11 พรรณไม้เมตตามหานิยม ตามความเชื่อไทย ปลูกแล้วคนรัก คนหลง สมหวังในรัก พร้อมวิธีนำไปใช้

แม้จะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ยังหาข้อพิสูตรไม่ได้ แต่พรรณ ไม้เมตตาม หานิยมเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นว่านและพรรณไม้ประจำถิ่นของไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ และปลูกเพื่อความสวยงามได้

นอกจากนั้นพรรณไม้ส่วนใหญ่ยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจอีกด้วย ซึ่งหากคุณนำไปใช้เพื่อเสริมความมั่นใจ ไม่ว่าตัวคุณจะหน้าตาแบบไหนก็ย่อมสามารถสร้างความประทับใจให้กับคนที่คุณหลงรักหรือแอบชอบอยู่ได้ ไม่มากก็น้อย โดยเราได้อ้างอิงมาจากหนังสือ “ว่าน สมุนไพร ไม้มงคลไทย” โดยคุณณรงค์ศักดิ์ ค้านอธรรม ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลมาจากตำราสมุนไพรและความเชื่อโบราณของไทย

ว่านดอกทอง

1.ว่านดอกทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma cf. pierreana Gagnep.

มีอำนาจในทางเพศรุนแรงมาก ใช้ได้ทั้งราก หัว ต้น ใบ และดอก แม้แต่น้ำที่รดต้นว่าน ถ้าใครได้สัมผัส โดยเฉพาะเพศหญิง จะเกิดอาการทางเพศรุนแรงมาก ถ้านำหัว ต้น หรือใบ ใส่ลงในภาชนะที่บรรจุน้ำ เช่น โอ่ง บ่อน้ำ ผู้ใดกินเข้าไปจะมีความรู้สึกทางเพศอย่างรุนแรง หลงงมงายอยู่ในกามโลก หากใครได้กลิ่นหอมของว่านชนิดนี้ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย จะพากันมัวเมาอยู่ในโลกียรสมิได้สร่างซา จึงนิยมเด็ดดอกแล้วนำไปแช่น้ำมันเก็บไว้ใช้เป็นยาเสน่ห์ หากปลูกไว้ตามบ้าน ร้านค้า เรือค้า ห้างร้าน บริษัทต่างๆ สถานที่เริงรมย์ หรือแหล่งสำราญ ตามบาร์ ตามไนท์คลับ ย่อมเป็นมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม มีผู้คนไปอุดหนุนจุนเจืออยู่มิขาด หากได้ปลูกคู่กับว่านดอกทองตัวผู้ยิ่งวิเศษนัก เพราะเป็นว่านคู่กัน และมีสรรพคุณเหมือนกันทั้งสองชนิด ซึ่งโบราณท่านว่าถ้าเป็นผู้ชายให้ปลูกว่านดอกทองตัวเมีย ผู้หญิงให้ปลูกว่านดอกทองตัวผู้ หากใช้ทำเสน่ห์เมตตามหานยิ ม ให้นำหัวว่านที่แก่เต็มที่ หรือช่อดอกมาบดเป็นผง แช่น้ำมันจันทน์ แล้วเสกด้วยคาถา “จันโทอะภิกันตะโร ปิติปิโย เทวะมนุสานัง อิตถีโยปริโส มะอะอุ อิสวาสุ อิกะวิติ” 108 จบ ใช้แต้มตามตัวจะให้ผลวิเศษนัก

ว่านเทพรัญจวญ

2.ว่านเทพรัญจวญ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma parviflora Wall.
พรรณไม้ทางเสน่ห์เมตตามหานิยมและช่วยคุ้มภัย หากปลูกไว้จะเป็นมหามงคลยิ่ง ว่านเทพรัญจวน ให้นำหัวมาบดผสมกับสีผึ้งทาปาก แล้วเสกด้วยคาถา
“มะอะอุ สัพพัสสะ ถะปูชิตา สัพพะโก ตะวิทสังติ เอหิมะมะ อิธะเจตะโส ทัมหัง พันจหาหิ ถามะสา” ใช้ทาปากเวลาพูดกับสตรี บ้างก็ใช้คาถาเทพรัญจวน จะช่วยให้สามีภรรยาที่ร้างรากันไปกลับมารักกันอีก

ว่านมหาเสน่ห์

3.ว่านมหาเสน่ห์
ชื่อวิทยาศาสตร์ Elettariopsis wandokthong Picheans. & Yupparach

เป็นต้นไม้เสี่ยงทายโชคลาภและเสน่ห์เมตตา-มหานิยม หากปลูกไว้หน้าบ้านช่วยให้ค้าขายดี โดยเฉพาะตอนออกดอก จะทำให้ลูกค้างวยงง หลงใหล สรรพคุณ
เช่นเดียวกับว่านดอกทอง บางท่านเรียกว่า ว่านดอกทอง

นางพญาหงส์ทอง

4.นางพญาหงส์ทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Globba schomburgkii Hook.f.

ต้นไม้มงคลทางเมตตามหานิยมทดี่ ยิ่งนักหากจะเดนิ ทางไปไหน ให้พกหัวว่านติดตัวไปด้วย ต้องเสกด้วยคาถา “มะอะอุ พุทธะสังฆามิ นะชาลีติ” 3 จบ จึงจะเป็นเสน่ห์มหานิยม ได้รับความเมตตา ความเอ็นดูจากผู้พบเห็น บางตำรากล่าวว่า หัวและดอกใช้ทำเสน่ห์ได้ดี โดยนำมาบดให้ละเอียดเป็นผง ผสมกับสีผึ้งทาปาก แล้วเสกด้วยคาถา “นะโมพุทธายะ นะเมตตาโมกรุณา พุทมิให้ว่า ธาให้หลง ยะให้งงหลงใหล เมตตานะนะมะพะทะ” 7 จบ หรือผสมกับน้ำมันจันทน์ ใช้เจิมหน้าผาก ก่อนเดินทางไปติดต่อธุรกิจการงาน จะทำให้ผู้อื่นหลงใหลในตัวเรา ว่านต้นนี้ชาวบ้านในอำเภอไทรโยคและอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เรียก ว่านดอกทอง ก็มี

ดอกเข้าพรรษา

5.เข้าพรรษา (ว่านกระจายทอง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Globba sp.

นิยมปลูกไว้กับบ้านเรือนเพื่อเป็นสิริมงคล เมตตามหานิยม โบราณใช้หัวหรือดอกมาบดรวมกับว่านกระจายเงิน ว่านกระจายนาก แล้วผสมกับดินสอพอง หรือแป้งหอมผัดหน้าเพื่อเป็นเสน่ห์มหานิยมหรือผสมกับสีผึ้งใช้ทาปากก็ได้ โดยใช้ดอกเพียงอย่างเดียว ก่อนใช้ให้เสกด้วย “โสภะคะวา อิติปิอะระหัง สัมมาสัมพุทโธ โสภะคะวา อิติปิอะระหัง สุคะโต โสภะคะวา อิติปิอะระหัง อะนุตตะโร โสภะคะวา อิติปิอะระหัง ปุริสะ ทัมมะสาระถิ โสภะคะวา อิติปิอะระหัง สัตถาเทวะมะ นุสสานัง โสภะคะวา อิติปิอะระหัง พุทโธ โสภะคะวา อิติปิอะระหัง ภะคะวาติ” ท่อง 7 จบ หรือนำมาปั้นเป็นแท่ง ใช้ลงอักขระทางเสน่ห์เมตตามหานิยม

บัวสวรรค์

6.บัวสวรรค์ (ขุนแผนสะกดทัพ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Zephyranthes grandiflora Lindl.

หากพกติดตัวไว้จะมีเมตตามหานิยม ถ้าต้องการให้ผู้อื่นเคลิบเคลิ้ม ควรเสกด้วยคาถาฤาษีแปลงสาร “ภะคะวา สุคะโต อะระหัง” 7 จบ หากนำหัวมากินจะช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน ส่วนว่านแสนนางล้อมเชื่อว่า หากปลูกไว้ในบ้านจะช่วยป้องกันอัคคีภัยและป้องกันพิษว่านยาหรือภยันตรายต่างๆ

ขันหมาก

7.ขันหมาก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Aglaonema simplex (Blume) Blume

หากใครปลูกเลี้ยงไว้อย่างดี เสมือนผู้นั้นมีของวิเศษเป็นกายสิทธิ์ หากกินผลของว่านนี้เข้าไปเมื่อใด จะทำให้เกิดเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น และเป็นของกายสิทธ์ิ บันดาลให้ผ้กููกินทรงความเป็นหน่มุ สาวตลอดไม่รู้จักแก่ อายุยืน ฟันไม่หัก ผมไม่หงอก เนื้อหนังเต่งตึงไม่เหี่ยวย่น มีพละกำลังมากมาย คงทนต่ออาวุธทั้งปวง เดินเหินคล่องแคล่ว ไม่รู้จักเมื่อยขบบางท้องถิ่นนิยมนำมาใช้ในขบวนแห่ขันหมาก เพราะถือเป็นต้นไม้มงคล จึงได้ชื่อว่า ว่านขันหมาก

เสน่ห์จันทร์ขาว

8.เสน่ห์จันทร์ขาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ Homalomena lindenii (Rodigas) Lindl.

เสน่ห์เมตตามหานิยม ในสมัยโบราณหญิงและชายนิยมปลูกเลี้ยงไว้เพื่อเป็นเสน่ห์แก่ตน หากนำหัวมาแกะเป็นรูปนางกวัก ในระหว่างที่แกะให้ตั้งจิตเป็นสมาธิและเจริญภาวนาคาถา “นะโมพุทธายะ”ตลอดเวลาจนกว่าจะเสร็จ หลังจากนั้นทำความสะอาดแล้วใส่รูปนางกวักลงในขันหิน นำไปตั้งไฟหุงด้วยน้ำมันจันทน์ ขณะที่ใส่น้ำมันจันทน์ลงขันภาวนาคาถา “นะโมพุทธายะ” กำกับด้วยตลอดเวลา ขณะที่หุงว่านและนำ้มันภาวนาคาถา “อิติปิ โส ภะคะวาถึงภะคะวาติ” ให้ได้100 จบ แล้วต่อด้วยคาถา “นะโมพุทธายะ” อีก 100 จบสลับกันไปจนกว่าน้ำมันเดือด จึงนำรูปนางกวักขึ้น โดยทำทักษิณาวรรตรอบขันน้ำมัน 3 รอบ หาภาชนะมาใส่เก็บไว้ในที่สูง หมั่นปฏิบัติบูชาจะเกิดลาภผลสมความปรารถนา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับร้านค้าขายทั่วไป หากแกะให้มีขนาดเล็กนำมาพกติดตัว ย่อมมีเสน่ห์ เป็นที่ต้องตาต้องใจแก่ผู้พบเห็น

สาวร้อยผัว

9.สาวร้อยผัว

ชื่อวิทยาศาสตร์ Asparagus racemosus Willd.

ในอินเดียมีชื่อภาษาสันสกฤตว่า ศตาวรี(Shatãvarî) หมายถึง ต้นไม้ที่มีรากหนึ่งร้อยรากบางตำราว่าหมายถึง ผู้หญิงที่มีร้อยสามี นอกจากนี้ยังเป็นสมุนไพรที่เคยกล่าวถึงในคัมภีร์พระเวทที่มีมาก่อนอายุรเวท ถือได้ว่าเป็นยาบำรุงของสตรีที่ใช้กันมานานหลายพันปีแล้ว เพราะช่วยให้ผู้หญิงดูสวยและสาวตลอดเวลา คล้ายๆ สาวสองพันปี นอกจากนี้ยังช่วยแก้ภาวะประจำเดือนไม่ปกติ ปวดประจำเดือน มีบุตรยาก ตกขาวเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หมดประจำเดือน ช่วยบำรุงน้ำนม บำรุงครรภ์ ป้องกันการแท้ง หรือจะใช้กับผู้ชายเพื่อ ช่วยเพิ่ม พลัง ทางเพศ สรรพคณุ อนื่ ๆ มากมายเช่น ใช้เป็นยาแก้ไอ ยารักษาโรคกระเพาะ ยาแก้บิดแก้ไข้ แก้อักเสบที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในอินเดียปัจจุบันมีสารสกัดตัวยาสำคัญมาจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาจากการศึกษาวิจัยเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค มีการผลิตเป็นยารักษาโรคกระเพาะ โดยกินในรูปผงแห้งของราก ช่วยลดกรดที่เกิน (acid dyspepsia) เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโทรเจน จึงห้ามใช้กับสตรีที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เช่น ผู้ป่วยโรคuterine fribrosis หรือ fibrocystic breastส่วนในเมืองไทยคาดว่าได้ข้อมูลมาจากชาวอินเดียเช่นกัน และเรียกกันว่า “สาวร้อยผัว” โดยนำรากมาต้มกิน หรือตากแห้ง บดเป็นผง ปั้นเป็นลูกกลอนกินกับนำ้ผึ้ง ปัจจับันชื่อนี้แทบไมม่ ใครรู้จักแล้วยกเว้นลูกหลานหมอยาบางคนที่เคยได้ยินปู่และพ่อพูดถึงอยู่บ้าง บางท้องถิ่นมักนำรากสะสมอาหารมาทุบหรือแช่อิ่มกินเป็นขนม ส่วนในภาคอีสานนำรากมาทุบหรือฝนกับน้ำทำเป็นน้ำสบู่ซักเสื้อผ้าได้อีกด้วย หรือใช้เป็นไม้ประดับแจกัน เพราะมีใบ กิ่งก้านสวยงามมาก

ว่านจูงนาง

10.ว่านจูงนาง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Geodorum recurvum (Roxb.) Alston

ต้นไม้เมตตามหานิยม ดอกหรือต้นนำมาแช่น้ำมันจันทน์หรือบดผสมสีผึ้งแล้วเสกคาถา “ปาสุอุชา จิตตังภิกขิรินิเม” 7 จบ จะให้ผลวิเศษยิ่ง

ว่านเสน่หา

11.ว่านเสน่หา
ชื่อวิทยาศาสตร์ Alpinia mutica Roxb.

ต้นไม้ช่วยเสน่ห์เมตตามหานิยมในทางชู้สาว ถ้าผู้เป็นพ่อม่ายแม่ร้างปลูกไว้แล้วอธิษฐานหาคู่จะได้สมดังประสงค์ หากปลูกไว้ก้บบ้านจะมีผู้มาเยี่ยมเยือนไม่ขาด