีสันต่างกันไปตามฤดูกาล แต่ที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยก็คือความโล่งและสายลมเย็นๆที่พัดผ่านตลอด

เมื่อถึงคราวต้องออกแบบบ้านของตัวเอง คุณสุริยา เสาร์หมื่น สถาปนิกลูกล้านนาโดยกำเนิด ผู้มีพื้นเพอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ กลับต้องคิดให้มากยิ่งกว่าการออกแบบให้ผู้อื่น  บ้านชั้นเดียวสไตล์โคโลเนียล

“หลายคนติดภาพว่าผมถนัดการออกแบบสไตล์ล้านนา เลยพลอยคิดว่าผมทำเป็นแต่สไตล์นี้เท่านั้น จริงๆแล้วนั่นเป็นเพียงโอกาสหนึ่งที่ทำให้เราได้ทำงานตรงนั้น และก็กลายเป็นเหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้ผมอยากจะเลี่ยงงานแบบนั้นเมื่อทำบ้านของตัวเอง ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่ผมอยากได้บ้านที่เป็นบ้านของผมเอง”

บ้านชั้นเดียว บ้านชั้นเดียวอยู่สบาย
ถนนด้านหน้าบ้านปูบล็อกซีเมนต์แบบมีรูโปร่งแล้วปล่อยให้หญ้าขึ้น ตัวบ้านมีรูปทรงคล้ายบ้านโคโลเนียลในแถบประเทศอินเดียตอนใต้และศรีลังกา ลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐฉาบปูนสีเหลืองที่ดูโดดเด่น ส่วนกรอบประตูหน้าต่างทาสีขาวเพื่อเน้นให้เห็นส่วนนี้ชัดๆ “ผนังนอกบ้านใช้สีฝุ่นสีเหลืองผสมกับปูนขาวแล้วก็ฉาบเลย ไม่ต้องทาสี ผมชอบที่มันดูกระดำกระด่างดี”
ทางเดิน
ทางเดินจากโรงรถ (หลังผนังเตี้ยสีเหลืองทางด้านขวาของภาพคือโรงรถ)ปูพื้นศิลาแลงตรงเข้าสู่หลังบ้าน มองผ่านซุ้มประตูออกไปคือทุ่งนาโล่ง ส่วนผนังเตี้ยสีขาวถัดจากโรงรถเป็นครัวแบบเปิด

นอกจากออกแบบบ้านให้ตัวเองแล้ว คุณสุริยายังต้องทำเผื่อเพื่อนอีกสามคนด้วย เพราะทั้งสี่คนร่วมกันซื้อที่ดินผืนหนึ่งกลางทุ่งนาในเขตอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และแบ่งสร้างเป็นบ้าน 4 หลัง อีกส่วนหนึ่งสร้างเป็นโรงแรมขนาดเล็กชื่อว่า “at Villa Sansai” โดยออกแบบสิ่งก่อสร้างทั้งหมดให้กลมกลืนกัน บ้านทั้งสี่หลังเป็นบ้านชั้นเดียว มีขนาดและรูปทรงภายนอกใกล้เคียงกัน ส่วนภายในจะแตกต่างกันไปตามบุคลิกของเจ้าของบ้านแต่ละคน

“ผมออกแบบบ้านหลังนี้โดยเริ่มต้นจากการคิดถึงพื้นที่ภายในก่อน เพราะมีประสบการณ์จากบ้านหลังเดิมที่กั้นแต่ละส่วนเป็นห้องเล็กๆ ทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่ในกล่อง ผมอยากให้พื้นที่เกือบทุกส่วนในบ้านหลังนี้เปิดถึงกัน ดังนั้นจึงออกแบบให้พื้นห้องมีระดับต่างกัน เพื่อเป็นการแยกสัดส่วนแทนการทำกำแพง จึงรู้สึกเหมือนว่าทั้งบ้านมีห้องเดียว”

มุมนั่งเล่น
มุมหนึ่งของส่วนนั่งเล่นก่อแท่นคอนกรีตแล้ววางเบาะกับหมอนอิงเป็นเสมือนโซฟาตัวใหญ่ “ตอนทำบ้านก็คิดอยู่ว่าด้านหลังที่นั่งจะทำอย่างไรดี บังเอิญไปเจอประตูไม้เก่าของจีนสี่บานซึ่งมีขนาดพอดีกับช่องนี้ ผมจึงทำเป็นบานเลื่อนเพื่อเปิดพื้นที่ให้ต่อเนื่องกับห้องนอน”
ชั้นวางของ
ตรงข้ามส่วนนั่งเล่นเป็นชั้นวางของและเครื่องเสียง โดยเว้นที่ว่างตรงกลางไว้ค่อนข้างกว้าง “เดิมทีผมไปเลือกหาไม้เก่ามาปูพื้น แต่พอผ่านไปสามเดือนไม้ก็โก่งตัวขึ้นมา จึงคิดจะเปลี่ยนเป็นพื้นปาร์เกต์ พอให้ช่างลองเรียงลายดูแล้ว ก็คิดว่าอย่าดีกว่า ในที่สุดก็เลือกกระเบื้องดินเผาแผ่นใหญ่มาปูพื้นแทน ซื้อในเชียงใหม่นี่แหละครับ”
ด้านข้างของส่วนนั่งเล่นก่อโต๊ะคอนกรีตเรียบๆจัดเป็นมุมทำงานขนานกับแนวประตู เนื่องจากตำแหน่งของบ้านอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ส่วนนี้จึงร่มทั้งวัน

บ้านหลังนี้มีทางเข้าสองด้าน ทางเข้าหลักอยู่ด้านหน้าออกแบบเป็นซุ้มประตูยื่นออกมาจากตัวบ้าน บานประตูเป็นไม้เก่าจากประเทศอินเดียแกะลายอย่างละเอียดลออ บริเวณนี้ยังทำม้านั่งปูนหล่อไว้ด้วย ส่วนทางเข้าอีกด้านเป็นทางเดินขนานกับโรงรถ ต้องเดินผ่านซุ้มประตูซึ่งมีลักษณะคล้ายซุ้มเรือนแก้ว ทางเข้านี้นำไปสู่ชานพื้นปูนด้านหลังบ้าน

ภายในบ้านแบ่งพื้นที่เป็นสองส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกเป็นส่วนนั่งเล่น โดยออกแบบให้ผนังด้านหนึ่งเป็นชั้นไม้โปร่ง สำหรับวางของและเครื่องเสียง ส่วนด้านตรงข้ามชั้นก่อแท่นคอนกรีตแล้ววางเบาะกับหมอนอิงใช้แทนโซฟานั่งเล่น ริมประตูชิดชานด้านหลังก่อโต๊ะคอนกรีต จัดเป็นมุมทำงาน

อีกส่วนหนึ่งคือห้องนอนอยู่ด้านหลังส่วนนั่งเล่น โดยมีผนังทึบเว้นช่องตรงกลางแต่งด้วยประตูบานเลื่อนไม้เก่าของจีนเป็นตัวกั้น แต่ปกติจะเปิดประตูไว้เพื่อความต่อเนื่องของพื้นที่ ภายในห้องนอนก่อเป็นแท่นขนาดใหญ่สำหรับวางฟูก ส่วนช่องหลืบที่แยกจากห้องนอนจัดเป็นส่วนแต่งตัวและห้องน้ำ ทั้งส่วนนั่งเล่นและห้องนอนมีช่องเปิดหลายช่อง เพื่อช่วยระบายอากาศและเปิดรับแสงสว่าง

ห้องนอน
ด้วยความเคยชินกับการนอนบนพื้น คุณสุริยาจึงออกแบบที่นอนเป็นแท่นขนาดใหญ่กรุหินอ่อนแล้ววางฟูก โดยหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก ซึ่งแสงอาทิตย์จะสาดเข้ามาในห้องเฉพาะช่วงบ่าย ด้านข้างเป็นประตูบานใหญ่ช่วยระบายอากาศให้ภายในห้องเย็นสบาย
อีกมุมหนึ่งของห้องนอนยังคงวางเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ได้จังหวะของการจัดวางที่สวยงาม บนผนังประดับภาพสเก็ตช์การออกแบบอาคารของคุณสุริยา
ห้องน้ำ
แม้ว่าห้องน้ำจะมีขนาดไม่ใหญ่โตนัก แต่เมื่อตกแต่งด้วยโทนสีขาว ประกอบกับด้านในทำเป็นประตูกระจกฝ้า ปล่อยให้แสงสว่างผ่านเข้ามาได้ ก็ทำให้ภาพรวมของห้องดูโปร่งยิ่งขึ้น แสงที่ส่องเข้ามายังทำให้ห้องน้ำแห้งสะอาดด้วย
ชานบ้าน
ชานทางเดินด้านหลังบ้านซึ่งจะต่อไปยังครัวและห้องน้ำมีแดดยามบ่ายส่องให้ได้ไออุ่น โดยได้ร่มเงาจากต้นลั่นทม
สวน
ด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดของบ้าน ปลูกต้นชบาเป็นแนวรั้ว
มุมนั่งเล่น
มุมเล็กๆหลังห้องครัว คุณสุริยาวางโต๊ะตัวเล็กกับเก้าอี้ไม้เก่าใช้เป็นมุมทำงาน

“ผมชอบให้ภายในบ้านดูกว้าง ไม่ชอบมีเฟอร์นิเจอร์มากเกินไป แล้วก็ไม่ชอบเครื่องปรับอากาศด้วย แม้จำเป็นต้องติดเผื่อไว้ แต่ปีหนึ่งผมใช้แค่ 2-3ครั้งเองครับ ผมพยายามทำบ้านให้อยู่สบายคือต้องมีแสงธรรมชาติเพียงพอขณะเดียวกันก็ทำประตูหน้าต่างไว้เยอะๆ รวมทั้งมีการป้องกันความร้อนที่หลังคาและผนังไว้ด้วย เพื่อให้บ้านเย็นสบายที่สุดครับ”  คุณสุริยากล่าวปิดท้าย


เรื่อง : จัตตริน

ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ

นิตยสารบ้านและสวนฉบับเมษายน 2551

บ้านชั้นเดียวล้อมสวน พร้อมมองเห็นวิวนาข้าว

บ้านชั้นเดียวกลางทุ่งที่เปิดรับธรรมชาติอย่างเต็มที่

Farmsup บ้านชั้นเดียวกลางทุ่งที่อยู่แบบพอเพียง

   บ้านชั้นเดียวอยู่สบาย