ในยุคที่โควิด – 19 ระบาด ออกไปไหนก็ลำบาก ไหนจะเศรษฐกิจฝืดเคือง การมีแหล่งอาหารในบ้านกลายเป็นสิ่งที่คนไทยเริ่มมองหา นอกจากการปลูกผักสวนครัวแล้ว การเลี้ยงไก่ไว้กินไข่ก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากไข่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี และวัตถุดิบคู่ครัวไทย อีกทั้งไก่บางสายพันธุ์เองก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักน่าเอ็นดู สร้างความเพลิดเพลินได้ไม่น้อย “เล้าไก่” จึงกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สามารถออกแบบให้ล้อรับไปกับดีไซน์ของบ้าน หรือเป็นส่วนหนึ่งของบ้านได้อย่างไม่ขัดเขินอีกต่อไป
เล้าไก่สวยๆ สามารถออกแบบได้ตามความต้องการของเจ้าของบ้าน แต่มีสิ่งหนึ่งที่อาจทำให้เจ้าของบ้านหลายคนกังวลใจ นั่นคือกลิ่นเหม็นของมูลไก่ แต่รู้หรือไม่การวางตำแหน่งเล้าไก่ในทิศที่เหมาะสม ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นได้
ตำแหน่งการสร้างเล้าไก่หรือโรงเรือนเลี้ยงไก่มีความสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อการออกไข่ของไก่ หากโรงเรือนตั้งอยู่ในทิศทางที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้เกิดการถ่ายเทอากาศ ลดอุณหภูมิ ลดความชื้น ลดปริมาณฝุ่นละออง ที่สำคัญคือลดกลิ่นได้ด้วย พื้นโรงเรือนไม่อับชื้นหรือเป็นที่สะสมของสิ่งสกปรก ไก่จะไม่เจ็บป่วยและออกไข่ได้ดี
การสร้างโรงเรือนควรตั้งตามแนวยาวทิศตะวันออก – ตะวันตก หากตั้งโรงเรือนขวางแสงอาทิตย์จะทำให้มีพื้นที่สำหรับให้ไก่หลบความร้อนจากแสงแดดได้น้อย ทำให้เสียเนื้อที่โดยเปล่าประโยชน์เมื่อแสงแดดส่องในตอนบ่าย ตัวโรงเรือนอาจตั้งเฉียงออกจากแนวทิศตะวันออก – ตะวันตกได้เล็กน้อย แต่ไม่ควรเกิน 7 องศาตามแนวทิศตะวันออกไปทางทิศใต้
ทริคเล็กๆ ที่ใช้ได้ผลในการดับกลิ่นมูลไก่คือการทำความสะอาดและเก็บมูลไก่ไปเป็นปุ๋ยให้พืชผัก หรือจะแก้ด้วยการใช้สาร EM โรยที่ฟางรองพื้นก็ช่วยลดกลิ่นได้ดีเช่นกัน
เรามีตัวอย่างบ้านน่าอยู่ที่ออกแบบให้มี เล้าไก่สวยๆ อยู่ภายในบริเวณบ้าน มาให้ชมเป็นไอเดียกัน ดังนี้
บ้านไร่ไออรุณ … เพราะความฝัน ไม่มีวันหยุด
เจ้าของ – ออกแบบ: คุณวิโรจน์ ฉิมมี
บ้านไร่ไออรุณเป็นฟาร์มสเตย์แสนอบอุ่นในจังหวัดระนอง ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับวิถีธรรมชาติ เรียนรู้ความเรียบง่ายของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสวนผลไม้ เเปลงผัก หรือธารน้ำ รวมถึงมีบ้านพักที่สร้างจากไม้ ร้านอาหารพื้นเมืองฝีมือของชาวบ้านในชุมชน ร้านขายสินค้าเกษตรและของที่ระลึก ล่าสุดได้ต่อเติมขยายพื้นที่เพื่อสร้างเล้าไก่ดีไซน์สมัยใหม่ สำหรับเลี้ยงไก่ไข่และไก่สวยงามเข้าไปด้วย โดยเลี้ยงไก่พันธุ์สำหรับเก็บไข่ไก่ เลี้ยงไก่แจ้ไว้สร้างความเพลิดเพลิน และใช้มูลไก่เป็นปุ๋ยให้แปลงผักอินทรีย์ในฟาร์มสเตย์ด้วย >> อ่านต่อ
สวนในศีล…เกษตรง่ายๆ ในบ้านบนพื้นที่ 1 ไร่
เจ้าของ : คุณอรรถกานท์ พิมพ์วงศ์ คุณเบญจมาศ อ่อนกล่ำผล และเด็กชายในศีล พิมพ์วงศ์
บ้านสีขาวที่ให้กลิ่นอายของบ้านริมทะเล ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ที่แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับการปลูกพืชผักไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ และยังได้เลี้ยงไก่ไข่ เพื่อให้มีผลผลิตพร้อมเก็บกินได้ทุกวัน โดยสร้างเล้าไก่ให้มีลักษณะคล้ายบ้านหลังย่อมๆ เลือกใช้โทนสีเขียวสดใส เหมาะสมกับวัยลูกชาย ผู้รับหน้าที่หลักในการผสมอาหารให้ไก่กิน ทำให้เด็กน้อยได้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง พร้อมไปกับการเรียนรู้เรื่องเกษตรและธรรมชาติ >> อ่านต่อ
ชีวิตธรรมดาในบ้านไม้ใต้ถุนสูง
เจ้าของ : คุณสายันต์ ทิพย์แสง และคุณอารมณ์ วิรัชศิลป์
สถาปนิก : Studio Miti โดยคุณประกิจ กัณหา
ตกแต่งภายใน : บริษัทเอเดค อินทีเรียส์ จำกัด
บ้านไม้ใต้ถุนสูงแบบไทยๆที่วางแผนทำเกษตรผสมผสานตามทฤษฎีของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อการใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตัวเองได้ นอกจากพื้นที่ที่แบ่งไปทำการเกษตรอย่างการทำนา ปลูกพืชไร่พืชสวน ขุดบ่อเลี้ยงปลาแล้ว ยังแบ่งพื้นที่สำหรับเลี้ยงไก่ไว้ด้วย โดยออกแบบเล้าไก่ให้มีลักษณะที่จำลองรูปแบบและลดทอนมาจากรูปทรงของบ้านให้ดูกลมกลืนกัน เจ้าของบ้านยังเปิดเพลงเพื่อให้ไก่ในเล้าอารมณ์ดี และออกผลผลิตคุณภาพดีมาให้รับประทาน >> อ่านต่อ
สวนคนเมืองขนาดเล็ก แต่สามารถปลูกผักและเลี้ยงไก่ไข่ไว้บริโภคได้ตลอดทั้งปี
เจ้าของ : คุณศุภวุฒิ – คุณบุพพรรณ บุญมหาธนากร
ออกแบบ : บริษัทใจบ้านสตูดิโอ จำกัด โดยคุณศุภวุฒิ บุญมหาธนากร
บ้านชั้นเดียวขนาดกะทัดรัดที่ตกแต่งภายนอกอย่างเรียบง่าย โดยเน้นจัดสวนที่ประกอบด้วยพืชผักสมุนไพรรับประทานได้ที่ปลูกคละกันอย่างเป็นธรรมชาติ โดยนำหลักการ Permaculture มาใช้ นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีเล้าไก่ดีไซน์เรียบง่าย เจ้าของบ้านบอกว่านอกจากให้ไข่อย่างน้อยวันละ 2 ฟองแล้ว มูลไก่ยังนำไปหมักกับเศษใบไม้ ใช้เป็นปุ๋ยคอกสำหรับบำรุงต้นไม้ในสวนได้อีกด้วย >> อ่านต่อ
เรื่อง : JOMM YB
เรียบเรียง : Tarnda
ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน นิตยสาร my home และบ้านไร่ไออรุณ